รถโดยสารเฉี่ยวชนรถสิบล้อ มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก ได้รับความคุ้มครองจาก การประกันภัย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 19, 2006 07:59 —คปภ.

         จากอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2549 เวลา 10.20 น. รถโดยสารสายขอนแก่น-สุรินทร์ เฉี่ยวชนรถบรรทุกสิบล้อบรรทุกรถขุดดิน(รถแบคโฮ) เป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกสิบล้อและผู้โดยสารในรถโดยสารเสียชีวิตรวม 8 ราย บาดเจ็บ 35 ราย และเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุเกิดบนถนนขอนแก่น-ยางตลาด ต.เสือเฒ่า อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ รองอธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการทำประกันภัย ปรากฏว่า รถโดยสารสายขอนแก่น-สุรินทร์ หมายเลขทะเบียน 10-0988 มหาสารคาม ได้ทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.) กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด และรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กยร-605 มหาสารคาม ได้ทำประกันภัยตามพ.ร.บ.กับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด ส่วนรถบรรทุกสิบล้อไม่พบหลักฐานการทำประกันภัย
นางบุษราฯ กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากในขณะนี้ยังไม่ทราบผลคดีว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท ทายาทของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่โดยสารมากับรถโดยสาร สามารถเรียกร้องได้เฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนก่อน โดยกรณีบาดเจ็บสามารถเรียกร้องเป็นค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 15,000 บาท และกรณีเสียชีวิตรายละ 35,000 บาท จากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด สำหรับทายาทผู้ขับขี่รถบรรทุกสิบล้อที่เสียชีวิต สามารถเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจำนวน 35,000 บาท
หากต่อไปทราบผลคดีว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท จะสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัย แยกเป็น 3 กรณีดังนี้ (หากได้รับค่าปลงศพหรือค่ารักษาพยาบาลตามหลักการสำรองจ่ายแล้วให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าสินไหมทดแทน)
1. กรณีรถบรรทุกสิบล้อเป็นฝ่ายประมาท ทายาทของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องได้เพียงค่าเสียหายเบื้องต้นดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น เนื่องจากรถบรรทุกสิบล้อไม่ได้ทำประกันภัยไว้
2. กรณีรถโดยสารเป็นฝ่ายประมาท ทายาทของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด กรณีเสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 100,000 บาท กรณีบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงและค่าอนามัยตามความเหมาะสมรายละไม่เกิน 50,000 บาท ยกเว้นผู้ขับขี่รถโดยสารสามารถเรียกร้องได้เพียงค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 15,000 บาท
3. กรณีประมาทร่วม ทายาทของผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 100,000 บาท ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงและค่าอนามัยตามความเหมาะสม รายละไม่เกิน 50,000 บาท ยกเว้นผู้ขับขี่รถโดยสารและทายาทผู้ขับขี่รถบรรทุกสิบล้อสามารถเรียกร้องได้เพียงค่าเสียหายเบื้องต้น คือกรณีบาดเจ็บตามค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท และกรณีเสียชีวิตจำนวน 35,000 บาท
นางบุษราฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อบรรเทาความสูญเสียอันเกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขอฝากถึงผู้ใช้รถหรือเจ้าของรถทุกท่านโดยเฉพาะรถโดยสาร นอกจากจะต้องใช้รถด้วยความระมัดระวังแล้ว ควรหมั่นตรวจสอบประกันภัยรถตามพ.ร.บ.ของท่านว่ายังมีผลคุ้มครองอยู่ มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมายด้วย และหากจัดทำประกันภัยภาคสมัครใจเพิ่มเติมนอกเหนือจากการทำประกันภัยตามพ.ร.บ.แล้ว ผู้ประสบภัยก็จะได้รับการชดใช้ที่มากขึ้น และยังได้รับความคุ้มครองรวมไปถึงทรัพย์สินอีกด้วย
หากมีปัญหาและข้อสงสัยเกี่ยวกับการประกันภัยรถยนต์ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186 กลุ่มคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเขต และสำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด
ที่มา: http://www.doi.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ