คำประกาศสดุดีเกียรติคุณ
นายชวน หลีกภัย
รัฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาการเมืองการปกครอง)
ประจำปีการศึกษา 2548
การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่ไม่สม่ำเสมอ รวมทั้งได้มีอุปสรรคเกิดขึ้นอย่างเนืองๆ การเปลี่ยนแปลงและความพลิกผันในทางการเมืองเหล่านี้ มีสาเหตุปัจจัยทั้งที่มาจากภายนอกประเทศ และมาจากปัจจัยภายในประเทศ ในกรณีปัจจัยในประเทศ เกิดขึ้นทั้งจากสภาพปัญหาทางโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรมและความอ่อนแอในจิตสำนึกความเป็นพลเมืองของประชาชน และในประการสำคัญมีสาเหตุเกิดมาจากปัญหาการต่อสู้เพื่อแสวงหาอำนาจ การก้าวเข้าสู่อำนาจ และการอำนาจของเห่ล่าผู้ปกครองประเทศด้วยกันเอง ซึ่งภายใต้สภานการณ์และความเป็นไปดังกล่าวนี้ นายชวน หลีกภัย นับเป็นผู้นำคนสำคัญคนหนึ่งของประเทศไทย ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการนำพาและประคับประคองส่งเสริมให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยและวิวัฒนาการต่อเนื่องตามกฎกติกาได้
นายชวน หลีกภัย เกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2481 ที่ตำบลท้ายพรุ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากนั้นได้ประกอบอาชีพทนายความ ก่อนที่จะตัดสินใจลงรับสมัครรับเลือกตั้ง และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่บ้านเกิดอย่างต่อเนื่องในทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งตามกฎกติกาประชาธิปไตยนับจากปี พ.ศ. 2512 เป็นต้นมา ตลอดระยะเวลากว่าสามสิบปี กล่าวได้ว่า นายชวน หลีกภัย เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ทรงเกียรติภูมิ มีความรู้ความสามารถ ประสบความสำเร็จในทางการเมือง และได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงมากที่สุดคนหนึ่งจากสมาชิกรัฐสภา และแวดวงของผู้ที่สนใจและมีความผูกพันกับการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตย
ผลงานที่โดดเด่นในทางการเมืองการปกครอง นอกจากการได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างสม่ำเสมอและตลอดมาแล้ว นายชวน หลีกภัย ยังได้ดำรงตำแหน่งสูงสุดทางสภานิติบัญญัติ กล่าวคือ ได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏรระหว่างปี พ.ศ. 2529 — 2531 ความสำเร็จที่สูงยิ่งขึ้นไปกว่านั้น ได้แก่ งานในฝ่ายบริหาร ซึ่งนายชวน หลีกภัย ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น ก่อนที่ก้าวเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยถึงสองสมัย สมัยแรกระหว่างปี พ.ศ. 2535 — 2538 และสมัยที่สองระหว่างปี พ.ศ. 2540 — 2544 ซึ่งสมัยที่สองนี้ นายชวน หลีกภัย ยังได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
ตลอดระยะเวลาของการทำหน้าที่ทางการเมืองที่สำคัญทั้งในการดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย นายชวน หลีกภัย ได้แสดงให้เห็นอย่างประจักษ์ชัดว่าเป็นผู้นำในทางการเมืองการปกครองที่มีความรู้ความสามารถ มีความสุจริตเที่ยงธรรมกอปรด้วยจริยธรรม และได้เสียสละตนเองเพื่อประเทศชาติ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย
นายชวน หลีกภัย เป็นผู้นำที่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย และมีหลักในการครองชีวิตอย่างเรียบง่าย อีกทั้งมีความคงเส้นคงวา และควรแก่การเคารพยกย่อง ลักษณะของจิตวิญญาณและการครองตนในลักษณะดังกล่าวนี้ ในส่วนปรากฎอยู่ในแบบวิถีชีวิตประจำวันทั่วไป และในส่วนสำคัญอีกด้านหนึ่งสะท้อนจากการที่นายชวน หลีกภัย ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรสองสมัยในระหว่างปี พ.ศ.2539 — 2540 ในระหว่างปี พ.ศ. 2544—2548 ซึ่งนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยควรมีจิตใจยอมรับและแสดงบทบาททั้งการเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร และการเป็นฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างแข็งขัน
ด้วยประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ การประพฤติปฎิบัติครองตนที่เสมอต้นเสมอปลาย และแสดงให้เห็นอย่างประจักษ์ว่าเป็นผู้นำประเทศที่จิตใจเป็นนักประชาธิปไตย เคารพกฎกติกา มีความสุจริตเที่ยงธรรม มีจริยธรรม และได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นแบบอย่างที่ดี สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการประชุมครั้งที่ 4/2549 เมื่อวันที่ 2549 จึงมีมติให้ นายชวน หลีกภัยเป็นผู้เหมาะสมที่จะได้รับพระราชทานรัฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการเมืองการปกครอง ประจำปีการศึกษา 2548 จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นการเชิดชูคุณความดีและความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์สืบไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ส.ค. 2549--จบ--