วันนี้ (8 ส.ค.2549) เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวนโยบาย “วารประชาชน” ของพรรคประชาธิปัตย์ในวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.49) ว่า ภายหลังพรรคประชาธิปัตย์ออกนโยบายวาระประชาชนได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายแง่มุม ตรงนี้พรรคต้องขอขอบคุณทุกความคิดเห็นที่ให้ความสนใจนโยบายของพรรค
“ผมขอยืนยันว่า นโยบายวาระประชาชนเป็นนโยบายที่พี่น้องประชาชนสามารถสัมผัสได้หากพรรคประชาธิปัตย์ได้มีโอกาสบริหารประเทศ ก็จะมีนโยบายที่เป็นหลักในการบริหารประเทศอย่างแน่นอนทุกๆด้าน และครอบคลุมในทุกๆมิติของปัญหาต่างๆในสังคมทุกเรื่อง” นายองอาจกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า วาระประชาชนเป็นข้อมูลที่นำมากำหนดเป็นโยบาย มีข้อมูลสนับสนุนเพียงพอ เพราะ ก่อนที่จะออกมาเป็นวาระประชาชน ได้ผ่านการศึกษาวิจัยอย่างรอบด้าน มีการทำสำรวจตรวจสอบอย่างรอบครอบ ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง และยืนยันว่าไม่ใช่ประชานิยม เพราะสิ่งที่เรากำหนดขึ้นมาเป็นวารประชาชนนี้เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนทั้งในปัจจุบันและในระยะยาว
“พรรคมีจุดยืนว่าประชาชนต้องมาก่อน การกำหนดวาระประชาชน ต้องคำนึงถึงความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก แต่แน่นอนที่สุดความต้องการของพี่น้องประชาชน ต้องไม่ใช่ ความต้องการเฉพาะหน้าเท่านั้น พรรคประชาธิปัตย์หยิบยกวาระประชาชน ด้านคือ การศึกษา สาธารณสุข และสภาวะค่าครองชีพ นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา เป็นปัญหาที่ทีผลกระทบต่อสังคมมากที่สุด เป็นปัญหาที่ล้มเหลวมากที่สุด แม้มีรัฐมนตรีหลายคนสับเปลี่ยนเข้ามา แต่ปัญหาหลักๆยังไม่มีการแก้ไข” นายองอาจกล่าว
ส่วนคำถามจากหลายฝ่ายที่ตั้งข้อสังเกตว่าจะเอาเงินมาจากไหนมาใช้จ่ายในนโยบายวารประชาชน นายองอาจ กล่าวว่า การที่พรรคกล้าระบุตัวเลขลงไปชัดเจนว่า จะใช้จ่ายเงินในส่วนไหนเท่าไร อย่างไรนั้น หมายถึงว่า เราได้ศึกษากันมาอย่างรอบด้าน ว่าแต่ละโครงการในแต่ละวาระประชาชนนั้นมีช่องทางที่จะนำเงินมารตามวาระประชาชนนั้นๆอย่างแน่นอน
นายองอาจ กล่าวต่อไปว่า ในวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.49) จะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนที่มีความสนใจในเรื่องนี้มาพบปะแลกเปลี่ยนซักถามหัวหน้าพรรคอย่างรอบด้านได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป ตนเชื่อว่าการพบปะในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยทำให้มีความกระจ่างและเข้าใจมากยิ่งขึ้น และตนมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในระยะยาว
ด้าน ม.ล.อภิมงคล โสณกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการเปิดตัว “วารประชาชน”ของพรรคประชาธิปัตย์รู้สึกยินดีที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชน ตอนนี้ก็มีโทรศัพท์มาไม่ขาดสายให้ความสนใจกับวาระประชาชน ให้ข้อเสนอแนะ ให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่วารประชาชนแสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคทางเลือกของประชาชนอย่างแท้จริง
ส่วนเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการหลายท่าน นายอภิมงคล กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการที่จะให้วาระประชาชนเป็นวาระที่ได้รับการตรวจสอบจากนักวิชาการและก็ข้อเสนอแนะต่างๆพวกเราก็ได้นำมาพิจารณาต่อไป ในวันพรุ่งนี้ก็จะมีการเปิดตัวให้ผู้สื่อข่าวที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสาธารณสุข เศรษฐกิจ และเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับวาประชาชนได้สามารถเข้ามาซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับวารประชาชน ซึ่งวันพรุ่งนี้ตนมมั่นใจว่ารายละเอียดต่างๆจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“วารประชาชนไม่ใช่เป็นวาระที่เกิดขึ้นเพื่อการเลือกตั้ง แต่เป็นวาระที่มีกระบวนการมีการพิจารณาตกผลึกมาอย่างชัดเจนว่าจะเป็นวาระที่ให้ประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือว่า ผมคิดว่าถ้ามีการพิจารณารายละเอียดแล้วจะเห็นได้ว่าวาระประชาชนนั้นไม่ใช่นโยบายประชานิยม แต่เป็นวาระที่ทุ่งเน้นให้พี่น้องประชาชนได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่มีคุณภาพในเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างของกิจการต่างๆ และก็ในเรื่องของธรรมาภิบาลเพื่อนำไปสู่คุณภาพควาเมป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้นในวันพรึ่งนี้จะมีความกระจ่างมากขึ้น” นายอภิมงคล กล่าว
ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคไทยรักไทยนั้นต่อวาระประชาชนนั้น นายอภิมงคล กล่าวว่า ตนคิดว่ายังคงเป็นการเมืองแบบเก่าๆ แบบเดิม เป็นการกระแนะกระแหน ไม่ใช่การนำไปสู่ผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนคิดว่าถ้าพรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่มุ่งหวังจะให้พี่น้องประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุดน่าจะออกมาพูดถึงข้อดีข้อเสียวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบความแตกต่างข้อดีของนโยบายพรรคไทยรักไทยหรือว่าข้อเสียของนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อที่พี่น้องประชาชนจะได้มีข้อมูลพื้นฐานการตัดสินใจว่าอะไรที่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 8 ส.ค. 2549--จบ--
“ผมขอยืนยันว่า นโยบายวาระประชาชนเป็นนโยบายที่พี่น้องประชาชนสามารถสัมผัสได้หากพรรคประชาธิปัตย์ได้มีโอกาสบริหารประเทศ ก็จะมีนโยบายที่เป็นหลักในการบริหารประเทศอย่างแน่นอนทุกๆด้าน และครอบคลุมในทุกๆมิติของปัญหาต่างๆในสังคมทุกเรื่อง” นายองอาจกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า วาระประชาชนเป็นข้อมูลที่นำมากำหนดเป็นโยบาย มีข้อมูลสนับสนุนเพียงพอ เพราะ ก่อนที่จะออกมาเป็นวาระประชาชน ได้ผ่านการศึกษาวิจัยอย่างรอบด้าน มีการทำสำรวจตรวจสอบอย่างรอบครอบ ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง และยืนยันว่าไม่ใช่ประชานิยม เพราะสิ่งที่เรากำหนดขึ้นมาเป็นวารประชาชนนี้เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนทั้งในปัจจุบันและในระยะยาว
“พรรคมีจุดยืนว่าประชาชนต้องมาก่อน การกำหนดวาระประชาชน ต้องคำนึงถึงความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก แต่แน่นอนที่สุดความต้องการของพี่น้องประชาชน ต้องไม่ใช่ ความต้องการเฉพาะหน้าเท่านั้น พรรคประชาธิปัตย์หยิบยกวาระประชาชน ด้านคือ การศึกษา สาธารณสุข และสภาวะค่าครองชีพ นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา เป็นปัญหาที่ทีผลกระทบต่อสังคมมากที่สุด เป็นปัญหาที่ล้มเหลวมากที่สุด แม้มีรัฐมนตรีหลายคนสับเปลี่ยนเข้ามา แต่ปัญหาหลักๆยังไม่มีการแก้ไข” นายองอาจกล่าว
ส่วนคำถามจากหลายฝ่ายที่ตั้งข้อสังเกตว่าจะเอาเงินมาจากไหนมาใช้จ่ายในนโยบายวารประชาชน นายองอาจ กล่าวว่า การที่พรรคกล้าระบุตัวเลขลงไปชัดเจนว่า จะใช้จ่ายเงินในส่วนไหนเท่าไร อย่างไรนั้น หมายถึงว่า เราได้ศึกษากันมาอย่างรอบด้าน ว่าแต่ละโครงการในแต่ละวาระประชาชนนั้นมีช่องทางที่จะนำเงินมารตามวาระประชาชนนั้นๆอย่างแน่นอน
นายองอาจ กล่าวต่อไปว่า ในวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.49) จะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนที่มีความสนใจในเรื่องนี้มาพบปะแลกเปลี่ยนซักถามหัวหน้าพรรคอย่างรอบด้านได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป ตนเชื่อว่าการพบปะในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยทำให้มีความกระจ่างและเข้าใจมากยิ่งขึ้น และตนมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในระยะยาว
ด้าน ม.ล.อภิมงคล โสณกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการเปิดตัว “วารประชาชน”ของพรรคประชาธิปัตย์รู้สึกยินดีที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชน ตอนนี้ก็มีโทรศัพท์มาไม่ขาดสายให้ความสนใจกับวาระประชาชน ให้ข้อเสนอแนะ ให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่วารประชาชนแสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคทางเลือกของประชาชนอย่างแท้จริง
ส่วนเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการหลายท่าน นายอภิมงคล กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการที่จะให้วาระประชาชนเป็นวาระที่ได้รับการตรวจสอบจากนักวิชาการและก็ข้อเสนอแนะต่างๆพวกเราก็ได้นำมาพิจารณาต่อไป ในวันพรุ่งนี้ก็จะมีการเปิดตัวให้ผู้สื่อข่าวที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสาธารณสุข เศรษฐกิจ และเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับวาประชาชนได้สามารถเข้ามาซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับวารประชาชน ซึ่งวันพรุ่งนี้ตนมมั่นใจว่ารายละเอียดต่างๆจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“วารประชาชนไม่ใช่เป็นวาระที่เกิดขึ้นเพื่อการเลือกตั้ง แต่เป็นวาระที่มีกระบวนการมีการพิจารณาตกผลึกมาอย่างชัดเจนว่าจะเป็นวาระที่ให้ประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือว่า ผมคิดว่าถ้ามีการพิจารณารายละเอียดแล้วจะเห็นได้ว่าวาระประชาชนนั้นไม่ใช่นโยบายประชานิยม แต่เป็นวาระที่ทุ่งเน้นให้พี่น้องประชาชนได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่มีคุณภาพในเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างของกิจการต่างๆ และก็ในเรื่องของธรรมาภิบาลเพื่อนำไปสู่คุณภาพควาเมป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้นในวันพรึ่งนี้จะมีความกระจ่างมากขึ้น” นายอภิมงคล กล่าว
ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคไทยรักไทยนั้นต่อวาระประชาชนนั้น นายอภิมงคล กล่าวว่า ตนคิดว่ายังคงเป็นการเมืองแบบเก่าๆ แบบเดิม เป็นการกระแนะกระแหน ไม่ใช่การนำไปสู่ผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนคิดว่าถ้าพรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่มุ่งหวังจะให้พี่น้องประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุดน่าจะออกมาพูดถึงข้อดีข้อเสียวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบความแตกต่างข้อดีของนโยบายพรรคไทยรักไทยหรือว่าข้อเสียของนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อที่พี่น้องประชาชนจะได้มีข้อมูลพื้นฐานการตัดสินใจว่าอะไรที่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 8 ส.ค. 2549--จบ--