นายปีเตอร์ แมนเดลสัน หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านการค้าแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ผลักดันนโยบายการค้าแนวทางใหม่ มุ่งความสำคัญกระตุ้นการเปิดตลาดในต่างประเทศ ผ่านทางการจัดตั้งเขตการค้าเสรีกับพันธมิตรคู่ค้าในภูมิภาคสำคัญที่เป็นตลาดซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเฉพาะในอาเซียนและอเมริกาใต้ และต่อต้านแนวคิดปกป้องตลาดในภูมิภาค
นโยบายการค้าใหม่นี้มีการจัดร่างขึ้นภายใต้ยุทธศาสตร์เพิ่มขีดอำนาจการแข่งขันของอียูในตลาดการค้าโลก ขณะเดียวกันอียูยังยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่สนับสนุนการเปิดเสรีการค้าระดับพหุภาคีภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) เป็นสำคัญ
พันธกิจที่อียูต้องการเรียกร้องจากการเจรจากับคู่พันธมิตร ได้แก่ กฎหมายการค้า ภาคบริการ การแข่งขัน การลงทุน ความโปร่งใสในการเปิดตลาดจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งประเด็นเหล่านี้อยูในส่วนที่ดับบลิวทีโอยังคลอบคลุมไม่เพียงพอและเป็นปัญหาหลักที่ภาคธุรกิจของอียูประสบปัญหาในการเข้าไปขยายการค้าในตลาดเกิดใหม่
อย่างไรก็ตาม อ๊อกแฟม ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่ตรวจสอบเรื่องกระบวนการทางการค้าที่เป็นธรรม วิจารณ์ยุทธศาสตร์การทำการค้าแบบใหม่ของอียูที่เน้นการเจรจาการค้าระดับภูมิภาคและทวิภาคีว่า เป็นการพัฒนาที่มืดบอด ฉุดรั้งการเดินหน้าเจรจาระดับพหุภาคี และเป็นภัยคุกคามต่อการพัฒนาของประเทศยากจน จึงเรียกร้องให้อียูหันมายึดหลักเจรจาตามกรอบดับบลิวทีโอในแบบเดิม
ประเด็นวิเคราะห์:
การที่อียูปรับยุทธศาสตร์นโยบายการค้าใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการแข่งขันบนเวทีโลกนี้ ทำให้ภาครัฐและผู้ส่งออกของไทยต้องติดตามสภาวะการอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับตัวและศึกษากฎระเบียบใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการเจรจาการค้าเพื่อให้ทันต่อผลกระทบดังกล่าว
ที่มา: http://www.depthai.go.th