อดีต ส.ส.กระบี่พรรค ปชป.หนุน ส.อบจ.กระบี่ แฉนายทุนบุกรุกที่ดินเขาหน้าหาดอ่าวนาง หลังจังหวัดทุ่มงบทำวอร์กเวย์กว้าง5เมตรเข้าพื้นที่
วันนี้(1 พ.ย.49)นายอาคม เอ่งฉ้วน อดีต ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ได้มีสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) กระบี่ พร้อมคณะสื่อมวลชน ได้เดินทางไปสำรวจเขาหน้าหาด ภายหลังจากที่ทางจังหวัดได้ทุ่มงบประมาณจำนวนหนึ่งไปทำการตัดถนนแบ่งเขตเพื่อไม่ให้ผู้ใดขึ้นไปบุกรุก หรือ ถนนวอร์คเวย์ และจากการตรวจสอบก็พบว่าเข้าหน้าหาดได้ถูกกลุ่มทุน ทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ออกเอกสารสิทธิการครอบครองไปแล้วกว่า 200 แปลงนั้น เรื่องนี้ตนในฐานะคนในจังหวัดกระบี่ก็มีความเป็นห่วงว่า สักวันหนึ่งเขาหน้าหาด ซึ่งเป็นด้านหลังของอ่าวนาง จะถูกนายทุนบุกรุกจนหมดสิ้นและไม่ใช้คนในพื้นที่ แต่จะเป็นข้าราชการ และนายทุนต่างชาติอย่างแน่นอน และที่เป็นอันตรายที่สุดก็คือ เมื่อเกิดฝนตกอย่างหนัก จะทำให้เขาหน้าหาดถล่มลงมาทับนักท่องเที่ยว รวมทั้งย่านธุรกิจที่หาดอ่าวนางอย่างหนีไม่พ้น
นายอาคม กล่าวต่อว่า ขอสนับสนุนกลุ่ม ส.อบจ.ที่ออกมาปกป้องทรัพย์สินของแผ่นดินไว้ และขอให้มีการพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏว่ามีใครบ้างที่อยู่เบื้องหลัง และได้ถือครองที่ดินดังกล่าวพร้อมออกมาตีแผ่ให้ประชาชนได้รับอย่างทั่วถึง สำหรับกรณีที่ทางจังหวัดได้ใช้งบประมาณ เพื่อตัดถนนวอร์คเวย์ นั้นก็ไม่สมควร เพราะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้บุกรุกมากกว่า สมควรที่จะตัดเฉพาะแนวที่ติดเชิงเขา ไม่ใช้ตัดขึ้นไปบนยอดเขา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เชื่อว่าหากทางส่วนกลางไม่ลงมาดำเนินการ ทุกอย่างก็จบ เพราะทราบมาว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังด้วย
นายอาคม กล่าวด้วยว่า การบุกรุกพื้นที่ในจังหวัดกระบี่มีขึ้นในทุกพื้นที่ แต่ที่หน้าละอายมากที่สุดโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็คือ พื้นที่ป่าสงวนนับแสนๆ ไร่ ที่อยู่หน้าประตูทางเข้าสำนักงานป่าไม้ประมาณ 50 เมตร ยังถูกผู้บุกรุกเข้ามาทำลายจนหมดสิ้น และยังทราบว่าผู้ที่บุกรุกคือนายชัย เชื้อบ้านเกาะ แต่จนถึงบัดนี้ก็ไม่สามารถจับกุมได้ แต่กลับออกมาให้ข่าวว่ามีนายทุน ผู้มีอิทธิพล และนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง ทั้งที่ความจริงนั้นทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้รู้ดี
“ผมอยากให้ ส.อบจ.กระบี่ ลุกขึ้นออกมาพิสูจน์ความจริงให้ได้ว่ามีใครบ้างที่เข้าไปบุกรุกเขาหน้าหาด และได้มีการซื้อขายไปให้กับใครบ้าง เป็นคนไทยหรือต่างชาติ เพราะความจริงแล้วคำว่าภูเขาจะต้องเป็นป่า ไม่ใช่เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง สำหรับการแก้ไขนั้นก็สามารถทำให้โดยการยกพื้นที่ป่าให้เป็นป่าชุมชน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ดูแลกันเองหน้าจะดีกว่า” นายอาคมกล่าว
(หมายเหตุ - จากผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤศจิกายน 2549)
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 พ.ย. 2549--จบ--
วันนี้(1 พ.ย.49)นายอาคม เอ่งฉ้วน อดีต ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ได้มีสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) กระบี่ พร้อมคณะสื่อมวลชน ได้เดินทางไปสำรวจเขาหน้าหาด ภายหลังจากที่ทางจังหวัดได้ทุ่มงบประมาณจำนวนหนึ่งไปทำการตัดถนนแบ่งเขตเพื่อไม่ให้ผู้ใดขึ้นไปบุกรุก หรือ ถนนวอร์คเวย์ และจากการตรวจสอบก็พบว่าเข้าหน้าหาดได้ถูกกลุ่มทุน ทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ออกเอกสารสิทธิการครอบครองไปแล้วกว่า 200 แปลงนั้น เรื่องนี้ตนในฐานะคนในจังหวัดกระบี่ก็มีความเป็นห่วงว่า สักวันหนึ่งเขาหน้าหาด ซึ่งเป็นด้านหลังของอ่าวนาง จะถูกนายทุนบุกรุกจนหมดสิ้นและไม่ใช้คนในพื้นที่ แต่จะเป็นข้าราชการ และนายทุนต่างชาติอย่างแน่นอน และที่เป็นอันตรายที่สุดก็คือ เมื่อเกิดฝนตกอย่างหนัก จะทำให้เขาหน้าหาดถล่มลงมาทับนักท่องเที่ยว รวมทั้งย่านธุรกิจที่หาดอ่าวนางอย่างหนีไม่พ้น
นายอาคม กล่าวต่อว่า ขอสนับสนุนกลุ่ม ส.อบจ.ที่ออกมาปกป้องทรัพย์สินของแผ่นดินไว้ และขอให้มีการพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏว่ามีใครบ้างที่อยู่เบื้องหลัง และได้ถือครองที่ดินดังกล่าวพร้อมออกมาตีแผ่ให้ประชาชนได้รับอย่างทั่วถึง สำหรับกรณีที่ทางจังหวัดได้ใช้งบประมาณ เพื่อตัดถนนวอร์คเวย์ นั้นก็ไม่สมควร เพราะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้บุกรุกมากกว่า สมควรที่จะตัดเฉพาะแนวที่ติดเชิงเขา ไม่ใช้ตัดขึ้นไปบนยอดเขา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เชื่อว่าหากทางส่วนกลางไม่ลงมาดำเนินการ ทุกอย่างก็จบ เพราะทราบมาว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังด้วย
นายอาคม กล่าวด้วยว่า การบุกรุกพื้นที่ในจังหวัดกระบี่มีขึ้นในทุกพื้นที่ แต่ที่หน้าละอายมากที่สุดโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็คือ พื้นที่ป่าสงวนนับแสนๆ ไร่ ที่อยู่หน้าประตูทางเข้าสำนักงานป่าไม้ประมาณ 50 เมตร ยังถูกผู้บุกรุกเข้ามาทำลายจนหมดสิ้น และยังทราบว่าผู้ที่บุกรุกคือนายชัย เชื้อบ้านเกาะ แต่จนถึงบัดนี้ก็ไม่สามารถจับกุมได้ แต่กลับออกมาให้ข่าวว่ามีนายทุน ผู้มีอิทธิพล และนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง ทั้งที่ความจริงนั้นทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้รู้ดี
“ผมอยากให้ ส.อบจ.กระบี่ ลุกขึ้นออกมาพิสูจน์ความจริงให้ได้ว่ามีใครบ้างที่เข้าไปบุกรุกเขาหน้าหาด และได้มีการซื้อขายไปให้กับใครบ้าง เป็นคนไทยหรือต่างชาติ เพราะความจริงแล้วคำว่าภูเขาจะต้องเป็นป่า ไม่ใช่เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง สำหรับการแก้ไขนั้นก็สามารถทำให้โดยการยกพื้นที่ป่าให้เป็นป่าชุมชน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ดูแลกันเองหน้าจะดีกว่า” นายอาคมกล่าว
(หมายเหตุ - จากผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤศจิกายน 2549)
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 พ.ย. 2549--จบ--