กรุงเทพ--31 ม.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ กรุงไคโร อียิปต์ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2549 ถึงการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-อียิปต์ ครั้งที่ ๒ ที่จะ เริ่มขึ้นในวันที่ 29 ว่า ไทยและอียิปต์ต่างเป็นประตูสำคัญสู่ภูมิภาคของแต่ละฝ่าย ดังนั้นจึงอยากเห็นการร่วมมือระหว่างสองประเทศอย่างครบวงจร โดยในด้านเศรษฐกิจจะเน้นให้มีการเพิ่มมูลค่าการค้าจาก 300 กว่าล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา เป็น 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ. 2551 ทั้งนี้สินค้าส่งออกของไทยมายังอียิปต์ที่สำคัญได้แก่ อาหารกระป๋อง อะไหล่ยนต์ และผลิตภัณฑ์ยาง ขณะที่สินค้าสำคัญที่อียิปต์ส่งออกมายังไทยคือ น้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และฝ้าย ทั้งนี้จะผลักดันให้มีการจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-อียิปต์ขึ้นภายใน ปีนี้ด้วย
ในการประชุมครั้งนี้จะมีการลงนามว่าด้วยการยกเว้นภาษีซ้อน และจะเริ่มต้นเจรจาเพื่อให้มีการยกเว้นการตรวจลงตรา หรือยกเว้นวีซ่าระหว่างกันต่อไป โดยจะเริ่มจากหนังสือเดินทางทูตและราชการก่อนแล้วค่อยขยายไปสู่หนังสือเดินทางทั่วไป ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย
นอกจากนั้น ฝ่ายไทยสนใจที่จะร่วมมือกับอียิปต์ในเรื่องการแลกเปลี่ยนข่าวกรองด้านความมั่นคง โดยเฉพาะในเรื่องการต่อต้านการก่อการร้ายสากลและอาชญากรรมข้ามชาติ เนื่องจากอียิปต์ถือเป็นประเทศที่มีระบบข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดประเทศหนึ่ง และยังจะขยายความร่วมมือระหว่างข้าราชการพลเรือนจากกระทรวงต่างๆ โดยจะเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับเจ้าหน้าที่ระหว่างกันเป็นประจำด้วย
สำหรับการร่วมมือด้านการศึกษานั้น ดร.กันตธีร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีนักศึกษาไทยอยู่ในอียิปต์ประมาณ 1700 คน ซึ่งจะขอให้ทางการอียิปต์ให้ความร่วมมือในตรวจสอบจำนวนนักศึกษาไทยอีกครั้ง เพื่อทางการไทยจะได้สามารถดูแลสิทธิต่างๆ ของนักศึกษาไทยในอียิปต์อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากปัจจุบันไทยได้จัดให้มีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และต้องการส่งเสริมให้คนไทยในต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ขณะเดียวกันยังจะขอให้อำนวยความสะดวกและเปิดกว้างให้นักศึกษาไทยมุสลิมสามารถเข้ามาศึกษาวิชาสาขาต่างๆ ในอียิปต์เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสการประกอบอาชีพให้กับนักศึกษาไทยมุสลิมเมื่อกลับประเทศไทยแล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ไทยสนใจที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากอียิปต์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการท่องเที่ยวจากอารยธรรมและโบราณสถานที่มีอยู่ ซึ่งอียิปต์ประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้นจาก 1 ล้านคนเป็น 8 ล้านคนต่อปี ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี
ในโอกาสเดียวกัน นางโสภาวรรณ ศุภมงคล ภริยารัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเปิดเผยด้วยว่า จะพบกับภริยารัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาสินค้าโอทอปของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สามารถเข้ามาสร้างช่องทางการตลาดในอียิปต์และตะวันออกกลางได้ต่อไป โดยในการเดินทางเยือนครั้งนี้ได้นำตัวอย่างสินค้าโอทอปของไทยมาให้ชมด้วย
นางโสภาวรรณ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับภริยานักการทูตต่างประเทศในไทย ทราบว่าชาวต่างชาติมีความชื่นชมในศิลปะหัตถกรรมของชาวไทยพื้นบ้านและสินค้าโอทอปของไทยอย่างมาก แต่ติดปัญหาอยู่ที่การออกแบบและหีบห่อที่อาจยังไม่ตรงกับระดับหรือรสนิยมของต่างประเทศ อาทิ สินค้าหลายชนิดไม่มีคำอธิบายการใช้เป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาอาหรับ ซึ่งหากได้รับการปรับปรุงในส่วนนี้ ก็เชื่อว่าจะสามารถขยายตลาดได้มากขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ กรุงไคโร อียิปต์ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2549 ถึงการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-อียิปต์ ครั้งที่ ๒ ที่จะ เริ่มขึ้นในวันที่ 29 ว่า ไทยและอียิปต์ต่างเป็นประตูสำคัญสู่ภูมิภาคของแต่ละฝ่าย ดังนั้นจึงอยากเห็นการร่วมมือระหว่างสองประเทศอย่างครบวงจร โดยในด้านเศรษฐกิจจะเน้นให้มีการเพิ่มมูลค่าการค้าจาก 300 กว่าล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา เป็น 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ. 2551 ทั้งนี้สินค้าส่งออกของไทยมายังอียิปต์ที่สำคัญได้แก่ อาหารกระป๋อง อะไหล่ยนต์ และผลิตภัณฑ์ยาง ขณะที่สินค้าสำคัญที่อียิปต์ส่งออกมายังไทยคือ น้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และฝ้าย ทั้งนี้จะผลักดันให้มีการจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-อียิปต์ขึ้นภายใน ปีนี้ด้วย
ในการประชุมครั้งนี้จะมีการลงนามว่าด้วยการยกเว้นภาษีซ้อน และจะเริ่มต้นเจรจาเพื่อให้มีการยกเว้นการตรวจลงตรา หรือยกเว้นวีซ่าระหว่างกันต่อไป โดยจะเริ่มจากหนังสือเดินทางทูตและราชการก่อนแล้วค่อยขยายไปสู่หนังสือเดินทางทั่วไป ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย
นอกจากนั้น ฝ่ายไทยสนใจที่จะร่วมมือกับอียิปต์ในเรื่องการแลกเปลี่ยนข่าวกรองด้านความมั่นคง โดยเฉพาะในเรื่องการต่อต้านการก่อการร้ายสากลและอาชญากรรมข้ามชาติ เนื่องจากอียิปต์ถือเป็นประเทศที่มีระบบข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดประเทศหนึ่ง และยังจะขยายความร่วมมือระหว่างข้าราชการพลเรือนจากกระทรวงต่างๆ โดยจะเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับเจ้าหน้าที่ระหว่างกันเป็นประจำด้วย
สำหรับการร่วมมือด้านการศึกษานั้น ดร.กันตธีร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีนักศึกษาไทยอยู่ในอียิปต์ประมาณ 1700 คน ซึ่งจะขอให้ทางการอียิปต์ให้ความร่วมมือในตรวจสอบจำนวนนักศึกษาไทยอีกครั้ง เพื่อทางการไทยจะได้สามารถดูแลสิทธิต่างๆ ของนักศึกษาไทยในอียิปต์อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากปัจจุบันไทยได้จัดให้มีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และต้องการส่งเสริมให้คนไทยในต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ขณะเดียวกันยังจะขอให้อำนวยความสะดวกและเปิดกว้างให้นักศึกษาไทยมุสลิมสามารถเข้ามาศึกษาวิชาสาขาต่างๆ ในอียิปต์เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสการประกอบอาชีพให้กับนักศึกษาไทยมุสลิมเมื่อกลับประเทศไทยแล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ไทยสนใจที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากอียิปต์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการท่องเที่ยวจากอารยธรรมและโบราณสถานที่มีอยู่ ซึ่งอียิปต์ประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้นจาก 1 ล้านคนเป็น 8 ล้านคนต่อปี ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี
ในโอกาสเดียวกัน นางโสภาวรรณ ศุภมงคล ภริยารัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเปิดเผยด้วยว่า จะพบกับภริยารัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาสินค้าโอทอปของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สามารถเข้ามาสร้างช่องทางการตลาดในอียิปต์และตะวันออกกลางได้ต่อไป โดยในการเดินทางเยือนครั้งนี้ได้นำตัวอย่างสินค้าโอทอปของไทยมาให้ชมด้วย
นางโสภาวรรณ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับภริยานักการทูตต่างประเทศในไทย ทราบว่าชาวต่างชาติมีความชื่นชมในศิลปะหัตถกรรมของชาวไทยพื้นบ้านและสินค้าโอทอปของไทยอย่างมาก แต่ติดปัญหาอยู่ที่การออกแบบและหีบห่อที่อาจยังไม่ตรงกับระดับหรือรสนิยมของต่างประเทศ อาทิ สินค้าหลายชนิดไม่มีคำอธิบายการใช้เป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาอาหรับ ซึ่งหากได้รับการปรับปรุงในส่วนนี้ ก็เชื่อว่าจะสามารถขยายตลาดได้มากขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-