วันนี้(30 เม.ย.49)ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทีมโฆษกพรรคไทยรักไทยออกมาระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไร้จิตวิญญาณประชาธิปไตยว่า ตลอดเวลา15 ปีที่ผ่านมา ในการทำงานทางการเมืองของนายอภิสิทิ์ ไม่เคยกระทำการใดๆนอกเหนือการปกครองระบอบประชาธิปไตย และการดำเนินการทุกครั้งทำตามรัฐธรรมนูญทุกประการ แต่ตรงกันข้ามผู้นำที่ไม่มีจิตวิญญาณคือ นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทยนั่นเอง เพราะเคยประกาศจุดยืนกับประชาชนว่าประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือในการขึ้นสู่อำนาจเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะขึ้นไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งผู้นำที่ดีต้องแสวงหาผลประโยชน์ที่ดีให้กับประชาชนและประเทศชาติ ส่วนผู้นำที่ไม่ดีต้องแสวงหาผลประโยชน์ให้บริวารและครอบครัว
ส่วนกรณีที่ออกมาวิจารณ์นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นผู้นำภาคนิยมนั้น นายสาธิตกล่าวว่านายชวนไม่ได้เป็นผู้นำภาคนิยม แต่ความนิยมที่เกิดขึ้นเป็นแบบศรัทธานิยมที่ไม่ได้สร้างเพียงชั่วระยะเวลาอันสั้นว่าจ้างหรือจ้างวานใช้เงินซื้อเสียง แต่ความศรัทธาเกิดจากความสั่งสมการทำงานอุทิศเพื่อประชาชนและประเทศชาติมาโดยตลอด นายชวนไม่เคยแสดงจุดยืนใดๆที่เป็นการแบ่งภาค และมีประชาชนให้ความนิยมทุกภูมิภาค จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประชาชน ซึ่งล่าสุดผู้ใหญ่ของพรรคไทยรักไทยได้ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของนายชวนว่าไม่เคยอะอะไรให้คนในท้องถิ่นหรือจ.ตรังเลยแต่วันนี้กลับออกมาระบุว่าเป็นการสร้างภาคนิยมจึงไม่รู้ว่าพรรคไทยรักไทยเอาอะไรเป็นจุดยืนที่กลับไปกลับมา ดังนั้นความนิยมของนายกฯกับของนายชวนมันเทียบกันไม่ได้
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลมาชุมนุมเรียกร้องให้นายอภิสิทิ์ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ตนได้บันทึกเทปเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด และจากการตรวจสอบบุคคลและวิธีการพุดของกลุ่มคนเหล่านี้ตรงกับวิธีพูดของพรรคไทยรักไทยโดยเฉพาะโฆษกพรรค ซึ่งคนที่เป็นแกนนำเป็นคนๆเดียวกันกับที่ไปปิดล้อมสำนักพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งแกนนำคนนี้มีภูมิลำเนาบ้านเดียวกับโฆษกพรรคไทยรักไทย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้จักดี ในนาม “เป๋ คลองเตย” จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของกลุ่มคนหรือของพรรคไทยรักไทยเป็นเพียงความต้องการเพื่อดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 เม.ย. 2549--จบ--
ส่วนกรณีที่ออกมาวิจารณ์นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นผู้นำภาคนิยมนั้น นายสาธิตกล่าวว่านายชวนไม่ได้เป็นผู้นำภาคนิยม แต่ความนิยมที่เกิดขึ้นเป็นแบบศรัทธานิยมที่ไม่ได้สร้างเพียงชั่วระยะเวลาอันสั้นว่าจ้างหรือจ้างวานใช้เงินซื้อเสียง แต่ความศรัทธาเกิดจากความสั่งสมการทำงานอุทิศเพื่อประชาชนและประเทศชาติมาโดยตลอด นายชวนไม่เคยแสดงจุดยืนใดๆที่เป็นการแบ่งภาค และมีประชาชนให้ความนิยมทุกภูมิภาค จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประชาชน ซึ่งล่าสุดผู้ใหญ่ของพรรคไทยรักไทยได้ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของนายชวนว่าไม่เคยอะอะไรให้คนในท้องถิ่นหรือจ.ตรังเลยแต่วันนี้กลับออกมาระบุว่าเป็นการสร้างภาคนิยมจึงไม่รู้ว่าพรรคไทยรักไทยเอาอะไรเป็นจุดยืนที่กลับไปกลับมา ดังนั้นความนิยมของนายกฯกับของนายชวนมันเทียบกันไม่ได้
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลมาชุมนุมเรียกร้องให้นายอภิสิทิ์ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ตนได้บันทึกเทปเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด และจากการตรวจสอบบุคคลและวิธีการพุดของกลุ่มคนเหล่านี้ตรงกับวิธีพูดของพรรคไทยรักไทยโดยเฉพาะโฆษกพรรค ซึ่งคนที่เป็นแกนนำเป็นคนๆเดียวกันกับที่ไปปิดล้อมสำนักพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งแกนนำคนนี้มีภูมิลำเนาบ้านเดียวกับโฆษกพรรคไทยรักไทย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้จักดี ในนาม “เป๋ คลองเตย” จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของกลุ่มคนหรือของพรรคไทยรักไทยเป็นเพียงความต้องการเพื่อดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 เม.ย. 2549--จบ--