กรุงเทพ--5 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะมอบเงินบริจาคจำนวน 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ในนามประเทศไทย แก่กองทุน UN Central Emergency Response Fund (CERF) เพื่อแสดงบทบาทของไทยในด้านมนุษยธรรมและการตอบสนองต่อภัยพิบัติ รวมทั้งในการสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถของสหประชาชาติ
ในวันที่ 5 เมษายน 2549 ที่กระทรวงการต่างประเทศ ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีต่างประเทศ ในนามของรัฐบาลไทย จะมอบเงินบริจาคสมทบกองทุน CERF ผ่านนาย Edward Tsui ผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อการประสานกิจกรรมด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (Office for the Coordination of Humanitarian Affairs - OCHA) ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก ในโอกาสที่นาย Tsui ได้เดินทางมาเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม — 7 เมษายน 2549 โดยจะเยือนประเทศไทยในวันที่ 5 — 6 เมษายน 2549
OCHA ได้ขอบคุณประเทศไทยสำหรับเงินบริจาคดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมว่า ประเทศที่มีรายได้ในระดับกลาง อาทิ ไทย มาเลเซีย และอินเดีย ต่างมีประสบการณ์อย่างสูงในการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินและภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเป็นประเทศที่สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกับประเทศอื่นๆ ในประชาคมโลกได้ในเรื่องนี้ กับได้ย้ำว่า OCHA เห็นว่า การกระชับเครือข่ายความร่วมมือและการเป็นหุ้นส่วนกันในระดับภูมิภาคจะช่วยเสริมสร้างความพร้อมในการตอบสนองต่อภัยพิบัติ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความจำเป็นมากที่สุดภายหลังเกิดภัยพิบัติขึ้นแล้ว นอกจากนั้น กลไกความร่วมมือในระดับภูมิภาคยังจะเอื้ออำนวยต่อความร่วมมือและการประสานงานกับประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อเตรียมรับและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปด้วย
สหประชาชาติได้ก่อตั้งกองทุน CERF ขึ้นมาเมื่อเดือนมีนาคม 2549 และในปัจจุบันมีประเทศและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 40 แห่ง ทีได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยประเทศผู้บริจาคกว่าครึ่งหนึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ระดับปานกลาง
ประเทศไทยได้แสดงความพร้อมและความสามารถในการให้ความช่วยเหลือและตอบสนองสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ พร้อมทั้งมีบทบาทที่สำคัญภายหลังเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยหรือ Tsunami เมื่อปลายปี 2547 โดยไทยได้บริจาคเงินจำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าสู่กองทุนเพื่อเตรียมการตอบรับธรณีพิบัติภัยระดับภูมิภาค ซึ่งบริหารโดย UN ESCAP นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ลงนามในความตกลงอาเซียนเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป็นประเทศผู้นำด้านการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกในภูมิภาคด้วย
ระหว่างที่นาย Tsui อยู่ในประเทศไทย นอกจากการเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีต่างประเทศและรับมอบเงินบริจาคของไทยแล้ว ผู้อำนวยการ OCHA และคณะยังมีกำหนดหารือกับหน่วยงานของไทยที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อภัยพิบัติธรรมชาติ คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่าง OCHA กับหน่วยงานทีเกี่ยวข้องฝ่ายไทยต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะมอบเงินบริจาคจำนวน 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ในนามประเทศไทย แก่กองทุน UN Central Emergency Response Fund (CERF) เพื่อแสดงบทบาทของไทยในด้านมนุษยธรรมและการตอบสนองต่อภัยพิบัติ รวมทั้งในการสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถของสหประชาชาติ
ในวันที่ 5 เมษายน 2549 ที่กระทรวงการต่างประเทศ ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีต่างประเทศ ในนามของรัฐบาลไทย จะมอบเงินบริจาคสมทบกองทุน CERF ผ่านนาย Edward Tsui ผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อการประสานกิจกรรมด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (Office for the Coordination of Humanitarian Affairs - OCHA) ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก ในโอกาสที่นาย Tsui ได้เดินทางมาเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม — 7 เมษายน 2549 โดยจะเยือนประเทศไทยในวันที่ 5 — 6 เมษายน 2549
OCHA ได้ขอบคุณประเทศไทยสำหรับเงินบริจาคดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมว่า ประเทศที่มีรายได้ในระดับกลาง อาทิ ไทย มาเลเซีย และอินเดีย ต่างมีประสบการณ์อย่างสูงในการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินและภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเป็นประเทศที่สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกับประเทศอื่นๆ ในประชาคมโลกได้ในเรื่องนี้ กับได้ย้ำว่า OCHA เห็นว่า การกระชับเครือข่ายความร่วมมือและการเป็นหุ้นส่วนกันในระดับภูมิภาคจะช่วยเสริมสร้างความพร้อมในการตอบสนองต่อภัยพิบัติ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความจำเป็นมากที่สุดภายหลังเกิดภัยพิบัติขึ้นแล้ว นอกจากนั้น กลไกความร่วมมือในระดับภูมิภาคยังจะเอื้ออำนวยต่อความร่วมมือและการประสานงานกับประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อเตรียมรับและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปด้วย
สหประชาชาติได้ก่อตั้งกองทุน CERF ขึ้นมาเมื่อเดือนมีนาคม 2549 และในปัจจุบันมีประเทศและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 40 แห่ง ทีได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยประเทศผู้บริจาคกว่าครึ่งหนึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ระดับปานกลาง
ประเทศไทยได้แสดงความพร้อมและความสามารถในการให้ความช่วยเหลือและตอบสนองสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ พร้อมทั้งมีบทบาทที่สำคัญภายหลังเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยหรือ Tsunami เมื่อปลายปี 2547 โดยไทยได้บริจาคเงินจำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าสู่กองทุนเพื่อเตรียมการตอบรับธรณีพิบัติภัยระดับภูมิภาค ซึ่งบริหารโดย UN ESCAP นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ลงนามในความตกลงอาเซียนเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป็นประเทศผู้นำด้านการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกในภูมิภาคด้วย
ระหว่างที่นาย Tsui อยู่ในประเทศไทย นอกจากการเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีต่างประเทศและรับมอบเงินบริจาคของไทยแล้ว ผู้อำนวยการ OCHA และคณะยังมีกำหนดหารือกับหน่วยงานของไทยที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อภัยพิบัติธรรมชาติ คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่าง OCHA กับหน่วยงานทีเกี่ยวข้องฝ่ายไทยต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-