วันนี้(31 ส.ค. 49 )เวลา 14.00 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่เกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดธนาคารพานิชในจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายจุด ว่า เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าการ วางระเบิดธนาคารพานิชที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางแหล่งชุมชนนั้น แสดงให้เห็นว่าความรุนแรงนั้นไม่ได้ลดลง ตามที่ใครบางคนในรัฐบาลกล่าวอ้างแต่อย่างใด ปัญหาดั้งเดิมที่มี เกิดมากจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และแกนนำในรัฐบาลมีวิธีการจัดการปัญหาที่ผิดพลาดมาโดยตลอด และทุกวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังทำตัวเองลอยอยู่เหนือปัญหาเหล่านั้น และยังพยายามที่จะโยนภาระไปให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกรินทร์ ผู้บัญชาการทหารบก แก้ไขปัญหา ซึ่งแท้จริงแล้ว รัฐบาลจะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น
นายองอาจ กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง แต่ทางตรงข้ามอยากให้ คิดถึงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งพรรคอยากเรียกร้องให้ รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบและหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
นอกจากนี้ นายองอาจ ยังกล่าว คำพูดที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่ากรกระทรวงพานิช ออกมากล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจแต่อย่างไร ว่า ตรงนี้พรรคประชาธิปัตย์คิดว่า หากนายสมคิดจะสถาปนาตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมองให้เห็นเนื้อหาแก่นแท้ของปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่ควรมองเศรษฐกิจแยกส่วนออกไปจากสังคมไทย พรรคประชาธิปัตย์มองว่าเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นย่อมจะมีส่วนกระทบต่อเศรษฐกิจแน่ และอยากเรียกร้องให้ นายสมคิดมองปัญหาดังกล่าวให้กระจ่าง มากกว่าจะพยายามออกมารักษาภาพพจน์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาล หรือแม้แต่ตัวของนายสมคิดเองเท่านั้น
“หรือว่าจะต้องรอให้ระเบิด ไประเบิดที่บ้านคนในรัฐบาลชุดนี้ หรือบ้านตัวเองถึงจะกระทบเศรษฐกิจใช่หรือไม่”นายองอาจ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค. 2549--จบ--
นายองอาจ กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง แต่ทางตรงข้ามอยากให้ คิดถึงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งพรรคอยากเรียกร้องให้ รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบและหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
นอกจากนี้ นายองอาจ ยังกล่าว คำพูดที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่ากรกระทรวงพานิช ออกมากล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจแต่อย่างไร ว่า ตรงนี้พรรคประชาธิปัตย์คิดว่า หากนายสมคิดจะสถาปนาตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมองให้เห็นเนื้อหาแก่นแท้ของปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่ควรมองเศรษฐกิจแยกส่วนออกไปจากสังคมไทย พรรคประชาธิปัตย์มองว่าเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นย่อมจะมีส่วนกระทบต่อเศรษฐกิจแน่ และอยากเรียกร้องให้ นายสมคิดมองปัญหาดังกล่าวให้กระจ่าง มากกว่าจะพยายามออกมารักษาภาพพจน์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาล หรือแม้แต่ตัวของนายสมคิดเองเท่านั้น
“หรือว่าจะต้องรอให้ระเบิด ไประเบิดที่บ้านคนในรัฐบาลชุดนี้ หรือบ้านตัวเองถึงจะกระทบเศรษฐกิจใช่หรือไม่”นายองอาจ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค. 2549--จบ--