พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 37/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม - 2 เมษายน 2549
หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดระนอง และสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ และในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้จะแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. — 2 เม.ย. คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกที่ปกคลุมประเทศพม่าจะเคลื่อนตัวเข้ามา ปกคลุมภาคเหนือ ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
ในช่วงวันที่ 27-30 มี.ค. อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดตาก ลำพูน ลำปาง อุณหภูมิสูงสุด 40-41 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง บางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.- 1 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆถึงกระจาย 20 — 50 % ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมทั้งอุณหภูมิจะลดลง ลมแปรปรวน 10-25 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 27-30 มี.ค. อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดตาก ลำพูน ลำปาง อุณหภูมิสูงสุด 40-41 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง บางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.- 1 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆถึงกระจาย 20 — 50 % ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมทั้งอุณหภูมิจะลดลง ลมแปรปรวน 10-25 กม./ชม. เกษตรกรควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง และผลผลิตทางการเกษตรเนื่องจากสภาวะฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บในระยะนี้โดยเฉพาะทางตอนบของภาค ส่วนบริเวณที่มี ฝนตกเกษตรกรควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ด้วย
ตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และอุณหภูมิจะลดลงส่วนมากในช่วงวันที่ 28-31 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และอุณหภูมิจะลดลงส่วนมากในช่วงวันที่ 28-31 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ เกษตรกรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตการเกษตรไว้กลางแจ้ง ส่วนไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
กลาง
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-20 % ของพื้นที่ และ มีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-20 % ของพื้นที่ และ มีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อย ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ และคลุมโคนต้นด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อสงวนความชื้นในดิน ส่วนชาวสวนองุ่นควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ
ตะวันออก
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองเป็น แห่ง ๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผล ให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และควรเพิ่มความระมัดระวังในการตากผลผลิตการเกษตร ไว้กลางแจ้งด้วย
ใต้
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตอนล่างของภาคส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และนราธิวาส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 50-70 % ของพื้นที่เกือบ ตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต ตรัง และสตูล ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตอนล่างของภาคส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และนราธิวาส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 50-70 % ของพื้นที่เกือบ ตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต ตรัง และสตูล ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนักโดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำ ให้มีประสิทธิภาพด้วย ส่วนไม้ผลที่กำลังติดผลอ่อน ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวก หนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลอ่อนร่วงหล่น