นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าการที่ไทยสามารถผลิตรถยนต์ได้ครบ 1 ล้านคันภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของไทยที่แสดงถึงความพร้อมในการเป็นดีทรอยต์ของเอเซียหรือศูนย์กลางผลิตรถยนต์ของเอเซียเร็วกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้ถึง 1 ปี อย่างไรก็ตามภายในปี 2553 รัฐบาลกระตุ้นให้กลุ่มผู้ประกอบการยานยนต์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปรับเป้าหมายการผลิตเป็น 2 ล้านคันในปี 2553 นั้น เนื่องจากสภาวะที่ดีของเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกประกอบกับการสนับสนุนและผลักดันของภาครัฐบาลคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่สูงกับเป้าหมายดังกล่าว
อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศและที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้การสนับสนุนมาตลอด ด้านนายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) และประธานกลุ่มคลัสเตอร์ยานยนต์และชิ้นส่วน ได้เปิดเผยว่าเป้าหมาย 2 ล้านคันเป็นเป้าหมายใหม่ที่จะต้องมีการนำกลับไปพิจารณาร่วมกันกับผู้ประกอบการต่างๆ ก่อนว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่หากให้ประเมินคาดว่าจะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่จะส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศเป็นหลัก สำหรับการที่ไทยมีโปรดักส์แชมเปี้ยนเพียงรถปิกอัพตัวเดียวเท่านั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการมากนักเนื่องจากผู้ประกอบการหลายยี่ห้อได้หันมาผลิตรถยนต์นั่งหรือเก๋งเพื่อส่งออกกันบ้างแล้ว
ประเด็นวิเคราะห์
อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะสามารถก้าวเข้าสู่การเป็นดีทรอยต์ของเอเซียหรือศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของเอเซียได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยโดยที่ปัจจัยแรกจะพิจารณาจากการผลิตรถยนต์ให้ได้ถึง 2 ล้านคันได้หรือไม่ภายในปี 2553 ปัจจัยที่สองจะขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจไทยและของโลกเป็นสำคัญ ทั้งนี้รัฐบาลไทยเห็นว่าอุตสาหกรรมนี้เป็นอุตสาหกรรมหลักที่ให้การส่งเสริมการลงทุนและชี้นำทิศทางการพัฒนาทั้งอุตสาหรรมมาโดยตลอดจึงคาดว่าจะสามารถผลักดันให้ไทยก้าวเข้าสู่การเป็นดีทรอยต์ของเอเซียได้ต่อไปในอนาคต
ที่มา: http://www.depthai.go.th