'อลงกรณ์' นำสื่อมวลชนและตำรวจบุกโรงแรมริเวอร์ไซด์พิสูจน์ห้องสูทแหล่งบันทึกวีซีดี.คาร์ปาร์คชุดที่ 1 ของนายลัทธพล เกษโกธิน พบหลักฐานสำคัญยืนยันหุ้นส่วนคนสนิทลัทธพลเป็นคนเปิดห้องเองไม่ได้ถูกบังคับอัดวีซีดี
นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงวันนี้(10 ต.ค.)ที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ได้นำคณะสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัดเข้าตรวจสอบห้องพักหมายเลข 826 ของโรงแรมริเวอร์ไซด์ข้างสะพานซังฮี้ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแสว่าเป็นสถานที่ที่นายลัทธพล เกษโกธินบันทึกวีซีดี.คดีคาร์ปาร์คชุดที่ 1 ความยาวครึ่งชั่วโมงเมื่อต้นปี2548
“ภายในห้องสูทหมายเลข 826 มีเตียงนอนขนาดใหญ่ โต๊ะรับประทานอาหารและชุดโซฟาขนาดใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบกับภาพในวีซีดี.ชุดที่ 1 ปรากฏว่าเป็นสถานที่เดียวกันแม้แต่แจกันดอกไม้ประดิษฐ์ก็ยังเหมือนเดิม จึงได้ถ่ายภาพและมอบหมายให้นายวัฒนา งอกขาว ทนายความไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางพลัดเพื่อนำเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป” นายอลงกรณ์กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบการลงทะเบียนเข้าพักของโรงแรมริเวอร์ไซด์พบว่า นางสาวสุภาพร วงษ์พาดกลาง เป็นผู้เปิดห้องสูทหมายเลข 826 เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2548 และย้ายจากห้องสูทไปห้องธรรมดาหมายเลข 835 ในวันรุ่งขึ้นก่อนจะเช็คเอ้าท์ในวันที่ 14 ก.พ. 2548 นอกจากนี้ยังพบใบสั่งอาหารหลายรายการ สำหรับนางสาวสุภาพรปรากฏชื่อเป็นหุ้นส่วนของนายลัทธพล เกษโกธินและยังเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทลัทธ์เฟอร์ไทยซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับคดีเรียกรับสินบนคาร์ปาร์ค
“ข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญมากต่อคดีคาร์ปาร์คเพราะยืนยันว่า การบันทึกวีซีดี.ชุดที่ 1 ความยาวครึ่งชั่วโมง ของนายลัทธพลซึ่งระบุถึงการเรียกรับสินบน 300 ล้านบาทของคณะบุคคล 8 คนเป็นการบันทึกภาพและเสียงด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ถูกชายฉกรรจ์อุ้มมาบังคับให้บีนทึกวีซีดี.แต่อย่างใด และยังเป็นการยืนยันด้วยว่า การบันทึกวีซีดี.ชุดที่ 2 ความยาว4 นาทีของนายลัทธพลเมื่อปลายเดือนกรกฏาคม 2548 ถูกบังคับให้กลับคำให้การ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในท้ายที่สุดว่า คดีคาร์ปาร์คเป็นคดีใหญ่ที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนและเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับคนมีอิทธิพลจึงต้องทำงานหนักในการสืบสวนสอบสวนแสวงหาพยานและหลักฐานให้มากที่สุดเพื่อพิสูจน์ว่ามีการเรียกรับสินบนโครงการคาร์ปาร์คของสนามบินสุวรรณภูมิจริงเพื่อลงโทษผู้กระทำผิดให้ได้ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 ต.ค. 2548--จบ--
นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงวันนี้(10 ต.ค.)ที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ได้นำคณะสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัดเข้าตรวจสอบห้องพักหมายเลข 826 ของโรงแรมริเวอร์ไซด์ข้างสะพานซังฮี้ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแสว่าเป็นสถานที่ที่นายลัทธพล เกษโกธินบันทึกวีซีดี.คดีคาร์ปาร์คชุดที่ 1 ความยาวครึ่งชั่วโมงเมื่อต้นปี2548
“ภายในห้องสูทหมายเลข 826 มีเตียงนอนขนาดใหญ่ โต๊ะรับประทานอาหารและชุดโซฟาขนาดใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบกับภาพในวีซีดี.ชุดที่ 1 ปรากฏว่าเป็นสถานที่เดียวกันแม้แต่แจกันดอกไม้ประดิษฐ์ก็ยังเหมือนเดิม จึงได้ถ่ายภาพและมอบหมายให้นายวัฒนา งอกขาว ทนายความไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางพลัดเพื่อนำเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป” นายอลงกรณ์กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบการลงทะเบียนเข้าพักของโรงแรมริเวอร์ไซด์พบว่า นางสาวสุภาพร วงษ์พาดกลาง เป็นผู้เปิดห้องสูทหมายเลข 826 เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2548 และย้ายจากห้องสูทไปห้องธรรมดาหมายเลข 835 ในวันรุ่งขึ้นก่อนจะเช็คเอ้าท์ในวันที่ 14 ก.พ. 2548 นอกจากนี้ยังพบใบสั่งอาหารหลายรายการ สำหรับนางสาวสุภาพรปรากฏชื่อเป็นหุ้นส่วนของนายลัทธพล เกษโกธินและยังเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทลัทธ์เฟอร์ไทยซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับคดีเรียกรับสินบนคาร์ปาร์ค
“ข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญมากต่อคดีคาร์ปาร์คเพราะยืนยันว่า การบันทึกวีซีดี.ชุดที่ 1 ความยาวครึ่งชั่วโมง ของนายลัทธพลซึ่งระบุถึงการเรียกรับสินบน 300 ล้านบาทของคณะบุคคล 8 คนเป็นการบันทึกภาพและเสียงด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ถูกชายฉกรรจ์อุ้มมาบังคับให้บีนทึกวีซีดี.แต่อย่างใด และยังเป็นการยืนยันด้วยว่า การบันทึกวีซีดี.ชุดที่ 2 ความยาว4 นาทีของนายลัทธพลเมื่อปลายเดือนกรกฏาคม 2548 ถูกบังคับให้กลับคำให้การ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในท้ายที่สุดว่า คดีคาร์ปาร์คเป็นคดีใหญ่ที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนและเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับคนมีอิทธิพลจึงต้องทำงานหนักในการสืบสวนสอบสวนแสวงหาพยานและหลักฐานให้มากที่สุดเพื่อพิสูจน์ว่ามีการเรียกรับสินบนโครงการคาร์ปาร์คของสนามบินสุวรรณภูมิจริงเพื่อลงโทษผู้กระทำผิดให้ได้ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 ต.ค. 2548--จบ--