โอกาสการค้าไทย หลังศึกชิงเก้าอี้ผู้นำเม็กซิโก

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 20, 2006 11:21 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          ถึงแม้ว่าการเลือกตั้งจะสิ้นสุดแล้วก็ตาม ประธานาธิบดีคนใหม่ของเม็กซิโกยังต้องเผชิญอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง ทั้งภายในและภายนอกพรรค โดยเฉพาะจากคู่แข่งคนสำคัญ  หากผ่านพ้นวิกฤตินี้มาได้ และบริหารประเทศตามแนวนโนบายการค้าเสรีเดิมนั้น ก็จะส่งผลดีกับประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2006 ศาลเลือกตั้งได้ตัดสินยืนยันตามผลการเลือกตั้งเดิม คือ ให้นาย Felipe Calderon เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของเม็กซิโก และจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 ธันวาคม โดยชนะแบบสูสีไปเพียง 0.56% หลังมีการประท้วงว่าโกงการเลือกตั้งและถูกกดดันให้มีการนับคะแนนใหม่จากคู่แข่งสำคัญที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อย่างนาย Andres Manuel Lopez Obrador จากพรรคใหญ่ฝ่ายซ้ายที่ได้รับฐานคะแนนของประชาชนระดับล่าง
นาย Calderon (44 ปี) ได้ชูนโยบายหลักในการสร้างงาน การเสริมสร้างฐานะการแข่งขันในตลาดโลก และพร้อมที่จะสานต่อนโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าเสรี โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแนวทางหาเสียงของพรรคเดียวกันกับประธานาธิบดีคนปัจจุบัน (นาย Vincente Fox) อย่างไรก็ตาม ทั้งๆ ที่ชนะการเลือกตั้งและเป็นพรรคที่มีเสียงมากที่สุดในสภา แต่นาย Calderon ยังต้องเสนอให้ฝ่ายค้านและพรรคเล็กเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อให้มากพอในการผ่านกฎหมาย อีกทั้งให้มีการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมกับการยกระดับความยากจน เพื่อเอาชนะฐานเสียงของฝ่ายตรงข้าม แต่สิ่งที่ท้าทายในขณะนี้ คือการประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ของนาย Obrador ซึ่งจะทำทุกวิถีทางในการขัดขวางการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการวางแผนจะจัดตั้งรัฐบาลอีกชุดควบคู่กันไป หากนาย Calderon ผ่านพ้นวิกฤตินี้มาได้ และบริหารประเทศตามแนวนโนบายการค้าเสรีเดิมนั้น ก็จะส่งผลดีกับประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2544 การค้าระหว่างไทยกับเม็กซิโกมีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 614.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันเม็กซิโกเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 38 และมีสัดส่วนการค้าร้อยละ 0.3 ของมูลค่าการค้ารวมของไทย โดยในปี 2548 มีมูลค่าการค้า 668.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 7.5 สำหรับ 8 เดือนแรก (มกราคม-สิงหาคม) ของปี 2549 การค้าระหว่างกันมีมูลค่า 554.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 21.2 เป็นการส่งออก 396.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 และนำเข้า 157.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 239.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
จากการที่ประธานาธิบดีคนใหม่ให้ความสำคัญกับนโยบายการค้าเสรี นับว่าเป็นโอกาสในการขยายการค้าการลงทุนระหว่างกันของทั้งสองประเทศ สำหรับสินค้าไทยที่มีศักยภาพในตลาดเม็กซิโก เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เครื่องวิดีโอ เครื่องเสียง อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ