นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยถึงภาวะการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยในปี 2548 ว่ามีมูลค่าทั้งสิ้น 6,721.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 268,983.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 5.0 โดยแบ่งเป็นการส่งออกเครื่องนุ่งห่มมูลค่า 3,482.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสิ่งทอ 3,239.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 51.8 และ 48.2 ตามลำดับ
ตลาดส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่สำคัญของไทยในปี 2548 ลำดับ 1-3 ยังคงเป็น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีมูลค่าการส่งออก 2,120.2 1,212.9 และ 413.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 31.5 18.0 และ 6.2 ตามลำดับ โดยการส่งออกไปสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 1.8 และ 1.5 ขณะที่ญี่ปุ่น มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 3.7
สำหรับจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 4 ของไทย มีมูลค่าการส่งออก 283.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 4.2 เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 6.5 โดยส่งออกเส้นใยประดิษฐ์มากที่สุด 92.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.7 รองลงมาคือ ผ้าผืน มูลค่า 69.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 11.8
นายราเชนทร์ พจนสุนทร ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ภาพรวมการส่งออกของไทยภายหลังการเปิดเสรีสิ่งทอในปี 2548 จะมีอัตราการการขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 5 ทั้งนี้เป็นผลจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากประเทศคู่แข่งที่มีราคาต่ำกว่า โดยเฉพาะจีน และการขาดแคลนแรงงานในประเทศ ทำให้อัตราการขยายตัวการส่งออกไม่เพิ่มขึ้นมากเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี 2549 การส่งออกของไทยจะเพิ่มขึ้นมาก และเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2549 คือ เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 12 เนื่องจากผลของการลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะญี่ปุ่นในเร็วๆนี้ และหากไทยสามารถเจรจาตกลงกับสหรัฐฯ ได้ในปี 2549
สำหรับการนำเข้าสิ่งทอในปี 2548 มีมูลค่า 2,928.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 8.4 โดยสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่ร้อยละ 94.9 เป็น สินค้าสิ่งทอเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต (ผ้าผืน เส้นใย เส้นด้าย) สำหรับเสื้อผ้าสำเร็จรูปมี สัดส่วนเพียงร้อยละ 5.1 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-
ตลาดส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่สำคัญของไทยในปี 2548 ลำดับ 1-3 ยังคงเป็น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีมูลค่าการส่งออก 2,120.2 1,212.9 และ 413.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 31.5 18.0 และ 6.2 ตามลำดับ โดยการส่งออกไปสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 1.8 และ 1.5 ขณะที่ญี่ปุ่น มีอัตราการขยายตัวลดลงร้อยละ 3.7
สำหรับจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 4 ของไทย มีมูลค่าการส่งออก 283.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 4.2 เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 6.5 โดยส่งออกเส้นใยประดิษฐ์มากที่สุด 92.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.7 รองลงมาคือ ผ้าผืน มูลค่า 69.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 11.8
นายราเชนทร์ พจนสุนทร ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ภาพรวมการส่งออกของไทยภายหลังการเปิดเสรีสิ่งทอในปี 2548 จะมีอัตราการการขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 5 ทั้งนี้เป็นผลจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากประเทศคู่แข่งที่มีราคาต่ำกว่า โดยเฉพาะจีน และการขาดแคลนแรงงานในประเทศ ทำให้อัตราการขยายตัวการส่งออกไม่เพิ่มขึ้นมากเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี 2549 การส่งออกของไทยจะเพิ่มขึ้นมาก และเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2549 คือ เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 12 เนื่องจากผลของการลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะญี่ปุ่นในเร็วๆนี้ และหากไทยสามารถเจรจาตกลงกับสหรัฐฯ ได้ในปี 2549
สำหรับการนำเข้าสิ่งทอในปี 2548 มีมูลค่า 2,928.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 8.4 โดยสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่ร้อยละ 94.9 เป็น สินค้าสิ่งทอเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต (ผ้าผืน เส้นใย เส้นด้าย) สำหรับเสื้อผ้าสำเร็จรูปมี สัดส่วนเพียงร้อยละ 5.1 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-