กรุงเทพ--8 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าพบนาย Peter Gordon MacKay รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดา โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเกี่ยวกับประเด็นความสัมพันธ์สองฝ่าย และเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันในเรื่องต่างๆ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
กันตธีร์ผลักดัน Working Holiday Scheme กับแคนาดาเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กไทย
ไปแคนาดา
แคนาดาเป็นประเทศที่มีวิทยาการและมาตรฐานการศึกษาสูง จึงน่าจะเป็นโอกาสให้เยาวชนไทยได้ไปศึกษาและเรียนรู้จากแคนาดา ไทยและแคนาดาควรขยายความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนเกื้อกูลความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกัน ดร.กันตธีร์ฯ ได้เสนอให้ไทยและแคนาดาร่วมมือกันจัดทำความตกลง Working Holiday Scheme ซึ่งไทยได้ดำเนินการกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จนประสบผลสำเร็จมาแล้ว โดยโครงการดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้เยาวชนของทั้งสองประเทศสามารถไปศึกษา และท่องเที่ยวในแต่ละประเทศได้เป็นเวลา 1 ปีโดยสามารถทำงานหารายได้ไปพร้อมๆ กันด้วย อันจะเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนของทั้งสองประเทศได้เดินทางแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเสริมสร้างความเข้าใจด้านสังคมและวัฒนธรรมระหว่างกัน ซึ่งฝ่ายแคนาดาเห็นพ้องด้วย และรับจะไปพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องต่อไป
แคนาดาทำเหรียญที่ระลึกร่วมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
นาย MacKay ได้แสดงความยินดีต่อ ดร.กันตธีร์ฯ เกี่ยวกับการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งมีพระประมุขของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเสด็จไปร่วมงานด้วย ดร.กันตธีร์ ขอบคุณที่
โรงกษาปณ์ของแคนาดาได้ร่วมผลิตเหรียญที่ระลึกฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่ที่สุดในโลก
กันตธีร์เชิญรัฐมนตรีแคนาดานำผู้แทนการค้าเยือนไทย
โดยที่การค้าสองฝ่ายมีมูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การลงทุนระหว่างกันยังมีไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ดร.กันตธีร์ฯ จึงได้เชิญให้รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดานำคณะผู้แทนการค้ามาเยือนไทยเพื่อส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์การค้า การลงทุนระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจะเป็นการกำจัดอุปสรรคด้านจิตวิทยาเกี่ยวกับความห่างไกลของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศด้วย
กันตธีร์เสนอแคนาดาเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือสามฝ่ายช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา
ไทยได้เปลี่ยนสถานะจากประเทศผู้รับความช่วยเหลือมาเป็นประเทศผู้ให้ ประกอบกับไทยมีประสบการณ์และความชำนาญในด้านการแก้ปัญหาความยากจน การป้องกันโรคเอดส์ ไข้หวัดนก การแก้ปัญหายาเสพติด การปลูกพืชทดแทนยาเสพติด และการป้องกันภัยพิบัติ จึงเห็นว่า หากไทยและแคนาดาจะร่วมมือกันเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือสามฝ่าย โดยใช้ประสบการณ์และความชำนาญของไทย และทุนและความชำนาญจากแคนาดา ช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา ก็จะช่วยลดช่องว่างการพัฒนาของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคได้ นาย MaKay เห็นพ้องกับข้อเสนอของไทยในเรื่องนี้
กันตธีร์เสนอไทยเป็นผู้สังเกตการณ์กลุ่มประเทศพูดภาษาฝรั่งเศส (La Francophonie)
โดยที่กลุ่มประเทศพูดภาษาฝรั่งเศสมีสมาชิกเป็นประเทศในแอฟริกาหลายประเทศ หากไทยสามารถเข้าร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์กับกลุ่มประเทศนี้ได้ จะเป็นการเปิดแนวความสัมพันธ์ใหม่กับกลุ่มประเทศนี้ อันจะนำมาซึ่งการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะกับประเทศในแอฟริกา ซึ่งไทยมีโครงการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาแก่ประเทศเหล่านี้อยู่ ทั้งในกรอบการดำเนินการสองฝ่ายและการความร่วมมือสามฝ่าย ฝ่ายแคนาดาเห็นพ้องด้วยกับข้อเสนอของ ดร.กันตธีร์ฯ
กันตธีร์เร่งรัดแคนาดาลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ไทยเห็นว่า หากไทยและแคนาดาสามารถเห็นพ้องกันในการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็จะทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถจัดตั้งกองทุนวิจัยร่วมกัน มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับสูง แลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ แลกเปลี่ยนนักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัยระหว่างกัน ซึ่งในเรื่องนี้ ฝ่ายแคนาดารับจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามผลการพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจฯ ซึ่งฝ่ายไทยได้เสนอให้ฝ่ายแคนาดาแล้ว
ไทยและแคนาดาจับมือแก้ไขปัญหาความมั่นคงใหม่ในกรอบเครือข่ายความมั่นคงมนุษย์
โดยที่แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่ริเริ่มจัดตั้งเครือข่ายความมั่นคงมนุษย์ (Human Security Network) เมื่อปี 2542 ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 12 ประเทศ คือ แคนาดา ออสเตรเลีย ชิลี กรีซ ไอร์แลนด์ จอร์แดน มาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ สโลวีเนีย และไทย และต่อมา ไทยได้ดำรงตำแหน่งประธานเครือข่ายความมั่นคงมนุษย์ต่อจากแคนาดา ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า โดยที่ปัจจุบัน มีประเด็นความมั่นคงใหม่เกิดขึ้นหลายเรื่อง ได้แก่ ปัญหายาเสพติด โรคติดต่อ เช่น โรคเอดส์ ไข้หวัดนก การจัดการปัญหาภัยพิบัติ การก่อการร้าย และการค้ามนุษย์ จึงเห็นควรที่จะต้องผลักดันความร่วมมือแก้ไขประเด็นปัญหาเหล่านี้ด้วย ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า ประเด็นเหล่านี้ควรรวมอยู่ในระเบียบวาระการพิจารณาของเครือข่ายความมั่นคงมนุษย์ ซึ่งไทยและแคนาดาต่างเห็นพ้องกันที่จะเสริมสร้างร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ อันจะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาของมนุษยชาติได้
กันตธีร์สนับสนุนความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา
โดยที่ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2549 แคนาดาได้รับรองแผนการดำเนินความร่วมมือร่วมอาเซียน-แคนาดา ปี 2005-2007 และได้ลงนามในปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศ ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า อาเซียนสามารถร่วมมือกับแคนาดาได้ในหลายๆ เรื่อง เช่น การต่อต้านการก่อร้ายระหว่างประเทศ การจัดการภัยพิบัติ Interfaith Dialogue และการป้องกันแก้ไขปัญหาโรคระบาด จึงสนับสนุนแคนาดาให้เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการดำเนินความร่วมมือกับอาเซียนต่อไป โดยเฉพาะในปี 2550 ซึ่งจะเป็นปีครบรอบ 30 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับแคนาดา
กันตธีร์ขอเสียงสนับสนุนสุรเกียรติ์
ดร.กันตธีร์ขอให้แคนาดาสนับสนุนการสมัครในตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ซึ่งเป็นผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนจากอาเซียน และมีประสบการณ์ทั้งจากภาครัฐและเอกชน เป็นผู้มีคุณสมบัติที่สามารถจะผลักดันการปฏิรูปสหประชาชาติให้คืบหน้าไปได้ นาย MacKay เห็นว่า ดร.สุรเกียรติ์ฯ เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น และได้แสดงท่าทีและวิสัยทัศน์เกี่ยวกับสหประชาชาติได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งแคนาดาจะพิจารณาคำขอของไทยด้วยดี
แคนาดาขอให้ไทยยกเลิกห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากแคนาดา
โดยที่ไทยมีข้อห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากแคนาดา ซึ่งแคนาดาได้แจ้งว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของแคนาดาได้ดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นทุกมาตรการอย่างเข้มงวดที่สุดในการตรวจสอบคุณภาพของเนื้อวัวที่จะส่งออกไปต่างประเทศแล้ว จึงขอให้ไทยพิจารณาอนุญาตให้มีการนำเข้าเนื้อวัวดังกล่าวด้วย ดร.กันตธีร์ฯ กล่าวว่า ไทยยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับเนื้อวัวที่มาจากรัฐอัลเบอร์ตา ซึ่งพบการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ อย่างไรก็ดี รับจะไปพิจารณาร่วมกับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันเกี่ยวกับสถานการณ์ภาคใต้ ปัญหาพม่า เกาหลีเหนือ และอิหร่าน
ในระหว่างการเยือนแคนาดา ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล ได้ร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา โดยมีบรรดานักธุรกิจสำคัญของแคนาดาที่เมืองโตรอนโต 20 คนจากหลากหลายสาขาเข้าร่วมงานด้วย อันได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน ขนส่ง สื่อสาร สถาบันการเงิน การท่องเที่ยว ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมแคนาดา-จีน ธุรกิจอาหารและซุปเปอร์มาเก็ต และสื่อมวลชนท้องถิ่น ดร.กันตธีร์ฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์เชิญชวนให้นักธุรกิจแคนาดาไปลงทุนในประเทศไทย สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1.ความสำเร็จของการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับแคนาดาอยู่ที่การกำจัดอุปสรรคทางจิตวิทยาเกี่ยวกับความห่างไกลกันของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของทั้งสองประเทศ โดย ดร.กันตธีร์ฯ ได้เชิญชวนให้นักธุรกิจแคนาดาเข้ามาลงทุนในไทยโดยอาศัยบรรยากาศการลงทุนที่เอื้ออำนวย และสถานะความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค กล่าว คือ ในปัจจุบัน ไทยได้เตรียมการในด้านต่างๆ เพื่อรองรับกระแสโลกาภิวัตน์ ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาด้านการศึกษา และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และในวันที่ 28 กันยายน ศกนี้ ไทยจะเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินอาคารผู้โดยสารเดี่ยว (single terminal) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อันจะสามารถรองรับผู้เดินทางได้ปีละ 100 ล้านคน
2.รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายในการแก้ไขปัญหาในประเทศที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา ได้แก่ การคอร์รัปชั่น ความยากจน และปัญหายาเสพติด
3.ในด้านการค้ากับต่างประเทศ รัฐบาลไทยสนับสนุนการค้าเสรี และได้จัดทำความตกลงกับหลายประเทศ ได้แก่ อาเซียน ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น บาห์เรน อินเดีย เปรู และสหรัฐฯ อันจะทำให้แคนาดาสามารถใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางการค้าที่ไทยได้รับในการดำเนินความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างแคนาดากับและประเทศเหล่านี้ได้
4.ไทยสนใจในความเชี่ยวชาญของแคนาดาใน 2 เรื่อง คือ เทคโนโลยีการเกษตร และชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งทั้งสองฝ่ายน่าจะประสานความสนใจระหว่างกันได้ในเชิงธุรกิจ
ดร.กันตธีร์ฯ ได้เชิญชวนให้นักธุรกิจแคนาดาแสวงประโยชน์ด้านการค้าและการลงทุนจากไทยเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนั้น ดร.กันตธีร์ฯ ยังได้เชิญชวนฝ่ายแคนาดาให้ไปพักผ่อนระยะยาวในไทย โดยนอกจากจะสามารถใช้บริการด้านการแพทย์ที่มีคุณภาพ และราคาไม่แพงแล้ว ยังสามารถพักผ่อนด้วยสปาไทยและอาหารไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าพบนาย Peter Gordon MacKay รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดา โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเกี่ยวกับประเด็นความสัมพันธ์สองฝ่าย และเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันในเรื่องต่างๆ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
กันตธีร์ผลักดัน Working Holiday Scheme กับแคนาดาเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กไทย
ไปแคนาดา
แคนาดาเป็นประเทศที่มีวิทยาการและมาตรฐานการศึกษาสูง จึงน่าจะเป็นโอกาสให้เยาวชนไทยได้ไปศึกษาและเรียนรู้จากแคนาดา ไทยและแคนาดาควรขยายความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนเกื้อกูลความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกัน ดร.กันตธีร์ฯ ได้เสนอให้ไทยและแคนาดาร่วมมือกันจัดทำความตกลง Working Holiday Scheme ซึ่งไทยได้ดำเนินการกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จนประสบผลสำเร็จมาแล้ว โดยโครงการดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้เยาวชนของทั้งสองประเทศสามารถไปศึกษา และท่องเที่ยวในแต่ละประเทศได้เป็นเวลา 1 ปีโดยสามารถทำงานหารายได้ไปพร้อมๆ กันด้วย อันจะเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนของทั้งสองประเทศได้เดินทางแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเสริมสร้างความเข้าใจด้านสังคมและวัฒนธรรมระหว่างกัน ซึ่งฝ่ายแคนาดาเห็นพ้องด้วย และรับจะไปพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องต่อไป
แคนาดาทำเหรียญที่ระลึกร่วมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
นาย MacKay ได้แสดงความยินดีต่อ ดร.กันตธีร์ฯ เกี่ยวกับการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งมีพระประมุขของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเสด็จไปร่วมงานด้วย ดร.กันตธีร์ ขอบคุณที่
โรงกษาปณ์ของแคนาดาได้ร่วมผลิตเหรียญที่ระลึกฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่ที่สุดในโลก
กันตธีร์เชิญรัฐมนตรีแคนาดานำผู้แทนการค้าเยือนไทย
โดยที่การค้าสองฝ่ายมีมูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การลงทุนระหว่างกันยังมีไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ดร.กันตธีร์ฯ จึงได้เชิญให้รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดานำคณะผู้แทนการค้ามาเยือนไทยเพื่อส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์การค้า การลงทุนระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจะเป็นการกำจัดอุปสรรคด้านจิตวิทยาเกี่ยวกับความห่างไกลของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศด้วย
กันตธีร์เสนอแคนาดาเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือสามฝ่ายช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา
ไทยได้เปลี่ยนสถานะจากประเทศผู้รับความช่วยเหลือมาเป็นประเทศผู้ให้ ประกอบกับไทยมีประสบการณ์และความชำนาญในด้านการแก้ปัญหาความยากจน การป้องกันโรคเอดส์ ไข้หวัดนก การแก้ปัญหายาเสพติด การปลูกพืชทดแทนยาเสพติด และการป้องกันภัยพิบัติ จึงเห็นว่า หากไทยและแคนาดาจะร่วมมือกันเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือสามฝ่าย โดยใช้ประสบการณ์และความชำนาญของไทย และทุนและความชำนาญจากแคนาดา ช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา ก็จะช่วยลดช่องว่างการพัฒนาของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคได้ นาย MaKay เห็นพ้องกับข้อเสนอของไทยในเรื่องนี้
กันตธีร์เสนอไทยเป็นผู้สังเกตการณ์กลุ่มประเทศพูดภาษาฝรั่งเศส (La Francophonie)
โดยที่กลุ่มประเทศพูดภาษาฝรั่งเศสมีสมาชิกเป็นประเทศในแอฟริกาหลายประเทศ หากไทยสามารถเข้าร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์กับกลุ่มประเทศนี้ได้ จะเป็นการเปิดแนวความสัมพันธ์ใหม่กับกลุ่มประเทศนี้ อันจะนำมาซึ่งการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะกับประเทศในแอฟริกา ซึ่งไทยมีโครงการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาแก่ประเทศเหล่านี้อยู่ ทั้งในกรอบการดำเนินการสองฝ่ายและการความร่วมมือสามฝ่าย ฝ่ายแคนาดาเห็นพ้องด้วยกับข้อเสนอของ ดร.กันตธีร์ฯ
กันตธีร์เร่งรัดแคนาดาลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ไทยเห็นว่า หากไทยและแคนาดาสามารถเห็นพ้องกันในการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็จะทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถจัดตั้งกองทุนวิจัยร่วมกัน มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับสูง แลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ แลกเปลี่ยนนักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัยระหว่างกัน ซึ่งในเรื่องนี้ ฝ่ายแคนาดารับจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามผลการพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจฯ ซึ่งฝ่ายไทยได้เสนอให้ฝ่ายแคนาดาแล้ว
ไทยและแคนาดาจับมือแก้ไขปัญหาความมั่นคงใหม่ในกรอบเครือข่ายความมั่นคงมนุษย์
โดยที่แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่ริเริ่มจัดตั้งเครือข่ายความมั่นคงมนุษย์ (Human Security Network) เมื่อปี 2542 ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 12 ประเทศ คือ แคนาดา ออสเตรเลีย ชิลี กรีซ ไอร์แลนด์ จอร์แดน มาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ สโลวีเนีย และไทย และต่อมา ไทยได้ดำรงตำแหน่งประธานเครือข่ายความมั่นคงมนุษย์ต่อจากแคนาดา ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า โดยที่ปัจจุบัน มีประเด็นความมั่นคงใหม่เกิดขึ้นหลายเรื่อง ได้แก่ ปัญหายาเสพติด โรคติดต่อ เช่น โรคเอดส์ ไข้หวัดนก การจัดการปัญหาภัยพิบัติ การก่อการร้าย และการค้ามนุษย์ จึงเห็นควรที่จะต้องผลักดันความร่วมมือแก้ไขประเด็นปัญหาเหล่านี้ด้วย ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า ประเด็นเหล่านี้ควรรวมอยู่ในระเบียบวาระการพิจารณาของเครือข่ายความมั่นคงมนุษย์ ซึ่งไทยและแคนาดาต่างเห็นพ้องกันที่จะเสริมสร้างร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ อันจะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาของมนุษยชาติได้
กันตธีร์สนับสนุนความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา
โดยที่ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2549 แคนาดาได้รับรองแผนการดำเนินความร่วมมือร่วมอาเซียน-แคนาดา ปี 2005-2007 และได้ลงนามในปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศ ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า อาเซียนสามารถร่วมมือกับแคนาดาได้ในหลายๆ เรื่อง เช่น การต่อต้านการก่อร้ายระหว่างประเทศ การจัดการภัยพิบัติ Interfaith Dialogue และการป้องกันแก้ไขปัญหาโรคระบาด จึงสนับสนุนแคนาดาให้เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการดำเนินความร่วมมือกับอาเซียนต่อไป โดยเฉพาะในปี 2550 ซึ่งจะเป็นปีครบรอบ 30 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับแคนาดา
กันตธีร์ขอเสียงสนับสนุนสุรเกียรติ์
ดร.กันตธีร์ขอให้แคนาดาสนับสนุนการสมัครในตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ซึ่งเป็นผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนจากอาเซียน และมีประสบการณ์ทั้งจากภาครัฐและเอกชน เป็นผู้มีคุณสมบัติที่สามารถจะผลักดันการปฏิรูปสหประชาชาติให้คืบหน้าไปได้ นาย MacKay เห็นว่า ดร.สุรเกียรติ์ฯ เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น และได้แสดงท่าทีและวิสัยทัศน์เกี่ยวกับสหประชาชาติได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งแคนาดาจะพิจารณาคำขอของไทยด้วยดี
แคนาดาขอให้ไทยยกเลิกห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากแคนาดา
โดยที่ไทยมีข้อห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากแคนาดา ซึ่งแคนาดาได้แจ้งว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของแคนาดาได้ดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นทุกมาตรการอย่างเข้มงวดที่สุดในการตรวจสอบคุณภาพของเนื้อวัวที่จะส่งออกไปต่างประเทศแล้ว จึงขอให้ไทยพิจารณาอนุญาตให้มีการนำเข้าเนื้อวัวดังกล่าวด้วย ดร.กันตธีร์ฯ กล่าวว่า ไทยยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับเนื้อวัวที่มาจากรัฐอัลเบอร์ตา ซึ่งพบการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ อย่างไรก็ดี รับจะไปพิจารณาร่วมกับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันเกี่ยวกับสถานการณ์ภาคใต้ ปัญหาพม่า เกาหลีเหนือ และอิหร่าน
ในระหว่างการเยือนแคนาดา ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล ได้ร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา โดยมีบรรดานักธุรกิจสำคัญของแคนาดาที่เมืองโตรอนโต 20 คนจากหลากหลายสาขาเข้าร่วมงานด้วย อันได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน ขนส่ง สื่อสาร สถาบันการเงิน การท่องเที่ยว ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมแคนาดา-จีน ธุรกิจอาหารและซุปเปอร์มาเก็ต และสื่อมวลชนท้องถิ่น ดร.กันตธีร์ฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์เชิญชวนให้นักธุรกิจแคนาดาไปลงทุนในประเทศไทย สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1.ความสำเร็จของการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับแคนาดาอยู่ที่การกำจัดอุปสรรคทางจิตวิทยาเกี่ยวกับความห่างไกลกันของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของทั้งสองประเทศ โดย ดร.กันตธีร์ฯ ได้เชิญชวนให้นักธุรกิจแคนาดาเข้ามาลงทุนในไทยโดยอาศัยบรรยากาศการลงทุนที่เอื้ออำนวย และสถานะความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค กล่าว คือ ในปัจจุบัน ไทยได้เตรียมการในด้านต่างๆ เพื่อรองรับกระแสโลกาภิวัตน์ ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาด้านการศึกษา และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และในวันที่ 28 กันยายน ศกนี้ ไทยจะเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินอาคารผู้โดยสารเดี่ยว (single terminal) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อันจะสามารถรองรับผู้เดินทางได้ปีละ 100 ล้านคน
2.รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายในการแก้ไขปัญหาในประเทศที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา ได้แก่ การคอร์รัปชั่น ความยากจน และปัญหายาเสพติด
3.ในด้านการค้ากับต่างประเทศ รัฐบาลไทยสนับสนุนการค้าเสรี และได้จัดทำความตกลงกับหลายประเทศ ได้แก่ อาเซียน ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น บาห์เรน อินเดีย เปรู และสหรัฐฯ อันจะทำให้แคนาดาสามารถใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางการค้าที่ไทยได้รับในการดำเนินความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างแคนาดากับและประเทศเหล่านี้ได้
4.ไทยสนใจในความเชี่ยวชาญของแคนาดาใน 2 เรื่อง คือ เทคโนโลยีการเกษตร และชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งทั้งสองฝ่ายน่าจะประสานความสนใจระหว่างกันได้ในเชิงธุรกิจ
ดร.กันตธีร์ฯ ได้เชิญชวนให้นักธุรกิจแคนาดาแสวงประโยชน์ด้านการค้าและการลงทุนจากไทยเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนั้น ดร.กันตธีร์ฯ ยังได้เชิญชวนฝ่ายแคนาดาให้ไปพักผ่อนระยะยาวในไทย โดยนอกจากจะสามารถใช้บริการด้านการแพทย์ที่มีคุณภาพ และราคาไม่แพงแล้ว ยังสามารถพักผ่อนด้วยสปาไทยและอาหารไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-