พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วัน จันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 85/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 17-23 กรกฎาคม 2549
ในระยะนี้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง 60-70 % ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนยังคงมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลงอยู่เกณฑ์กระจาย 40-60 % ของพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลงด้วย
คำเตือน
ในระยะนี้ประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหล และพื้นที่ลุ่มของพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือและภาคกลางด้านตะวันตก รวมทั้งบริเวณชายฝั่งของภาคตะวันออก ซึ่งได้แก่บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี จันทบุรี และตราดควรเฝ้าระวังภัยจากฝนตกหนักไว้ด้วย สำหรับ คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง ในช่วงวันที่ 17-18 และ 22-23 ก.ค. โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 50-80 % ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนบนของภาคในช่วงวันที่ 17-19 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10-25 กม./ชม.
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 50-80 % ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนบนของภาคในช่วงวันที่ 17-19 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10-25 กม./ชม. ในช่วงที่มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะทางตอนบน และด้านตะวันตกของภาค เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ผลควรดูแลบริเวณสวนและโคนต้นพืชให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 17-19 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-30 กม./ชม.
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 17-19 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-30 กม./ชม. สำหรับบริเวณที่มีฝนตกเกษตรกรที่ปลูกพืชผักในระยะนี้ควรยกร่องแปลงปลูก ให้สูงเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณแปลงปลูก รวมทั้งควรคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อรา
กลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตะวันตกของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 17-18 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-30 กม./ชม.
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตะวันตกของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 17-18 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-30 กม./ชม. สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกไม่อับชื้น และหลังคาอย่าให้มีรอยรั่ว รวมทั้งทำแผงกำบังฝนสาด นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในไม้ผลด้วย
ตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดสัปดาห์ 40-70 % ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งจันทบุรี และตราด ในช่วงวันที่ 17-18 และ 22-23 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 20-40 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังอ่อนลง
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดสัปดาห์ 40-70 % ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งจันทบุรี และตราด ในช่วงวันที่ 17-18 และ 22-23 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 20-40 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังอ่อนลง สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เช่น เงาะ และทุเรียนชาวสวน ไม่ควรกองเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เปลือกและผลที่เน่าในบริเวณสวน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคซึ่งเกิดจากเชื้อรา ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงกะทันหัน เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทันทำให้ เจ็บป่วยได้ง่าย
ใต้
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาคในช่วงวันที่ 17-18 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 50-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว15-35 กม./ชม. ในช่วงที่มีฝนตกหนัก ซึ่งทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมขังได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกอย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณรากพืชนาน เพราะจะทำให้รากขาดอากาศและตายได้ ส่วนชาวสวนควรระวังการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อราด้วย โดยเฉพาะโรครากเน่าและโรคโคนเน่าในไม้ผล อนึ่งในช่วงวันที่ 17-18 และ 22-23 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเล อันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาคในช่วงวันที่ 17-18 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 50-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว15-35 กม./ชม. ในช่วงที่มีฝนตกหนัก ซึ่งทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมขังได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกอย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณรากพืชนาน เพราะจะทำให้รากขาดอากาศและตายได้ ส่วนชาวสวนควรระวังการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อราด้วย โดยเฉพาะโรครากเน่าและโรคโคนเน่าในไม้ผล อนึ่งในช่วงวันที่ 17-18 และ 22-23 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเล อันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-