พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 95/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 9 -15 สิงหาคม 2549
ในช่วงวันที่ 9-10 ส.ค ร่องความกดอากาศต่ำจะยังคงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนทำให้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ หลังจากนั้นจะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนน้อยในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. ทำให้ภาคใต้ตอนบน ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออกมีฝนตกชุกหนาแน่น ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรงตลอดช่วง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร
คำเตือน
ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ระมัดระวังอันตรายจากภัยที่เกิดจากฝนตกหนัก ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรงตลอดช่วง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบน ของภาค ในช่วงวันที่ 9-10 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10-30 กม./ชม.
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบน ของภาค ในช่วงวันที่ 9-10 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10-30 กม./ชม. พื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาเกษตรกรควรรีบสำรวจสวน หากพบต้นไม้ที่ล้มเอนควรผูกยึดและค้ำยันให้ตั้งตรง ถ้ามีบาดแผลควรทำความสะอาดและตัดแต่งบาดแผลแล้วทาด้วยสารป้องกันเชื้อรา นอกจากนี้เกษตรกรควรระวังการระบาดของโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารและโรคตาแดง
ตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30- 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาคในช่วงวันที่ 9-10 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-30 กม./ชม.
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30- 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาคในช่วงวันที่ 9-10 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-30 กม./ชม. บริเวณที่มีฝนตกน้อย เกษตรกรที่เลี้ยง สัตว์น้ำควรดูแลปริมาณน้ำให้เหมะสมกับจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยง สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในเขตชลประทาน หรือมีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างพอเพียง เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
กลาง
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-30 กม./ชม.
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-30 กม./ชม. บริเวณที่มีฝนตกโดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของภาค ผู้ที่ปลูกกล้วยไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา โดยหากพบต้นที่เป็นโรคควรแยกกระถางออกจากโรงเรือน เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ไปยังต้นอื่นๆ นอกจากนี้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์กีบตากฝนหรืออยู่ในที่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย
ตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณพ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ 20-40 กม./ชม.
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณพ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ 20-40 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 10-15 ส.ค. จะมีฝนตกชุก ผลผลิตการเกษตรที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยว และไม่ควรตากไว้กลางแจ้ง เพราะจะทำให้เปียกชื้นเสียหายได้ สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่า ไหลหลากด้วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่ง หากเจริญเติบโตเต็มที่ควรรีบจับขาย
ใต้
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-35 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30- 60 ของพื้นที่ เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ 20-40 กม./ชม.
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-35 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30- 60 ของพื้นที่ เว้นแต่ในช่วงวันที่ 10-13 ส.ค. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ 20-40 กม./ชม. ในระยะนี้มีฝนตกชุกโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยอพยพสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์ไปไว้ในที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน และหากเจริญเติบโตเต็มที่ควรรีบจับขาย อนึ่ง ในระยะนี้คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-