NEDA จับมือ EXIM BANK ปล่อยกู้ 1,300 ล้านบาทแก่รัฐบาลกัมพูชา โดยมีเงื่อนไขให้รัฐบาลกัมพูชานำไปใช้ซื้อสินค้าและว่าจ้างผู้รับเหมาไทยพัฒนาทางหลวงหมายเลข 67 จากอันลองเวงถึงเสียมราฐ เพื่ออำนวยความสะดวกการคมนาคมขนส่งทางบกและธุรกิจการค้าและการลงทุนระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือทางการเกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยไปกัมพูชา
ร้อยโทนพดล พันธุ์กระวี ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์กรมหาชน) (NEDA) ดร.อภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และ Mr. Keat Chhon, Senior Minister, Ministry of Economy and Finance ของกัมพูชา ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้ 1,300 ล้านบาท เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชานำไปใช้ซื้อสินค้า อุปกรณ์และบริการจากไทยในการดำเนินโครงการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 67 จากอันลองเวงไปเสียมราฐ ณ โรงแรม InterContinental กรุงพนมเปญ กัมพูชา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ความสนับสนุนทางการเงินของไทยที่ให้แก่กัมพูชาในครั้งนี้มีขึ้นตามความริเริ่มของ NEDA ที่ต้องการผลักดันการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางบกที่สำคัญในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจของไทยโดยเฉพาะผู้ประกอบการท้องถิ่นและประชาชนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสอดคล้องกับแผนพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK ต้องดำเนินไปตามเงื่อนไขของการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนของไทยในต่างประเทศ สัญญาเงินกู้จึงกำหนดให้รัฐบาลกัมพูชานำเงินไปใช้ว่าจ้างบริษัทผู้รับเหมาและที่ปรึกษาโครงการของไทย รวมทั้งซื้อสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องจากไทยเพื่อการพัฒนาทางหลวงสาย 67 ตั้งแต่ช่วงอันลองเวงถึงเสียมราฐของกัมพูชา ระยะทางยาว 131 กิโลเมตร 2 ช่องจราจร ซึ่งเชื่อมต่อมายังจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษของไทย
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อการปรับปรุงถนนช่วงดังกล่าวแล้วเสร็จในปี 2553 การเดินทางไปมาหาสู่และธุรกิจการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับกัมพูชาจะดำเนินไปโดยสะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงธุรกิจการท่องเที่ยวจากอีสานตอนใต้ของไทยไปยังเสียมราฐซึ่งเป็นที่ตั้งนครวัดนครธม หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก อันจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินค้าส่งออกของไทยในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น โดยสินค้าสำคัญได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือทางการเกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารไทยได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในกัมพูชา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140—6
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สิงหาคม 2549--
-พห-
ร้อยโทนพดล พันธุ์กระวี ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์กรมหาชน) (NEDA) ดร.อภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และ Mr. Keat Chhon, Senior Minister, Ministry of Economy and Finance ของกัมพูชา ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้ 1,300 ล้านบาท เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชานำไปใช้ซื้อสินค้า อุปกรณ์และบริการจากไทยในการดำเนินโครงการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 67 จากอันลองเวงไปเสียมราฐ ณ โรงแรม InterContinental กรุงพนมเปญ กัมพูชา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ความสนับสนุนทางการเงินของไทยที่ให้แก่กัมพูชาในครั้งนี้มีขึ้นตามความริเริ่มของ NEDA ที่ต้องการผลักดันการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางบกที่สำคัญในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจของไทยโดยเฉพาะผู้ประกอบการท้องถิ่นและประชาชนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสอดคล้องกับแผนพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK ต้องดำเนินไปตามเงื่อนไขของการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนของไทยในต่างประเทศ สัญญาเงินกู้จึงกำหนดให้รัฐบาลกัมพูชานำเงินไปใช้ว่าจ้างบริษัทผู้รับเหมาและที่ปรึกษาโครงการของไทย รวมทั้งซื้อสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องจากไทยเพื่อการพัฒนาทางหลวงสาย 67 ตั้งแต่ช่วงอันลองเวงถึงเสียมราฐของกัมพูชา ระยะทางยาว 131 กิโลเมตร 2 ช่องจราจร ซึ่งเชื่อมต่อมายังจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษของไทย
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อการปรับปรุงถนนช่วงดังกล่าวแล้วเสร็จในปี 2553 การเดินทางไปมาหาสู่และธุรกิจการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับกัมพูชาจะดำเนินไปโดยสะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงธุรกิจการท่องเที่ยวจากอีสานตอนใต้ของไทยไปยังเสียมราฐซึ่งเป็นที่ตั้งนครวัดนครธม หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก อันจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินค้าส่งออกของไทยในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น โดยสินค้าสำคัญได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือทางการเกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารไทยได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในกัมพูชา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140—6
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สิงหาคม 2549--
-พห-