รถสิบล้อคันแล้วคันเล่าแล่นเข้ามาจอดรอคิวเทกองหัวมันสำปะหลังที่บรรทุกมาเต็มคันรถตรงหน้าประตูโรงงาน ขณะที่คนงานชายผู้หนึ่งตั้งหน้าตั้งตาเดินเครื่องรถตัก เร่งโกยมันสำปะหลังกองโตป้อนเข้าสู่โรงงาน เป็นบรรยากาศการทำงานที่ทำให้ลานกว้างด้านหน้าโรงแป้งสหสินวัฒนาดูแคบลงไปถนัดตาในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวเช่นนี้
คุณนพนันท์ สุธรรมโน หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงแป้งสหสินวัฒนา บอกว่าหัวมันสำปะหลังที่เห็นตรงหน้าจะถูกป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งแป้งมัน กลูโคสและแป้งดัดแปรสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร กระดาษ และก้าวต่อไป โดยสินค้าทั้งสามกลุ่มจะถูกส่งออกเกือบทั้ง 100% ไปยังตลาดนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ปาปัวนิวกีนี อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี เวียดนาม แอฟริกาใต้ และสแกนดิเนเวีย
"เราเริ่มจากส่งออกสินค้าตู้แรกไปยังลูกค้าไอร์แลนด์ในมาเลเซียในช่วงวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยเมื่อ 2540 จากนั้นจึงส่งออกมากขึ้นด้วยความติดใจในโอกาสทางธุรกิจที่มีอยู่นับร้อยตลาดในประเทศต่างๆทั่วโลกซึ่งบอกได้เลยว่าทั้งโลกนี้ไม่มีตลาดใหม่ มันเพียงแค่ใหม่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเจ้าไปเท่านั้นคุณนพนันท์กล่าว"
สำหรับหลักการสร้างส่วนแบ่งตลาด คุณนพนันท์กล่าวว่า เขาไม่เน้นการแข่งขันด้านราคา แต่จะเสนอจุดขายที่ไม่ซ้ำใคร ได้แก่สินค้าที่แปลกใหม่และตรงใจลูกค้าแต่ละราย พร้อมเครดิตความน่าเชื่อถือของตัวเองและของห้างหุ้นส่วนจำกัดที่สั่งสมมาหลายสิบปี และหลักการนี้ได้ดึงดูดให้โรงงานแป้งสหสินวัฒนามีลูกค้าประจำเป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกที่ทยอยเข้ามาทำความรู้จักและสมัครเป็นคู่ค้า
คุณนพนันนท์ขยายความถึงสินค้าที่แปลกใหม่และตรงใจลูกค้าว่าเป็นการพัฒนาสินค้าให้มีคุณสมบัติเฉพาะอย่างที่ลูกค้ารายนั้นๆต้องการ หรือหากยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ โรงแป้งสหสินวัฒนาก็จะเสนอ "แพคเกจใหม่" ประกอบด้วยการนำเสนอสินค้าตัวเดิมพ่วงไปกับเงื่อนไขการค้าใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า เพื่อช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตและมั่นคง เป็นคู่ค้าที่ดีต่อกันในระยะยาว
ธุรกิจผลิตมันสำปะหลังที่บิดาของเขาสร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงบนผืนดินอันว่างเปล่าในอำเภอโป่งน้ำร้อนจังหวัดจันทบุรี เมื่อปี 2517 จึงค่อยๆเติบโตและรุกคืบสร้างส่วนแบ่งตลาดต่างประเทศในปี 2540 โดยมีสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงยุคโลกไร้พรมแดนที่การค้าดำเนินไปอย่างเสรีและมีการเข่งขันรุนแรงขึ้นทุกขณะในปัจจุบัน โดยคุณนพนันนท์ ผู้รับช่วงบริหารกิจการต่อจากบิดาตั้งแต่ปี 2535 บอกว่าเขาพร้อมรับและเอาชนะทุกสถานการณ์ด้วยหลักการ "คิดอย่างสร้างสรรค์" และทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
ด้วยเหตุนี้ คุณนพนันนท์จึงไม่เคยประสบกับ "อุปสรรคทางการค้า" และไม่เคยถือว่าผู้ผลิตรายอื่นเป็น "คู่แข่ง" เขาเพียงแตทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการปรับวางแนวทางดำเนินและขยายธุรกิจ รวมทั้งเครือข่ายทางธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปบนความพร้อมความเหมาะสมของปัจจัยแวดล้อม และความเสี่ยงธุรกิจที่เขาสามารถควบคุมได้
เมื่อได้ยินคุณนพนันนท์บอกว่าเขาเป็นผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ที่ยังมี "ความโลภ" และ "ความสุข" กับการค้นหาโอกาสทางธุรกิจที่ไม่จุดสิ้นสุดของตลาดส่งออก คงต้องขอบคุณความโลภของเขาที่ช่วยแปรเปลี่ยนพืชผลเกษตรให้กลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่า ต่อเติมความชุ่มชื้นให้กับทุกชีวิตทั้งที่อยู่ข้างบนและใต้ดิน ทำให้เกษตรกร คนงาน และคู่ค้าที่เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของโรงแป้งสหสินวัฒนามีใบหน้าที่เปื้อนยิ้มและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "มันดีจริงๆ"
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เมษายน 2549--
-วส/พห-
คุณนพนันท์ สุธรรมโน หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงแป้งสหสินวัฒนา บอกว่าหัวมันสำปะหลังที่เห็นตรงหน้าจะถูกป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งแป้งมัน กลูโคสและแป้งดัดแปรสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร กระดาษ และก้าวต่อไป โดยสินค้าทั้งสามกลุ่มจะถูกส่งออกเกือบทั้ง 100% ไปยังตลาดนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ปาปัวนิวกีนี อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี เวียดนาม แอฟริกาใต้ และสแกนดิเนเวีย
"เราเริ่มจากส่งออกสินค้าตู้แรกไปยังลูกค้าไอร์แลนด์ในมาเลเซียในช่วงวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยเมื่อ 2540 จากนั้นจึงส่งออกมากขึ้นด้วยความติดใจในโอกาสทางธุรกิจที่มีอยู่นับร้อยตลาดในประเทศต่างๆทั่วโลกซึ่งบอกได้เลยว่าทั้งโลกนี้ไม่มีตลาดใหม่ มันเพียงแค่ใหม่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเจ้าไปเท่านั้นคุณนพนันท์กล่าว"
สำหรับหลักการสร้างส่วนแบ่งตลาด คุณนพนันท์กล่าวว่า เขาไม่เน้นการแข่งขันด้านราคา แต่จะเสนอจุดขายที่ไม่ซ้ำใคร ได้แก่สินค้าที่แปลกใหม่และตรงใจลูกค้าแต่ละราย พร้อมเครดิตความน่าเชื่อถือของตัวเองและของห้างหุ้นส่วนจำกัดที่สั่งสมมาหลายสิบปี และหลักการนี้ได้ดึงดูดให้โรงงานแป้งสหสินวัฒนามีลูกค้าประจำเป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกที่ทยอยเข้ามาทำความรู้จักและสมัครเป็นคู่ค้า
คุณนพนันนท์ขยายความถึงสินค้าที่แปลกใหม่และตรงใจลูกค้าว่าเป็นการพัฒนาสินค้าให้มีคุณสมบัติเฉพาะอย่างที่ลูกค้ารายนั้นๆต้องการ หรือหากยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ โรงแป้งสหสินวัฒนาก็จะเสนอ "แพคเกจใหม่" ประกอบด้วยการนำเสนอสินค้าตัวเดิมพ่วงไปกับเงื่อนไขการค้าใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า เพื่อช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตและมั่นคง เป็นคู่ค้าที่ดีต่อกันในระยะยาว
ธุรกิจผลิตมันสำปะหลังที่บิดาของเขาสร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงบนผืนดินอันว่างเปล่าในอำเภอโป่งน้ำร้อนจังหวัดจันทบุรี เมื่อปี 2517 จึงค่อยๆเติบโตและรุกคืบสร้างส่วนแบ่งตลาดต่างประเทศในปี 2540 โดยมีสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงยุคโลกไร้พรมแดนที่การค้าดำเนินไปอย่างเสรีและมีการเข่งขันรุนแรงขึ้นทุกขณะในปัจจุบัน โดยคุณนพนันนท์ ผู้รับช่วงบริหารกิจการต่อจากบิดาตั้งแต่ปี 2535 บอกว่าเขาพร้อมรับและเอาชนะทุกสถานการณ์ด้วยหลักการ "คิดอย่างสร้างสรรค์" และทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
ด้วยเหตุนี้ คุณนพนันนท์จึงไม่เคยประสบกับ "อุปสรรคทางการค้า" และไม่เคยถือว่าผู้ผลิตรายอื่นเป็น "คู่แข่ง" เขาเพียงแตทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการปรับวางแนวทางดำเนินและขยายธุรกิจ รวมทั้งเครือข่ายทางธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปบนความพร้อมความเหมาะสมของปัจจัยแวดล้อม และความเสี่ยงธุรกิจที่เขาสามารถควบคุมได้
เมื่อได้ยินคุณนพนันนท์บอกว่าเขาเป็นผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ที่ยังมี "ความโลภ" และ "ความสุข" กับการค้นหาโอกาสทางธุรกิจที่ไม่จุดสิ้นสุดของตลาดส่งออก คงต้องขอบคุณความโลภของเขาที่ช่วยแปรเปลี่ยนพืชผลเกษตรให้กลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่า ต่อเติมความชุ่มชื้นให้กับทุกชีวิตทั้งที่อยู่ข้างบนและใต้ดิน ทำให้เกษตรกร คนงาน และคู่ค้าที่เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของโรงแป้งสหสินวัฒนามีใบหน้าที่เปื้อนยิ้มและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "มันดีจริงๆ"
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เมษายน 2549--
-วส/พห-