วันนี้ 22 เม.ย.ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการแถลงข่าวถึงกรณีการฮั้วการเลือกตั้ง จ้างพรรคอื่นแข่งขันกับตัวเอง ตามที่อนุกรรมการกกต. ได้สอบสวนและสรุป และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้นำเสนอหลักฐานรวมทั้งพยานประกอบการสารภาพต่อกกต.ว่าได้มีผู้บริหารพรรคไทยรักไทยได้ว่าจ้างพรรคการเมือง 2 พรรค ในการส่งผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา และเลขาธิการกกต. ได้ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า คดีดังกล่าวอาจโยงใยไม่ถึงผู้ว่าจ้าง พร้อมกับสำทับว่าผู้ร้องอาจจะติดคุก ตลอดจนท่าทีของพรรคไทยรักไทยที่พยายามที่จะ โยนความผิดในเรื่องนี้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ กุเรื่อง สร้างหลักฐาน หรืออยู่เบื้องหลัง อีกทั้งขู่ว่า มีความผิดถึงขั้นยุบพรรคตามมาตรา 66 ตามพรบ.พรรคการเมืองนั้น นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีข้อเสนอต่อ กกต. 3 ประการ คือ 1. กกต. ควรทุ่มเทความพยายามในการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิด เพื่อสร้างมาตรฐานการตรวจสอบและลงโทษภายใต้ พระราชบัญญัติพรรคการเมือง และพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง ส.ส. และส.ว. โดยที่จะไม่ส่งสัญญาณในทางที่ผิดต่อสาธารณชน ซึ่งอาจจะทำให้กังขาได้ว่า กกต. พยายามที่จะตัดตอนการสอบสวนและช่วยเหลือผู้กระทำผิด ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ที่ตกต่ำอยู่ในปัจจุบันของ กกต. 2. กกต. จะต้องมีท่าทีที่เป็นกลาง และต้องร่วมมือกับผู้ร้องและพยาน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อรูปคดี มิใช่ข่มขู่หรือส่งสัญญาณเป็นท่าทีเสมือนหนึ่งข่มขู่ ผู้ร้องหรือพยาน ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อรูปคดี 3. กกต. ควรพิจารณายกเลิกผลการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่มีปัญหาจากการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้สมัครพรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย ทั้งนี้เพื่อให้ กกต. นั้นสามารถที่จะยืนหยัดต่อจุดยืนและหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องจัดการเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม
นอกจากนี้นายอลงกรณ์ ยังได้ให้ข้อเสนอต่อพรรคไทยรักไทย 3 ประการดังต่อไปนี้ 1. อย่าเบี่ยงเบนประเด็นเป็นเรื่องการเมือง และหยุดใส่ร้ายป้ายสีพรรคประชาธิปัตย์ 2. ขอให้พรรคไทยรักไทย ยึดหลักข้อเท็จจริงและยอมรับผลการสอบสวนของคณะกรรมการกกต. ตามที่ระบุว่ามีมูล และ 3. อย่าช่วยเหลือปกป้องผู้กระทำความผิด มิเช่นนั้นจะถือได้ว่าพรรคไทยรักไทยมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิด
นายอลงกรณ์กล่าวว่า “อย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เพราะว่าโดยข้อเท็จจริงและพยานที่ปรากฎนั้น มีหลักฐานซึ่ง กกต. ระบุว่ามีมูล คดีอย่างนี้เป็นคดีที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก และไม่ง่ายนักที่จะมีพยานหลักฐานในระดับนี้ และเชื่อว่าคดีนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. เป็นการเลือกตั้งที่ส่อการทุจริต ไม่โปร่งใส ขาดความสุจริต และเที่ยงธรรมอย่างชัดเจน”
พร้อมกันนี้นายอลงกรณ์ได้เรียกร้องให้ กกต. พิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้สามารถทำให้กกต. เป็นองค์กรกลางในการจัดการเลือกตั้งอย่างเที่ยงธรรม และสุจริต อีกทั้งขอให้ พรรคไทยรักไทยพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้ยืนอยู่ข้างการกระทำผิด หรือปกป้องอุ้มชู ผู้กระทำผิด แม้ว่าบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของพรรคก็ตาม เพื่อให้ประชาชนได้เกิดความมั่นใจได้ว่า พรรคไทยรักไทยนั้น ปากกับใจตรงกัน ทั้งนี้นายอลงกรณ์เชื่อว่าคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของไทย และพรรคประชาธิปัตย์จะได้ติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22 เม.ย. 2549--จบ--
นอกจากนี้นายอลงกรณ์ ยังได้ให้ข้อเสนอต่อพรรคไทยรักไทย 3 ประการดังต่อไปนี้ 1. อย่าเบี่ยงเบนประเด็นเป็นเรื่องการเมือง และหยุดใส่ร้ายป้ายสีพรรคประชาธิปัตย์ 2. ขอให้พรรคไทยรักไทย ยึดหลักข้อเท็จจริงและยอมรับผลการสอบสวนของคณะกรรมการกกต. ตามที่ระบุว่ามีมูล และ 3. อย่าช่วยเหลือปกป้องผู้กระทำความผิด มิเช่นนั้นจะถือได้ว่าพรรคไทยรักไทยมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิด
นายอลงกรณ์กล่าวว่า “อย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เพราะว่าโดยข้อเท็จจริงและพยานที่ปรากฎนั้น มีหลักฐานซึ่ง กกต. ระบุว่ามีมูล คดีอย่างนี้เป็นคดีที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก และไม่ง่ายนักที่จะมีพยานหลักฐานในระดับนี้ และเชื่อว่าคดีนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. เป็นการเลือกตั้งที่ส่อการทุจริต ไม่โปร่งใส ขาดความสุจริต และเที่ยงธรรมอย่างชัดเจน”
พร้อมกันนี้นายอลงกรณ์ได้เรียกร้องให้ กกต. พิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้สามารถทำให้กกต. เป็นองค์กรกลางในการจัดการเลือกตั้งอย่างเที่ยงธรรม และสุจริต อีกทั้งขอให้ พรรคไทยรักไทยพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้ยืนอยู่ข้างการกระทำผิด หรือปกป้องอุ้มชู ผู้กระทำผิด แม้ว่าบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของพรรคก็ตาม เพื่อให้ประชาชนได้เกิดความมั่นใจได้ว่า พรรคไทยรักไทยนั้น ปากกับใจตรงกัน ทั้งนี้นายอลงกรณ์เชื่อว่าคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของไทย และพรรคประชาธิปัตย์จะได้ติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22 เม.ย. 2549--จบ--