วันนี้ ( 11 ก.ค.2549) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีที่หลายฝ่ายออกมาให้ความเป็นห่วงว่าการเมืองมีผลต่อปัญหาเศรษฐกิจว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นที่ทราบดีว่าวิกฤตทางการเมืองได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจค่อนข้างมากและยังพยายามมองผลกระทบในช่วงปลาย โดยมองจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ได้ไปมองว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร
โฆษก ปชป. กล่าวต่อไปว่า ตนอยากจะชี้ให้เห็นว่าวิกฤตการทางการเมืองที่มีผลต่อเศรษฐกิจในครั้งนี้เริ่มต้นมาจากการยุบสภาที่ไม่ชอบธรรมเพื่อหนีการอภิปรายเรื่องการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปในสภาผู้แทนราษฎรจนกระทั่งมีการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าเป็นการเลือกตั้งที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เป็นโมฆะไปเรียบร้อยแล้วจนกระทั่งจะมีการกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ซึ่งก็ยังไม่แน่นอนว่าจะมีเมื่อไร
“แต่ปรากฎว่าวิกฤตทางการเมืองก็ขยายตัวมากขึ้น โดยนายกฯได้ออกมาพูดจาถึงผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ (รธน.) ซึ่งไปใช้อำนาจนอกระบบในการสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง เพราะฉะนั้นวิกฤตทางการเมืองทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผลกระทบต่อทางเศรษฐกิจของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องการบริโภคการลงทุนภาคเอกชนซึ่งมีสัญญาณการชะลอตัวอย่างชัดเจน การเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า เนื่องจากอยู่ในช่วงของรัฐบาลรักษาการก็ส่งผลกระทบต่อตัวเลขการบริโภคของภาครัฐรวมทั้งส่งผลไปยังความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนในตลาดโลกด้วย”
โฆษก ปชป.ระบุอีกว่า ปัญหาที่จะตามมาก็คืออาจทำให้มูลค่าการส่งออกและการท่องเที่ยวมีตัวเลขที่ลดลงไปตรงนี้ก็จะเป็นปัญหาที่ตามมาซึ่งชัดเจนว่าการเมืองถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่กระทบต่อความมั่นใจทำให้นักลงทุนก็ดี นักบริโภคก็ดีมีความไม่มั่นใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ประกอบกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ก็จะเป็นเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมีปัญหาไปด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ปัญหาวิกฤตทางการเมืองที่ส่งผลกระทบถึงวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ล้วนแล้วเกิดจากการดำเนินงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลโดยท่านนายกฯ ที่คำนึงถึงการรักษาอำนาจของตนเองและก็พวกพ้องมากกว่าที่จะรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก มาถึงวันนี้ ตนคิดว่าถ้าท่านนายกฯ คิดถึงประโยชน์ของประชาชนจริงๆ วิกฤตการเมือง วิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังจะเป็นปัญหาขณะนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
“จนถึงวันนี้ก็อยากจะเรียกร้องให้ท่านนายกฯ เลิกคิดถึงสถานภาพของตนเองและยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งก็จะช่วยทำให้การเมืองไม่วิกฤตมากไปกว่านี้และก็จะไม่ส่งผลต่อประเทศของเรา” โฆษก ปชป.กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ก.ค. 2549--จบ--
โฆษก ปชป. กล่าวต่อไปว่า ตนอยากจะชี้ให้เห็นว่าวิกฤตการทางการเมืองที่มีผลต่อเศรษฐกิจในครั้งนี้เริ่มต้นมาจากการยุบสภาที่ไม่ชอบธรรมเพื่อหนีการอภิปรายเรื่องการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปในสภาผู้แทนราษฎรจนกระทั่งมีการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าเป็นการเลือกตั้งที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เป็นโมฆะไปเรียบร้อยแล้วจนกระทั่งจะมีการกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ซึ่งก็ยังไม่แน่นอนว่าจะมีเมื่อไร
“แต่ปรากฎว่าวิกฤตทางการเมืองก็ขยายตัวมากขึ้น โดยนายกฯได้ออกมาพูดจาถึงผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ (รธน.) ซึ่งไปใช้อำนาจนอกระบบในการสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง เพราะฉะนั้นวิกฤตทางการเมืองทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผลกระทบต่อทางเศรษฐกิจของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องการบริโภคการลงทุนภาคเอกชนซึ่งมีสัญญาณการชะลอตัวอย่างชัดเจน การเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า เนื่องจากอยู่ในช่วงของรัฐบาลรักษาการก็ส่งผลกระทบต่อตัวเลขการบริโภคของภาครัฐรวมทั้งส่งผลไปยังความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนในตลาดโลกด้วย”
โฆษก ปชป.ระบุอีกว่า ปัญหาที่จะตามมาก็คืออาจทำให้มูลค่าการส่งออกและการท่องเที่ยวมีตัวเลขที่ลดลงไปตรงนี้ก็จะเป็นปัญหาที่ตามมาซึ่งชัดเจนว่าการเมืองถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่กระทบต่อความมั่นใจทำให้นักลงทุนก็ดี นักบริโภคก็ดีมีความไม่มั่นใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ประกอบกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ก็จะเป็นเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมีปัญหาไปด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ปัญหาวิกฤตทางการเมืองที่ส่งผลกระทบถึงวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ล้วนแล้วเกิดจากการดำเนินงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลโดยท่านนายกฯ ที่คำนึงถึงการรักษาอำนาจของตนเองและก็พวกพ้องมากกว่าที่จะรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก มาถึงวันนี้ ตนคิดว่าถ้าท่านนายกฯ คิดถึงประโยชน์ของประชาชนจริงๆ วิกฤตการเมือง วิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังจะเป็นปัญหาขณะนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
“จนถึงวันนี้ก็อยากจะเรียกร้องให้ท่านนายกฯ เลิกคิดถึงสถานภาพของตนเองและยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งก็จะช่วยทำให้การเมืองไม่วิกฤตมากไปกว่านี้และก็จะไม่ส่งผลต่อประเทศของเรา” โฆษก ปชป.กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ก.ค. 2549--จบ--