‘อภิสิทธิ์’ ระบุ การดำเนินการของศาลในการคัดเลือก กกต. จะสร้างความเชื่อมั่นในการจัดการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ส่วนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นใน 15 ต.ค.หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับวุฒิสภา ด้าน ‘อภิชาต ศักดิเศรษฐ’ ติงพฤติกรรม ‘ไทยรักไทย’ อย่าเสียกริยา หลังครอบงำองค์กรอิสระไม่ได้
วันนี้ (11 ส.ค.49) เวลา 08.20น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์รายการข่าวยามเช้า ในช่วง ‘ตรงไปตรงมา กับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ ทางคลื่นวิทยุ 101.0 เมกกะเฮิร์ท ถึงการสรรหาผู้ที่เหมาะสมเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า การดำเนินการของศาลน่าจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในเรื่องการจัดการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ส่วนขั้นตอนต่อไปที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภานั้น ต้องขึ้นอยู่กับวุฒิสภาที่จะดำเนินการ ซึ่งก็ขอให้กระบวนการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และโปร่งใส ตนคิดว่าหากสามารถดำเนินตามแนวทางนี้ได้ และสามารถทำให้บรรยากาศเดินไปสู่กระบวนการการเลือกตั้ง ปัญหาต่างๆก็จะสามารถคลี่คลายได้ทางหนึ่ง
ส่วนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคมหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ต้องถามทางวุฒิสภา เพราะวุฒิสภาจะตอบได้ว่ากระบวนการสรรหาของวุฒิสภา ยังสามารถที่จะยึดกรอบเวลาเดิม ซึ่งพระราชกฤษฎีกาจะมีผลบังคับใช้วันที่ 24 ได้หรือไม่ ในความเห็นตนมองว่าถ้าสามารถทำได้ก็เป็นเรื่องดี เพราะขณะนี้ทุกคนอยากเห็นความชัดเจนความแน่นอนในหลายเรื่อง แต่หากว่าทำไม่ได้ ก็ควรที่จะชี้แจงถึงเหตุผลให้ทุกฝ่ายรับทราบเพื่อให้เกิดความมั่นใจ
ด้านนายอภิชาต ศักดิเศรษฐ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทีมงานโฆษกพรรคไทยรักไทยออกมาตั้งข้อสังเกตถึงผลการสรรหาผู้เหมาะสมเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา โดยเฉพาะกรณีของนายนาม ยิ้มแย้ม และนายแก้วสรร อติโพธิว่า เป็นการวิตกจริตของพรรคไทยรักไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเคยชินเก่าๆ ที่เคยแทรกแซงครอบงำองค์กรอิสระได้ แต่วันนี้เมื่อไม่สามารถเข้าไปมีอิทธิพลเหนือการสรรหาอย่างเดิมได้อีก จึงออกอาการหวาดผวาไม่พอใจ ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้พรรคไทยรักไทยหนักแน่นและยอมรับบทบาทของศาลฎีกา ซึ่งทำหน้าที่ตามแนวพระราชดำรัส พรรคไทยรักไทยต้องไม่พยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดวิกฤตซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก เพราะเวลานี้ถือว่ากระบวนการเพื่อแก้ไขวิกฤตของชาติ กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี
‘การมาตอกย้ำว่า ถ้ากกต.ที่ได้รับการคัดเลือกมาทำหน้าที่ไม่ดี ศาลฎีกาต้องรับผิดชอบนั้นเป็นการพูดที่ใช้อารมณ์ ความรู้สึก และไม่เข้าใจถึงกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ พรรคไทยรักไทยอย่าตีโพยตีพายให้เสียกริยา เพราะคนที่ผ่านการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับการพิจารณามาระดับหนึ่ง ทั้งความเป็นกลางทางการเมือง รวมถึงความซื่อสัตย์สุจริต ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 136 และยังจะต้องถูกตรวจสอบคุณสมบัติจากวุฒิสภาอีกขั้นตอนหนึ่งต่างหาก’ นายอภิชาตกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ส.ค. 2549--จบ--
วันนี้ (11 ส.ค.49) เวลา 08.20น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์รายการข่าวยามเช้า ในช่วง ‘ตรงไปตรงมา กับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ ทางคลื่นวิทยุ 101.0 เมกกะเฮิร์ท ถึงการสรรหาผู้ที่เหมาะสมเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า การดำเนินการของศาลน่าจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในเรื่องการจัดการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ส่วนขั้นตอนต่อไปที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภานั้น ต้องขึ้นอยู่กับวุฒิสภาที่จะดำเนินการ ซึ่งก็ขอให้กระบวนการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และโปร่งใส ตนคิดว่าหากสามารถดำเนินตามแนวทางนี้ได้ และสามารถทำให้บรรยากาศเดินไปสู่กระบวนการการเลือกตั้ง ปัญหาต่างๆก็จะสามารถคลี่คลายได้ทางหนึ่ง
ส่วนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคมหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ต้องถามทางวุฒิสภา เพราะวุฒิสภาจะตอบได้ว่ากระบวนการสรรหาของวุฒิสภา ยังสามารถที่จะยึดกรอบเวลาเดิม ซึ่งพระราชกฤษฎีกาจะมีผลบังคับใช้วันที่ 24 ได้หรือไม่ ในความเห็นตนมองว่าถ้าสามารถทำได้ก็เป็นเรื่องดี เพราะขณะนี้ทุกคนอยากเห็นความชัดเจนความแน่นอนในหลายเรื่อง แต่หากว่าทำไม่ได้ ก็ควรที่จะชี้แจงถึงเหตุผลให้ทุกฝ่ายรับทราบเพื่อให้เกิดความมั่นใจ
ด้านนายอภิชาต ศักดิเศรษฐ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทีมงานโฆษกพรรคไทยรักไทยออกมาตั้งข้อสังเกตถึงผลการสรรหาผู้เหมาะสมเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา โดยเฉพาะกรณีของนายนาม ยิ้มแย้ม และนายแก้วสรร อติโพธิว่า เป็นการวิตกจริตของพรรคไทยรักไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเคยชินเก่าๆ ที่เคยแทรกแซงครอบงำองค์กรอิสระได้ แต่วันนี้เมื่อไม่สามารถเข้าไปมีอิทธิพลเหนือการสรรหาอย่างเดิมได้อีก จึงออกอาการหวาดผวาไม่พอใจ ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้พรรคไทยรักไทยหนักแน่นและยอมรับบทบาทของศาลฎีกา ซึ่งทำหน้าที่ตามแนวพระราชดำรัส พรรคไทยรักไทยต้องไม่พยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดวิกฤตซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก เพราะเวลานี้ถือว่ากระบวนการเพื่อแก้ไขวิกฤตของชาติ กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี
‘การมาตอกย้ำว่า ถ้ากกต.ที่ได้รับการคัดเลือกมาทำหน้าที่ไม่ดี ศาลฎีกาต้องรับผิดชอบนั้นเป็นการพูดที่ใช้อารมณ์ ความรู้สึก และไม่เข้าใจถึงกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ พรรคไทยรักไทยอย่าตีโพยตีพายให้เสียกริยา เพราะคนที่ผ่านการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับการพิจารณามาระดับหนึ่ง ทั้งความเป็นกลางทางการเมือง รวมถึงความซื่อสัตย์สุจริต ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 136 และยังจะต้องถูกตรวจสอบคุณสมบัติจากวุฒิสภาอีกขั้นตอนหนึ่งต่างหาก’ นายอภิชาตกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ส.ค. 2549--จบ--