“สุเทพ” แฉสำนวนยุบปชป.คลาดเคลื่อน ระบุกกต.เรียกสอบจ้างพรรคเล็กใส่ร้ายทรท.แต่รายงานกลับเป็นจ้างพรรคเล็กล้มเลือกตั้ง เชื่อเป็นการวางแผนล่วงหน้าอย่างมีระบบหวังเบี่ยงเบนประเด็น จี้เปิดผลสรุปที่ยื่นอสส.เพื่อความชัดเจน ยันพร้อมสู้เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ลั่นไม่ตั้งพรรครองรับแน่นอน แนะอัยการอย่าหวั่นไหวทำหน้าที่ตรงไปตรงมา
วันนี้(27มิ.ย.)นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปสำนวนคดีที่พรรคไทยรักไทยร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ให้อัยการสูงสุดแล้ว ว่า จากรายงานข่าวที่ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย และตนเป็นภัยต่อความมั่นคง ถือเป็นข้อหาที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เพราะไม่มีโอกาสได้ทราบข้อกล่าวหาที่แท้จริงตั้งแต่ต้น
นายสุเทพ กล่าวว่า เท่าที่สังเกตดูเห็นว่า มีความคลาดเคลื่อนพิกล โดยวันที่ไปให้ปากคำกับคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงของ กกต. บอกว่า มีการกล่าวหาว่า ตนว่าจ้างพรรคเล็กใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย แต่ในรายงานกลายเป็นว่า ไปจ้างพรรคเล็กล้มการเลือกตั้ง จึงไม่ทราบว่าข้อกล่าวหากับเรื่องที่สอบตรงกันหรือไม่
ทั้งนี้ นายสุเทพ เชื่อว่า เรื่องนี้มีการวางแผนไว้ก่อนอย่างเป็นระบบ หากพรรคถูกฝ่ายอธรรมรังแก ทำให้ถูกยุบพรรคจริง ก็พร้อมจะถูกยุบ ไม่มีการตั้งพรรคการเมืองใหม่มารองรับ จะมีแต่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น
“ถ้าถึงขั้นยุบประชาธิปัตย์ได้ ก็ถือว่าฝ่ายอธรรมยิ่งใหญ่เกรียงไกรมากมาย พวกผมคงต้องเปลี่ยนแนวทางในการต่อสู้ ผมไม่กังวลอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ แต่กังวลอนาคตประเทศไทย หากระบอบทักษิณยังเป็นเช่นนี้ ความฝันที่จะให้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข คงยากที่จะได้เห็น” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้สงสัยว่า มีการวางแผนเป็นระบบ เพราะมีการดำเนินการที่พยายามจะให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า พรรคประชาธิปัตย์ทำผิดเหมือนพรรคไทยรักไทย จนมีกระแสว่า จะยุบทั้ง 2 พรรค ทำให้คนเป็นห่วงว่าบ้านเมืองจะวุ่นวาย ไม่สงบ แล้วมาเสนอทางออกว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต้องยุบเลยทั้ง 2 พรรค ซึ่งทางออกนี้คือทางรอดของพรรคไทยรักไทย
นายสุเทพ ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต่อสู้พิสูจน์ความจริง ในข้อกล่าวหาที่จะมายุบพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป และจะนำพยานหลักฐานมาเปิดเผย พร้อมเรียกร้อง กกต.ให้ใจกว้าง เปิดเผยข้อกล่าวหาที่เป็นลายลักษณ์อักษร และเปิดเผยผลสรุปการสอบที่ยื่นให้อัยการสูงสุด เพื่อจะได้พิสูจน์ความจริงให้ชัดเจนว่า ใครทำผิด หรือใครทำถูก
“พรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบหรือไม่ ผมคงไม่โอหังไปประกาศว่ายุบไม่ได้ แต่ขอยืนยันว่า ประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำผิดในข้อกล่าวหาทั้งหมด และเมื่อ กกต.สงสัยก็ไปให้ปากคำ ทุกอย่างเป็นไปอย่างเปิดเผย และที่บอกว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำผิด เพราะโดยระบบของพรรคไม่ใช่เรื่องที่หัวหน้า หรือ เลขาธิการพรรค จะทำอะไรได้ด้วยอำเภอใจ” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า การที่ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง หรือต่อต้าน “ระบบทักษิณ” ก็เป็นมติของพรรค ที่ทำอย่างเปิดเผย เป็นสิทธิที่จะต่อสู้กับ “ระบบทักษิณ” เพราะแต่ละพรรคมีอุดมการณ์ของตัวเอง จึงขอยืนยันว่า สิ่งที่ทำเป็นการทำหน้าที่โดยบริสุทธิ์ ไม่ต้องการให้ใครบิดเบือน หรือใส่ร้าย และย้ำว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ ที่มีอุดมการณ์ และรู้สึกเห็นใจประชาชนที่สับสนต่อข้อกล่าวหา จึงจะนำความจริงมาตีแผ่ และเปิดเผยต่อไป
ต่อกรณีที่นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด เข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วานนี้ (26 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจอัยการสูงสุด เพราะอย่างไรก็เป็นข้าราชการ ย่อมอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี เมื่อถูกสั่งให้ไปพบก็ต้องไป แต่ กกต.เป็นองค์กรอิสระ ไม่ได้อยู่ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี กลับดูเหมือนว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ
“ในส่วนของอัยการสูงสุดคงต้องทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป แต่จะถูกใจประชาชน หรือถูกต้องหรือไม่ เราจะได้ติดตามว่า ผลจะออกมาอย่างไร ผมไม่กล้าคาดเดา แต่การที่นายกรัฐมนตรีออกมาประกาศว่า พรรคไทยรักไทยยุบไม่ได้ ผมก็เชื่อว่าต้องยุบไม่ได้ เพราะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในบ้านเมือง พูดคำไหนคงต้องเป็นคำนั้น แต่เสียดายที่ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ตามกระบวนการ” นายสุเทพ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 มิ.ย. 2549--จบ--
วันนี้(27มิ.ย.)นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปสำนวนคดีที่พรรคไทยรักไทยร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ให้อัยการสูงสุดแล้ว ว่า จากรายงานข่าวที่ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย และตนเป็นภัยต่อความมั่นคง ถือเป็นข้อหาที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เพราะไม่มีโอกาสได้ทราบข้อกล่าวหาที่แท้จริงตั้งแต่ต้น
นายสุเทพ กล่าวว่า เท่าที่สังเกตดูเห็นว่า มีความคลาดเคลื่อนพิกล โดยวันที่ไปให้ปากคำกับคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงของ กกต. บอกว่า มีการกล่าวหาว่า ตนว่าจ้างพรรคเล็กใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย แต่ในรายงานกลายเป็นว่า ไปจ้างพรรคเล็กล้มการเลือกตั้ง จึงไม่ทราบว่าข้อกล่าวหากับเรื่องที่สอบตรงกันหรือไม่
ทั้งนี้ นายสุเทพ เชื่อว่า เรื่องนี้มีการวางแผนไว้ก่อนอย่างเป็นระบบ หากพรรคถูกฝ่ายอธรรมรังแก ทำให้ถูกยุบพรรคจริง ก็พร้อมจะถูกยุบ ไม่มีการตั้งพรรคการเมืองใหม่มารองรับ จะมีแต่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น
“ถ้าถึงขั้นยุบประชาธิปัตย์ได้ ก็ถือว่าฝ่ายอธรรมยิ่งใหญ่เกรียงไกรมากมาย พวกผมคงต้องเปลี่ยนแนวทางในการต่อสู้ ผมไม่กังวลอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ แต่กังวลอนาคตประเทศไทย หากระบอบทักษิณยังเป็นเช่นนี้ ความฝันที่จะให้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข คงยากที่จะได้เห็น” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้สงสัยว่า มีการวางแผนเป็นระบบ เพราะมีการดำเนินการที่พยายามจะให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า พรรคประชาธิปัตย์ทำผิดเหมือนพรรคไทยรักไทย จนมีกระแสว่า จะยุบทั้ง 2 พรรค ทำให้คนเป็นห่วงว่าบ้านเมืองจะวุ่นวาย ไม่สงบ แล้วมาเสนอทางออกว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต้องยุบเลยทั้ง 2 พรรค ซึ่งทางออกนี้คือทางรอดของพรรคไทยรักไทย
นายสุเทพ ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต่อสู้พิสูจน์ความจริง ในข้อกล่าวหาที่จะมายุบพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป และจะนำพยานหลักฐานมาเปิดเผย พร้อมเรียกร้อง กกต.ให้ใจกว้าง เปิดเผยข้อกล่าวหาที่เป็นลายลักษณ์อักษร และเปิดเผยผลสรุปการสอบที่ยื่นให้อัยการสูงสุด เพื่อจะได้พิสูจน์ความจริงให้ชัดเจนว่า ใครทำผิด หรือใครทำถูก
“พรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบหรือไม่ ผมคงไม่โอหังไปประกาศว่ายุบไม่ได้ แต่ขอยืนยันว่า ประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำผิดในข้อกล่าวหาทั้งหมด และเมื่อ กกต.สงสัยก็ไปให้ปากคำ ทุกอย่างเป็นไปอย่างเปิดเผย และที่บอกว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำผิด เพราะโดยระบบของพรรคไม่ใช่เรื่องที่หัวหน้า หรือ เลขาธิการพรรค จะทำอะไรได้ด้วยอำเภอใจ” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า การที่ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง หรือต่อต้าน “ระบบทักษิณ” ก็เป็นมติของพรรค ที่ทำอย่างเปิดเผย เป็นสิทธิที่จะต่อสู้กับ “ระบบทักษิณ” เพราะแต่ละพรรคมีอุดมการณ์ของตัวเอง จึงขอยืนยันว่า สิ่งที่ทำเป็นการทำหน้าที่โดยบริสุทธิ์ ไม่ต้องการให้ใครบิดเบือน หรือใส่ร้าย และย้ำว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ ที่มีอุดมการณ์ และรู้สึกเห็นใจประชาชนที่สับสนต่อข้อกล่าวหา จึงจะนำความจริงมาตีแผ่ และเปิดเผยต่อไป
ต่อกรณีที่นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด เข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วานนี้ (26 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจอัยการสูงสุด เพราะอย่างไรก็เป็นข้าราชการ ย่อมอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี เมื่อถูกสั่งให้ไปพบก็ต้องไป แต่ กกต.เป็นองค์กรอิสระ ไม่ได้อยู่ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี กลับดูเหมือนว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ
“ในส่วนของอัยการสูงสุดคงต้องทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป แต่จะถูกใจประชาชน หรือถูกต้องหรือไม่ เราจะได้ติดตามว่า ผลจะออกมาอย่างไร ผมไม่กล้าคาดเดา แต่การที่นายกรัฐมนตรีออกมาประกาศว่า พรรคไทยรักไทยยุบไม่ได้ ผมก็เชื่อว่าต้องยุบไม่ได้ เพราะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในบ้านเมือง พูดคำไหนคงต้องเป็นคำนั้น แต่เสียดายที่ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ตามกระบวนการ” นายสุเทพ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 มิ.ย. 2549--จบ--