หนังสือพิมพ์เอเซียวอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า กรรมาธิการการค้ายุโรป นายปีเตอร์ แมนเดลสัน เตรียมเสนอเก็บภาษีทุ่มตลาดรองเท้าที่นำเข้าจากจีนและเวียดนาม ต่อประเทศสมาชิกสภาพ- ยุโรป (อียู) ภายหลังจากที่ตรวจสอบพบว่าผู้ส่งออกรองเท้าของสองประเทศดังกล่าว ดำเนินธุรกิจโดยมีมาตรฐานด้านความชอบธรรมทางธุรกิจต่ำกว่าเกณฑ์ของอียู และยังพบหลักฐานที่ชี้ชัดว่า อุตสาหกรรมส่งออกผลิตรองเท้าได้รับการแทรกแซงและอุดหนุนจากรัฐบาลผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ สิทธิพิเศษทางภาษีอัตราค่าเช่าโรงงานราคาถูก ในขณะที่เจ้าหน้าที่จีนปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมกับ มีการหารือกันระหว่างผู้ประกอบการและรัฐบาลเกี่ยวกับการรับมือต่อมาตรการการต่อต้านการทุ่มตลาดของอียู และวางแผนที่จะอุทรณ์ต่ออียูว่าร้องเท้าจากจีนมิได้สร้างความเสียหายให้แก่อุตสาหกรรมในยุโรป
คณะกรรมาธิการการค้ายุโรปวางแผนที่จะเริ่มใช้มาตรการดังกล่าว ในเดือนเมษายน 2549 เนื่องจากต้องการให้จีนและเวียดนามได้มีโอกาสในการปรับนโยบาย ขณะเดียวกันก็ให้แน่ใจว่ารองเท้าตามด่านศุลกากรในยุโรปขณะนี้จะได้รับการออกของหมดก่อนที่มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้
ประเด็นวิเคราะห์:
รองเท้าที่ประเทศจีนและเวียดนามส่งออกไปยุโรปโดยส่วนมากเป็นรองเท้าที่มีราคาถูกและไม่เน้นด้านคุณภาพมากนัก ดังนั้นหากประเทศไทยต้องการที่จะแข่งขันในตลาดยุโรป จึงควรที่จะพัฒนารูปแบบและคุณภาพให้อยู่ในระดับสูงตรงตามความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค เพื่อเป็นจุดเด่นและจุดขายที่แตกต่างจากสินค้าของจีนและเวียดนาม ทั้งนี้หากทั้งสองประเทศข้างต้นถูกบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีทุ่มตลาดรองเท้า ก็จะเป็นโอกาสทางการค้าของไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ที่มา: http://www.depthai.go.th