แท็ก
เอเชีย
คาซัคสถานเป็นประเทศเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียกลาง ที่แยกตัวเป็นอิสระและมีเอกราชในการปกครองตนเองภายหลังการล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียตเมื่อปลายปี 2534 เดิมคาซัคสถานยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่เนื่องจากรัฐบาลคาซัคสถานพยายามปฏิรูประบบเศรษฐกิจให้เสรีนับตั้งแต่ได้รับอิสระ รวมถึงการเร่งแปรรูปรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่องตลอดจนให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนเพื่อจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในคาซัคสถาน ส่งผลให้ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติเริ่มรู้จักและเข้าไปลงทุนในคาซัคสถานเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
ในปี 2547 คาซัคสถานมีเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศไหลเข้า (Foreign Direct Investment Inflow : FDI Inflow) รวม 8,423.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าจากปี 2537 โดยลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานสูงถึง 63.5% ของ FDI Inflow ทั้งหมด นอกนั้นเป็นการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรมเหมืองแร่ นักลงทุนส่วนใหญ่มาจากสหรัฐฯ รองลงมา คือ เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร จีน และอิตาลี ตามลำดับปัจจัยที่เกื้อหนุนให้คาซัคสถานเป็นศูนย์กลางการลงทุน
1. แหล่งพลังงานและแร่ธาตุ คาซัคสถานอุดมไปด้วยทรัพยากรด้านพลังงานและแร่ธาตุต่าง ๆ มากที่สุดในเอเชียกลาง และมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ปัจจุบันมีการค้นพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในคาซัคสถาน ทั้งบนบกและในทะเลมากกว่า 200 แหล่ง โดยคาดว่ามีน้ำมันดิบสำรองราว 9-17 พันล้านบาร์เรล (มากเป็นอันดับ 12 ของโลก) และมีก๊าซธรรมชาติสำรองราว 67-70 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต (อันดับ 13 ของโลก) นอกจากนี้ คาซัคสถานยังมีแหล่งแร่ธาตุหลากหลายกว่า 1,225 ชนิด แร่ธาตุหลายชนิดมีมากติดอันดับต้น ๆ ของโลก อาทิ ยูเรเนียม โครเมียม ตะกั่ว และสังกะสี(มีแร่ธาตุทั้ง 4 ชนิดนี้มากเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีคุณภาพสูงมาก) แมงกานีส (อันดับ 3 ของโลก) ทองแดง (อันดับ 5ของโลก) เหล็กและทองคำ (ติด 1 ใน 10 ของโลก) ฯลฯ
2. นโยบายเปิดเสรีด้านการค้าและการลงทุน คาซัคสถานได้ยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก(World Trade Organization : WTO) ตั้งแต่ปี 2539 (ปัจจุบันคาซัคสถานยังมีสถานะเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของ WTO)หลังจากนั้นรัฐบาลคาซัคสถานได้เร่งปรับปรุงกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุนให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ WTO เช่น ยกเลิกการเก็บภาษีสินค้าส่งออกทุกประเภท ยกเว้น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก ตลอดจนมีการจัดตั้ง Kazakhstan Investment Promotion Center เพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการลงทุน ทั้งนี้ รัฐบาลมีการให้ สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนแก่นักลงทุนต่างชาติหลายประการ อาทิ
- ยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในอุตสาหกรรมทุกประเภท ในช่วง 3 ปีแรกของการดำเนินกิจการ
- ยกเว้นการเก็บภาษีที่ดินและภาษีอสังหาริมทรัพย์แก่โครงการลงทุน
- ให้เงินอุดหนุนเป็นพิเศษแก่โครงการลงทุนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งยังไม่ได้รับการพัฒนา สูงถึง 20% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการลงทุนนั้น ๆ
3. ความพร้อมของระบบคมนาคมขนส่ง
* ท่าอากาศยาน ปัจจุบันคาซัคสถานมีท่าอากาศยานทั่วประเทศรวม 22 แห่ง เป็นท่าอากาศยานนานาชาติ11 แห่ง อาทิ ท่าอากาศยานนานาชาติ Astana (ที่เมือง Astana ซึ่งเป็นเมืองหลวง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของคาซัคสถาน)และท่าอากาศยานนานาชาติ Almaty (ที่เมือง Almaty ทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาซัคสถาน) ทั้งนี้ สามารถแบ่งเส้นทางการบินเป็น 2 เส้นทางหลัก คือ ตอนเหนือ ผ่านรัสเซีย มองโกเลีย และจีน ตอนใต้ ผ่านทะเลดำ อิหร่าน และเติร์กเมนิสถาน ส่วนท่าอากาศยานอีก 11 แห่ง เป็นท่าอากาศยานท้องถิ่นและท่าอากาศยานระหว่างภูมิภาค โดยรัฐบาลคาซัคสถานยังมีโครงการจะก่อสร้างและพัฒนาท่าอากาศยานอีกหลายแห่ง เพื่อรองรับสินค้าและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นและเพื่อเชื่อมโยงเส้นทางบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศให้เกิด
ความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
* ทางรถไฟ การขนส่งทางรถไฟในคาซัคสถานจัดว่ามีความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากกว่า 80% ของการขนส่งสินค้าทั้งหมดในคาซัคสถาน เป็นการขนส่งทางรถไฟ โดยปัจจุบันทางรถไฟในคาซัคสถานมีความยาวรวมกันกว่า13,601 กิโลเมตร ทั้งนี้ เส้นทางรถไฟในคาซัคสถานสามารถเชื่อมต่อกับทางรถไฟของหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเติร์กเมนิสถาน อิหร่าน ตุรกี และเชื่อมต่อกับหลายประเทศในทวีปยุโรปได้อีกด้วย จึงเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่จะใช้คาซัคสถานเป็นศูนย์กลางผลิตสินค้าเพื่อกระจายและส่งออกต่อไปยังประเทศเหล่านี้
* ทางถนน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลคาซัคสถานได้เร่งพัฒนาและปรับปรุงถนนภายในประเทศหลายสาย โดยได้รับเงินกู้และเงินช่วยเหลือจำนวนมากจากองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ ธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ฯลฯ นอกจากนี้ คาซัคสถานยังได้เข้าร่วมโครงการ TRASEC โดยได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่ม EU เพื่อสร้างถนนเชื่อมระหว่างยุโรป ประเทศในแถบคอเคซัส (อยู่ระหว่างทะเลสาบแคสเปียนและทะเลดำ อาทิ อาเซอร์ไบจานอาร์เมเนีย และจอร์เจีย) เอเชียกลาง เชื่อมต่อไปยังจีน และมองโกเลีย ซึ่งจะช่วยให้การขนส่งสินค้าและการเดินทางระหว่างภูมิภาคเอเชียและยุโรปสะดวกยิ่งขึ้น และจะส่งผลให้มูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันขยายตัวเพิ่มขึ้นในที่สุด
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กันยายน 2548--
-พห-
ในปี 2547 คาซัคสถานมีเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศไหลเข้า (Foreign Direct Investment Inflow : FDI Inflow) รวม 8,423.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าจากปี 2537 โดยลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานสูงถึง 63.5% ของ FDI Inflow ทั้งหมด นอกนั้นเป็นการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรมเหมืองแร่ นักลงทุนส่วนใหญ่มาจากสหรัฐฯ รองลงมา คือ เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร จีน และอิตาลี ตามลำดับปัจจัยที่เกื้อหนุนให้คาซัคสถานเป็นศูนย์กลางการลงทุน
1. แหล่งพลังงานและแร่ธาตุ คาซัคสถานอุดมไปด้วยทรัพยากรด้านพลังงานและแร่ธาตุต่าง ๆ มากที่สุดในเอเชียกลาง และมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ปัจจุบันมีการค้นพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในคาซัคสถาน ทั้งบนบกและในทะเลมากกว่า 200 แหล่ง โดยคาดว่ามีน้ำมันดิบสำรองราว 9-17 พันล้านบาร์เรล (มากเป็นอันดับ 12 ของโลก) และมีก๊าซธรรมชาติสำรองราว 67-70 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต (อันดับ 13 ของโลก) นอกจากนี้ คาซัคสถานยังมีแหล่งแร่ธาตุหลากหลายกว่า 1,225 ชนิด แร่ธาตุหลายชนิดมีมากติดอันดับต้น ๆ ของโลก อาทิ ยูเรเนียม โครเมียม ตะกั่ว และสังกะสี(มีแร่ธาตุทั้ง 4 ชนิดนี้มากเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีคุณภาพสูงมาก) แมงกานีส (อันดับ 3 ของโลก) ทองแดง (อันดับ 5ของโลก) เหล็กและทองคำ (ติด 1 ใน 10 ของโลก) ฯลฯ
2. นโยบายเปิดเสรีด้านการค้าและการลงทุน คาซัคสถานได้ยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก(World Trade Organization : WTO) ตั้งแต่ปี 2539 (ปัจจุบันคาซัคสถานยังมีสถานะเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของ WTO)หลังจากนั้นรัฐบาลคาซัคสถานได้เร่งปรับปรุงกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุนให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ WTO เช่น ยกเลิกการเก็บภาษีสินค้าส่งออกทุกประเภท ยกเว้น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก ตลอดจนมีการจัดตั้ง Kazakhstan Investment Promotion Center เพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการลงทุน ทั้งนี้ รัฐบาลมีการให้ สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนแก่นักลงทุนต่างชาติหลายประการ อาทิ
- ยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในอุตสาหกรรมทุกประเภท ในช่วง 3 ปีแรกของการดำเนินกิจการ
- ยกเว้นการเก็บภาษีที่ดินและภาษีอสังหาริมทรัพย์แก่โครงการลงทุน
- ให้เงินอุดหนุนเป็นพิเศษแก่โครงการลงทุนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งยังไม่ได้รับการพัฒนา สูงถึง 20% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการลงทุนนั้น ๆ
3. ความพร้อมของระบบคมนาคมขนส่ง
* ท่าอากาศยาน ปัจจุบันคาซัคสถานมีท่าอากาศยานทั่วประเทศรวม 22 แห่ง เป็นท่าอากาศยานนานาชาติ11 แห่ง อาทิ ท่าอากาศยานนานาชาติ Astana (ที่เมือง Astana ซึ่งเป็นเมืองหลวง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของคาซัคสถาน)และท่าอากาศยานนานาชาติ Almaty (ที่เมือง Almaty ทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาซัคสถาน) ทั้งนี้ สามารถแบ่งเส้นทางการบินเป็น 2 เส้นทางหลัก คือ ตอนเหนือ ผ่านรัสเซีย มองโกเลีย และจีน ตอนใต้ ผ่านทะเลดำ อิหร่าน และเติร์กเมนิสถาน ส่วนท่าอากาศยานอีก 11 แห่ง เป็นท่าอากาศยานท้องถิ่นและท่าอากาศยานระหว่างภูมิภาค โดยรัฐบาลคาซัคสถานยังมีโครงการจะก่อสร้างและพัฒนาท่าอากาศยานอีกหลายแห่ง เพื่อรองรับสินค้าและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นและเพื่อเชื่อมโยงเส้นทางบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศให้เกิด
ความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
* ทางรถไฟ การขนส่งทางรถไฟในคาซัคสถานจัดว่ามีความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากกว่า 80% ของการขนส่งสินค้าทั้งหมดในคาซัคสถาน เป็นการขนส่งทางรถไฟ โดยปัจจุบันทางรถไฟในคาซัคสถานมีความยาวรวมกันกว่า13,601 กิโลเมตร ทั้งนี้ เส้นทางรถไฟในคาซัคสถานสามารถเชื่อมต่อกับทางรถไฟของหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเติร์กเมนิสถาน อิหร่าน ตุรกี และเชื่อมต่อกับหลายประเทศในทวีปยุโรปได้อีกด้วย จึงเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่จะใช้คาซัคสถานเป็นศูนย์กลางผลิตสินค้าเพื่อกระจายและส่งออกต่อไปยังประเทศเหล่านี้
* ทางถนน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลคาซัคสถานได้เร่งพัฒนาและปรับปรุงถนนภายในประเทศหลายสาย โดยได้รับเงินกู้และเงินช่วยเหลือจำนวนมากจากองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ ธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ฯลฯ นอกจากนี้ คาซัคสถานยังได้เข้าร่วมโครงการ TRASEC โดยได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่ม EU เพื่อสร้างถนนเชื่อมระหว่างยุโรป ประเทศในแถบคอเคซัส (อยู่ระหว่างทะเลสาบแคสเปียนและทะเลดำ อาทิ อาเซอร์ไบจานอาร์เมเนีย และจอร์เจีย) เอเชียกลาง เชื่อมต่อไปยังจีน และมองโกเลีย ซึ่งจะช่วยให้การขนส่งสินค้าและการเดินทางระหว่างภูมิภาคเอเชียและยุโรปสะดวกยิ่งขึ้น และจะส่งผลให้มูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันขยายตัวเพิ่มขึ้นในที่สุด
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กันยายน 2548--
-พห-