คราวที่แล้วเราได้พูดถึง“พลังแห่งความคิด” ทำให้ดีกว่า ...อะไร ? จึงจะเป็นภาคต่อจากความคิดทั้ง 10 ประการ...
“มนุษย์เรา ในแต่ละวันจะมีความคิดว่าอยากเป็นนี่ อยากเป็นนั่น หมุนเวียนกันไป... บางวันอยากเป็นพระเอก บางวันอยากเป็นผู้ร้าย บางวันอยากจะมีเงินมากๆ บางวันขอเพียงมีเงินไว้ใช้สอยประจำวันก็เพียงพอ ซึ่งเจ้าความคิด หรืออาจเรียกว่า ความฝัน ความอยากเหล่านี้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา” แต่ความคิด ความฝันจะเป็นจริงขึ้นมาได้ สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่การกระทำ ซึ่ง “พลังแห่งการกระทำ” นี่หล่ะที่จะเป็นภาคต่อ มีอะไรน่าสนใจบ้าง ? ขอเชิญทัศนา.......
- ทำแบบมืออาชีพ ยิ่งทำยิ่งเชี่ยวชาญ ทำซ้ำต้องดีกว่ากว่า ทำปีเดียวเหมือนทำมาสิบปี ดังคำที่ว่า “รู้จริงในสิ่งนั้น เชี่ยวชาญกว่าสิ่งอื่น”
- ทำงานเกินเงินเดือน ทำงานมากกว่าค่าจ้างที่ได้รับ ทำงานเพื่องาน ไม่ใช่การทำงานเพื่อเงิน ไม่เอาค่าตอบแทนมาเป็นตัวตัดสิน
- ทำทันที ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่ตั้งท่านาน ควรสร้างนิสัยลงมือทำทันทีให้ได้ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า สาเหตุของคนที่ไม่ประสบความสำเร็จคือนิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง
- ทำอย่างมีแผน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนนั้นจะไม่มีความหมายใดๆ เลย ถ้าหากเราไม่มีการวางแผนที่แน่นอนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายนั้น เราควรสั้น หรือแม้กระทั่งแผนเฉพาะหน้าของชีวิตไว้เสมอ ทำแผนการไว้ ไม่ว่าจะเป็นแผนระยะยาว แผนระยะสั้น
- ทำให้ผู้อื่นมากกว่าที่เขาควรจะได้รับ พลังแห่งการกระทำแบบนี้ เป็นไปตามกฎแห่งกรรมในพุทธศาสนา ตรงกับกฎแห่งการตอบแทนตามธรรมชาติ พลังนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากเรายังยึดติดกับความเชื่อที่ว่า “ทำคุณไม่เป็นคุณ” หรือ “ทำคุณคนไม่ขึ้น” หรือทำเพื่อหวังผลตอบแทนอยู่ตลอดเวลา
- ทำอย่างใจจดใจจ่อ มีสติและสมาธิในการทำงาน ไม่วอกแวก เบื่อง่ายหน่ายเร็ว ดังคำกล่าวที่ว่า “การทำความดีนั้นว่ายากอยู่แล้ว แต่ทำความดีตลอดไปนั้นยากยิ่งกว่า”
- ทำโดยมีสติควบคุมตนเอง ยึดมั่นในสิ่งที่ทำอย่างแน่วแน่ ไม่ทำอะไรตามใจ ตามอารมณ์ ไม่หลงใหลได้ปลื้มไปตามกระแส บังคับและควบคุมตัวเอง ไม่ให้เกิดความอยากได้ใคร่มีจนเกินขอบเขต ไม่สร้างนิสัยอวดความมั่งมีอย่างขาดสติ ต้องสร้างพลังแห่งการประหยัดและอดออมให้เป็นนิสัยอย่างถาวรให้ได้
- ทำสภาพแวดล้อมให้สอดคล้อง เปิด ตัวเองให้กว้างเพื่อรับความคิดใหม่ๆ เลือกคบคนที่สร้างแรงผลักดันในจิตใจเราได้ เข้าไปอยู่ในสังคมที่สร้างสรรค์ กระตือรือร้น รักความก้าวหน้า เราต้องการให้คนอื่นทำกับเราอย่างไร เราก็ต้องทำอย่างนั้นกับคนอื่นเช่นกัน
- ทำความพ่ายแพ้ให้เป็นชัยชนะ ความพ่ายแพ้ไม่ใช่ความล้มเหลว ไม่เคยมีใครที่ประสบความสำเร็จโดยไม่เคยประสบความพ่ายแพ้มาก่อน
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
“มนุษย์เรา ในแต่ละวันจะมีความคิดว่าอยากเป็นนี่ อยากเป็นนั่น หมุนเวียนกันไป... บางวันอยากเป็นพระเอก บางวันอยากเป็นผู้ร้าย บางวันอยากจะมีเงินมากๆ บางวันขอเพียงมีเงินไว้ใช้สอยประจำวันก็เพียงพอ ซึ่งเจ้าความคิด หรืออาจเรียกว่า ความฝัน ความอยากเหล่านี้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา” แต่ความคิด ความฝันจะเป็นจริงขึ้นมาได้ สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่การกระทำ ซึ่ง “พลังแห่งการกระทำ” นี่หล่ะที่จะเป็นภาคต่อ มีอะไรน่าสนใจบ้าง ? ขอเชิญทัศนา.......
- ทำแบบมืออาชีพ ยิ่งทำยิ่งเชี่ยวชาญ ทำซ้ำต้องดีกว่ากว่า ทำปีเดียวเหมือนทำมาสิบปี ดังคำที่ว่า “รู้จริงในสิ่งนั้น เชี่ยวชาญกว่าสิ่งอื่น”
- ทำงานเกินเงินเดือน ทำงานมากกว่าค่าจ้างที่ได้รับ ทำงานเพื่องาน ไม่ใช่การทำงานเพื่อเงิน ไม่เอาค่าตอบแทนมาเป็นตัวตัดสิน
- ทำทันที ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่ตั้งท่านาน ควรสร้างนิสัยลงมือทำทันทีให้ได้ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า สาเหตุของคนที่ไม่ประสบความสำเร็จคือนิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง
- ทำอย่างมีแผน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนนั้นจะไม่มีความหมายใดๆ เลย ถ้าหากเราไม่มีการวางแผนที่แน่นอนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายนั้น เราควรสั้น หรือแม้กระทั่งแผนเฉพาะหน้าของชีวิตไว้เสมอ ทำแผนการไว้ ไม่ว่าจะเป็นแผนระยะยาว แผนระยะสั้น
- ทำให้ผู้อื่นมากกว่าที่เขาควรจะได้รับ พลังแห่งการกระทำแบบนี้ เป็นไปตามกฎแห่งกรรมในพุทธศาสนา ตรงกับกฎแห่งการตอบแทนตามธรรมชาติ พลังนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากเรายังยึดติดกับความเชื่อที่ว่า “ทำคุณไม่เป็นคุณ” หรือ “ทำคุณคนไม่ขึ้น” หรือทำเพื่อหวังผลตอบแทนอยู่ตลอดเวลา
- ทำอย่างใจจดใจจ่อ มีสติและสมาธิในการทำงาน ไม่วอกแวก เบื่อง่ายหน่ายเร็ว ดังคำกล่าวที่ว่า “การทำความดีนั้นว่ายากอยู่แล้ว แต่ทำความดีตลอดไปนั้นยากยิ่งกว่า”
- ทำโดยมีสติควบคุมตนเอง ยึดมั่นในสิ่งที่ทำอย่างแน่วแน่ ไม่ทำอะไรตามใจ ตามอารมณ์ ไม่หลงใหลได้ปลื้มไปตามกระแส บังคับและควบคุมตัวเอง ไม่ให้เกิดความอยากได้ใคร่มีจนเกินขอบเขต ไม่สร้างนิสัยอวดความมั่งมีอย่างขาดสติ ต้องสร้างพลังแห่งการประหยัดและอดออมให้เป็นนิสัยอย่างถาวรให้ได้
- ทำสภาพแวดล้อมให้สอดคล้อง เปิด ตัวเองให้กว้างเพื่อรับความคิดใหม่ๆ เลือกคบคนที่สร้างแรงผลักดันในจิตใจเราได้ เข้าไปอยู่ในสังคมที่สร้างสรรค์ กระตือรือร้น รักความก้าวหน้า เราต้องการให้คนอื่นทำกับเราอย่างไร เราก็ต้องทำอย่างนั้นกับคนอื่นเช่นกัน
- ทำความพ่ายแพ้ให้เป็นชัยชนะ ความพ่ายแพ้ไม่ใช่ความล้มเหลว ไม่เคยมีใครที่ประสบความสำเร็จโดยไม่เคยประสบความพ่ายแพ้มาก่อน
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-