นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ iTV เมื่อเวลา 21.00 น. เกี่ยวกับแถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ถึงการไม่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องที่ดีต่อวิกฤตการณ์ของประเทศที่มีติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร ซึ่งจะทำให้มีความสามารถคลี่คลายไปได้ระดับหนึ่ง และขอปรึกษาหารือกับทางพรรคร่วมฝ่ายค้านเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่จะมีท่าทีใด ๆ ต่อไป
นายองอาจให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า ขั้นตอนแรกต่อจากนี้ไปคงเป็นเรื่องของสภา และเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่ คงต้องไปดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยังคงมีจุดยืนที่เหมือนเดิม ที่อยากเห็นการปฏิรูปการเมือง ที่จะช่วยหาทางไม่ให้มีนักการเมืองคนหนึ่งคนใด มาประพฤติปฏิบัติตนเหมือนที่ผ่านมา จนกระทั่งเกิดปัญหาวิกฤติอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และในการปฏิรูปการเมืองนั้นจะต้องปฏิรูปคนที่จะเข้ามาสู่ทางการเมืองจะต้องพยายามทำให้มีความแจ่มชัดมากที่สุด เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้ไม่ให้กลับมาเกิดขึ้นอีก ถ้าเราไม่หาทางปฏิรูปสิ่งเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น เพราะว่าในเมื่อกลไกต่าง ๆ ยังคงเป็นไปอย่างเดิม ผู้คนยังคงมองเห็นช่องทางที่จะบิดเบือนเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ ที่จะหาช่องว่างเพื่อตนเอง ทุจริตเชิงนโยบายก็ดี ผลประโยชน์ทับซ้อนก็ดี การแทรกแซงองค์กรอิสระก็ดี การเข้าไปมีอิทธิพลเหนือสื่อสารมวลชนของรัฐ แทรกแซงวุฒิสภา สิ่งเหล่านี้จะต้องได้รับการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก เราจะต้องไปแก้ที่ต้นตอของปัญหา ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงจุดยืนมาตลอดว่าเราอยากเห็นการปฏิรูปการเมือง และเราคิดว่าถ้าสามารถปฏิรูปการเมืองได้ การเมืองไทยน่าจะเดินหน้าต่อไปได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 เม.ย. 2549--จบ--
นายองอาจให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า ขั้นตอนแรกต่อจากนี้ไปคงเป็นเรื่องของสภา และเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่ คงต้องไปดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยังคงมีจุดยืนที่เหมือนเดิม ที่อยากเห็นการปฏิรูปการเมือง ที่จะช่วยหาทางไม่ให้มีนักการเมืองคนหนึ่งคนใด มาประพฤติปฏิบัติตนเหมือนที่ผ่านมา จนกระทั่งเกิดปัญหาวิกฤติอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และในการปฏิรูปการเมืองนั้นจะต้องปฏิรูปคนที่จะเข้ามาสู่ทางการเมืองจะต้องพยายามทำให้มีความแจ่มชัดมากที่สุด เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้ไม่ให้กลับมาเกิดขึ้นอีก ถ้าเราไม่หาทางปฏิรูปสิ่งเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น เพราะว่าในเมื่อกลไกต่าง ๆ ยังคงเป็นไปอย่างเดิม ผู้คนยังคงมองเห็นช่องทางที่จะบิดเบือนเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ ที่จะหาช่องว่างเพื่อตนเอง ทุจริตเชิงนโยบายก็ดี ผลประโยชน์ทับซ้อนก็ดี การแทรกแซงองค์กรอิสระก็ดี การเข้าไปมีอิทธิพลเหนือสื่อสารมวลชนของรัฐ แทรกแซงวุฒิสภา สิ่งเหล่านี้จะต้องได้รับการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก เราจะต้องไปแก้ที่ต้นตอของปัญหา ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงจุดยืนมาตลอดว่าเราอยากเห็นการปฏิรูปการเมือง และเราคิดว่าถ้าสามารถปฏิรูปการเมืองได้ การเมืองไทยน่าจะเดินหน้าต่อไปได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 เม.ย. 2549--จบ--