นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจากสมัชชาแห่งชาติ วันนี้ถือว่าเป็นวันแห่งการเริ่มตั้นที่สำคัญของการเข้าสู่กระบวนการในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ อยากจะเห็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติทุกท่าน ใช้วิจารณญาณความรู้ความสามารถในการพิจารณาเลือกสรรบุคคล ที่คิดว่าจะสามารถเข้าไปทำหน้าที่ในการเป็นสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างมีคุณภาพ
“อยากให้ทุกท่านไตร่ตรองด้วยความรอบคอบ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังยกร่างในขณะนี้นั้น ถือได้ว่าเป็นผลพวงมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นจากบุคคลในทางการเมือง ที่นำมาสู่การที่จะต้องพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา”นายองอาจกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการกระทำของบุคคลในทางการเมือง ที่พยายามใช้ช่องว่างของรัฐธรรมนูญ มาเป็นประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง ในการที่รักษาอำนาจของตนไว้ให้นานที่สุด และเพื่อใช้อำนาจเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางไม่ชอบ ตรงนี้ตนคิดว่าผู้ที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ เพราะฉะนนั้นกระบวนการในการดำเนินการหนือจุดมุ่งหมายที่จะสรรหาบุคคลมาทำหน้าที่เหล่านี้ ต้องเป็นบุคคลที่มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาในอดีต และพร้อมที่จะเข้าไปป้องกันปัญหาในอดีตไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
นอกจากพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจ และ ความสามารถ การคัดเลือกคณะยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องมาจากบุคคลหลากหลายอาชีพ ทั้งรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เพราะฉะนั้นถ้าสมาชิกสภาร่างมีหลากหลายอาชีพ จะให้กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง
นอกจากนั้นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรคำนึงถึงหลักการทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องเป็นกระบวนการทางการเมืองที่มีความสะอาด บริสุทธิ์ โปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรม มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ นอกจากนี้ควรปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน จะต้องไม่ปิดกั้นและละเลย
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นอย่าให้เป็นเพียงถ้อยคำที่สวยหรู เพื่อให้เกิดความพึงพอใจของประชาชนเท่านั้น ข้อความปรากฏในรัฐธรรมนูญจะต้องปฏิบัติได้จริง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันที่ 19 ธ.ค. จะครบ 3 เดือนที่มีการยึดอำนาจ แต่ที่ผ่านมาพบว่าหลายเรื่องยังไม่ลงตัว เกิดช่องว่างมากระหว่าง คมช.รัฐบาล และสนช.เกินกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่ 3 ฝ่ายมีต้นกำเนิดเดียวกัน แต่หลายกรณีกลับมีเป้าหมายเฉพาะตนมากกว่าเป้าหมายหลัก ทำให้พันธกิจและการปฏิบัติไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันจนเกิดควรมขัดแย้งระหว่าตังองค์กร และตัวบุคคล แต่โชดดีที่นายกฯ และรัฐมนตรีมีต้นทุนทางสังคมสูง ประชาชนยังมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจรัฐบาลให้แก้ไขปัญหาประเทศชาติต่อไป ดังนั้นเพื่อให้เกิดความลงตัวมากขึ้นตนขอให้ทั้ง 3 ฝ่ายสร้างเอกภาพ มีเป้าหมายหมายและพันธกิจเดียวกัน คือ แก้ไขปัญหาของประเทศชาติให้เกิดผลตามที่ทุกฝ่ายอยากจะให้เป็น
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่าขณะนี้ได้รับรายงานว่า การคุ้มครองพยานบุคคลที่ไปให้ปากคำในคดีสำคัญกับ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. นั้นยังไม่ดีพอ เห็นได้จาก การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายที่เตรียมทำร้ายพยานปากสำคัญในคดีตรวจสอบทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร คลอง 9 จังหวัดปทุมธานี จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปสนับสนุนการทำงานของ คตส.ในส่วนการคุ้มครองพยาน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพลเมืองดี ในการให้ข้อมูลการทุจริตกับทั้ง คตส.และ ปปช. ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ธ.ค. 2549--จบ--
“อยากให้ทุกท่านไตร่ตรองด้วยความรอบคอบ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังยกร่างในขณะนี้นั้น ถือได้ว่าเป็นผลพวงมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นจากบุคคลในทางการเมือง ที่นำมาสู่การที่จะต้องพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา”นายองอาจกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการกระทำของบุคคลในทางการเมือง ที่พยายามใช้ช่องว่างของรัฐธรรมนูญ มาเป็นประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง ในการที่รักษาอำนาจของตนไว้ให้นานที่สุด และเพื่อใช้อำนาจเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางไม่ชอบ ตรงนี้ตนคิดว่าผู้ที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ เพราะฉะนนั้นกระบวนการในการดำเนินการหนือจุดมุ่งหมายที่จะสรรหาบุคคลมาทำหน้าที่เหล่านี้ ต้องเป็นบุคคลที่มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาในอดีต และพร้อมที่จะเข้าไปป้องกันปัญหาในอดีตไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
นอกจากพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจ และ ความสามารถ การคัดเลือกคณะยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องมาจากบุคคลหลากหลายอาชีพ ทั้งรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เพราะฉะนั้นถ้าสมาชิกสภาร่างมีหลากหลายอาชีพ จะให้กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง
นอกจากนั้นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรคำนึงถึงหลักการทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องเป็นกระบวนการทางการเมืองที่มีความสะอาด บริสุทธิ์ โปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรม มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ นอกจากนี้ควรปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน จะต้องไม่ปิดกั้นและละเลย
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นอย่าให้เป็นเพียงถ้อยคำที่สวยหรู เพื่อให้เกิดความพึงพอใจของประชาชนเท่านั้น ข้อความปรากฏในรัฐธรรมนูญจะต้องปฏิบัติได้จริง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันที่ 19 ธ.ค. จะครบ 3 เดือนที่มีการยึดอำนาจ แต่ที่ผ่านมาพบว่าหลายเรื่องยังไม่ลงตัว เกิดช่องว่างมากระหว่าง คมช.รัฐบาล และสนช.เกินกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่ 3 ฝ่ายมีต้นกำเนิดเดียวกัน แต่หลายกรณีกลับมีเป้าหมายเฉพาะตนมากกว่าเป้าหมายหลัก ทำให้พันธกิจและการปฏิบัติไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันจนเกิดควรมขัดแย้งระหว่าตังองค์กร และตัวบุคคล แต่โชดดีที่นายกฯ และรัฐมนตรีมีต้นทุนทางสังคมสูง ประชาชนยังมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจรัฐบาลให้แก้ไขปัญหาประเทศชาติต่อไป ดังนั้นเพื่อให้เกิดความลงตัวมากขึ้นตนขอให้ทั้ง 3 ฝ่ายสร้างเอกภาพ มีเป้าหมายหมายและพันธกิจเดียวกัน คือ แก้ไขปัญหาของประเทศชาติให้เกิดผลตามที่ทุกฝ่ายอยากจะให้เป็น
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่าขณะนี้ได้รับรายงานว่า การคุ้มครองพยานบุคคลที่ไปให้ปากคำในคดีสำคัญกับ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. นั้นยังไม่ดีพอ เห็นได้จาก การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายที่เตรียมทำร้ายพยานปากสำคัญในคดีตรวจสอบทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร คลอง 9 จังหวัดปทุมธานี จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปสนับสนุนการทำงานของ คตส.ในส่วนการคุ้มครองพยาน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพลเมืองดี ในการให้ข้อมูลการทุจริตกับทั้ง คตส.และ ปปช. ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ธ.ค. 2549--จบ--