‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ จี้ รัฐหาข้อยุติทุจริตซื้อเครื่องซีทีเอกซ์โดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิแนะยอมรับข้อเสนอตั้ง ‘คณะกรรมการที่เป็นกลาง’ ย้ำกระบวนการสอบและการเปิดผลการสอบต้องโปร่งใส พร้อมยืนยันเดินหน้าหาข้อเท็จจริงต่อไป
วันนี้(10 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการทุจริตในการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลกำลังเบี่ยงเบนประเด็นว่า คิดว่าการให้ข่าวขณะนี้มีความสับสนพอสมควร โดยเฉพาะการดำเนินงานของรัฐบาลที่มีการพูดถึงการจัดหาอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ในขั้นตอนไหนหรือไม่ ที่สำคัญที่สุดที่รัฐบาลจะต้องทำคือ หาข้อยุติโดยเร็วเพื่อไม่ให้กระทบต่อการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ และการเปิดใช้ต้องได้มาตรฐานเป็นที่มั่นใจของคนทั่วโลก
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า สังคมต้องการคำตอบว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีการทุจริตหรือไม่ หากได้ข้อเท็จจริงมายืนยันในทางใดทางหนึ่งเราจึงจะสามารถแก้ไขชื่อเสียงของประเทศได้ ไม่ใช่แค่การใช้กระบวนการภายใน เช่น การออกมาบอกว่าให้ที่ปรึกษารัฐมนตรีหรือคนสนิทนายกรัฐมนตรีไปเคลียร์แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำทันที คือ ต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด ที่คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นได้รวบรวมข้อเท็จจริง เราจึงจะสามารถตรวจสอบได้ว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ข้อยุติเรื่องของตัวเลขที่มีความสับสนเกี่ยวกับมูลค่าโครงการนี้อย่างไร นับตั้งแต่จ้างไอทีโอในราคาเท่าไหร่ ไอทีโอทำสัญญากับแพทริออตเท่าไหร่ แพทริออตซื้อจากจีอี อินวิชั่น เท่าไหร่ ซึ่งมีความแตกต่างกันในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง
‘ที่มีการเปิดเผยว่ามีการจ่ายเงินจาก บทม.ไปให้แพทริออต การให้สัมภาษณ์ของคุณวรพจน์ น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นชัดเจนมากขึ้นว่า จริงๆ แล้วตัวเลขของการจ้างเหมาะสมหรือไม่อย่างไร และใครที่จะต้องรับผิดชอบ ผมคิดว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้น เวลาขีดเส้นของคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งไว้ใกล้จะหมดแล้ว เราจะดูว่าได้ดำเนินการอย่างพอเพียงต่อข้อสงสัย และเป้าหมายหรือไม่ ถ้าไม่มีคำตอบในเรื่องตัวเลขเหล่านี้ ไม่มีการแสวงหาความจริงจากทางสหรัฐฯ หรือทางบริษัทเลย แล้วมาเปิดเผยต่อประชาชน ผมถือว่าไม่เพียงพอ’ นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่า รัฐบาลน่าจะยอมรับข้อเสนอในการตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลาง จะเป็นคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา นายต่อตระกูล ยมนาค หรือใครก็ตาม ในการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตรงนี้ออกมาให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจในคณะกรรมการตรวจสอบการจัดหาวัสดุอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีนายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา เป็นประธานหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะไปตัดสินล่วงหน้าไม่ได้ แต่นายบุญศักดิ์ต้องรายงานให้ประชาชนทราบโดยเร็วว่าทำอะไร และได้ข้อเท็จจริงอะไรมาบ้าง หากไม่มีข้อเท็จจริงที่ขอจากสหรัฐอเมริกา ไม่มีคำตอบในความแตกต่างของตัวเลขในขั้นตอนต่างๆ เรื่องนี้ถือว่ายังไม่ได้คำตอบ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะใช้อำนาจหน้าที่ความเป็นฝ่ายบริหารในการหาข้อเท็จจริง เพระคำถามเหล่านี้ยังอยู่ในใจประชาชนและทุกฝ่าย ซึ่งจะตอบคำถามได้ กระบวนการสอบและการเปิดเผยผลการสอบต้องโปร่งใส หากรัฐบาลไม่ทำตรงนี้เราก็คงจะปล่อยเรื่องจบไม่ได้ ซึ่งฝ่ายค้านจะเดินหน้าหาข้อเท็จจริงต่อไป
ส่วนจะมีการสาวไปถึงตัวผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราไม่มีเป้าหมายที่จะไปสาวถึงใคร แต่ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ รวมทั้งคำให้สัมภาษณ์ของผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งดูเหมือนจะยอมรับว่ามีความไม่ชอบมาพากลนั้น จะต้องหาข้อเท็จจริงว่าใครที่จะต้องรับผิดชอบ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องสาวไปถึงตัวนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี มันอยู่ที่ข้อเท็จจริง หากเราไม่สะสางก็จะสร้างความมั่นใจและแก้ภาพลักษณ์รวมทั้งชื่อเสียงอย่างที่นายกรัฐมนตรีพูดไม่ได้
สำหรับการเลือกผู้ว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินคนใหม่นั้นมองอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันของข้อกฎหมาย เพราะการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการจำกัดเฉพาะกระบวนการสรรหา ทำให้มีการโต้แย้งกันว่าคำตอบควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งกำลังรอฟังผลการพิจารณาของวุฒิสภาอยู่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 พ.ค. 2548--จบ--
-ดท-
วันนี้(10 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการทุจริตในการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลกำลังเบี่ยงเบนประเด็นว่า คิดว่าการให้ข่าวขณะนี้มีความสับสนพอสมควร โดยเฉพาะการดำเนินงานของรัฐบาลที่มีการพูดถึงการจัดหาอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ในขั้นตอนไหนหรือไม่ ที่สำคัญที่สุดที่รัฐบาลจะต้องทำคือ หาข้อยุติโดยเร็วเพื่อไม่ให้กระทบต่อการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ และการเปิดใช้ต้องได้มาตรฐานเป็นที่มั่นใจของคนทั่วโลก
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า สังคมต้องการคำตอบว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีการทุจริตหรือไม่ หากได้ข้อเท็จจริงมายืนยันในทางใดทางหนึ่งเราจึงจะสามารถแก้ไขชื่อเสียงของประเทศได้ ไม่ใช่แค่การใช้กระบวนการภายใน เช่น การออกมาบอกว่าให้ที่ปรึกษารัฐมนตรีหรือคนสนิทนายกรัฐมนตรีไปเคลียร์แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำทันที คือ ต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด ที่คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นได้รวบรวมข้อเท็จจริง เราจึงจะสามารถตรวจสอบได้ว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ข้อยุติเรื่องของตัวเลขที่มีความสับสนเกี่ยวกับมูลค่าโครงการนี้อย่างไร นับตั้งแต่จ้างไอทีโอในราคาเท่าไหร่ ไอทีโอทำสัญญากับแพทริออตเท่าไหร่ แพทริออตซื้อจากจีอี อินวิชั่น เท่าไหร่ ซึ่งมีความแตกต่างกันในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง
‘ที่มีการเปิดเผยว่ามีการจ่ายเงินจาก บทม.ไปให้แพทริออต การให้สัมภาษณ์ของคุณวรพจน์ น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นชัดเจนมากขึ้นว่า จริงๆ แล้วตัวเลขของการจ้างเหมาะสมหรือไม่อย่างไร และใครที่จะต้องรับผิดชอบ ผมคิดว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้น เวลาขีดเส้นของคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งไว้ใกล้จะหมดแล้ว เราจะดูว่าได้ดำเนินการอย่างพอเพียงต่อข้อสงสัย และเป้าหมายหรือไม่ ถ้าไม่มีคำตอบในเรื่องตัวเลขเหล่านี้ ไม่มีการแสวงหาความจริงจากทางสหรัฐฯ หรือทางบริษัทเลย แล้วมาเปิดเผยต่อประชาชน ผมถือว่าไม่เพียงพอ’ นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่า รัฐบาลน่าจะยอมรับข้อเสนอในการตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลาง จะเป็นคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา นายต่อตระกูล ยมนาค หรือใครก็ตาม ในการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตรงนี้ออกมาให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจในคณะกรรมการตรวจสอบการจัดหาวัสดุอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีนายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา เป็นประธานหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะไปตัดสินล่วงหน้าไม่ได้ แต่นายบุญศักดิ์ต้องรายงานให้ประชาชนทราบโดยเร็วว่าทำอะไร และได้ข้อเท็จจริงอะไรมาบ้าง หากไม่มีข้อเท็จจริงที่ขอจากสหรัฐอเมริกา ไม่มีคำตอบในความแตกต่างของตัวเลขในขั้นตอนต่างๆ เรื่องนี้ถือว่ายังไม่ได้คำตอบ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะใช้อำนาจหน้าที่ความเป็นฝ่ายบริหารในการหาข้อเท็จจริง เพระคำถามเหล่านี้ยังอยู่ในใจประชาชนและทุกฝ่าย ซึ่งจะตอบคำถามได้ กระบวนการสอบและการเปิดเผยผลการสอบต้องโปร่งใส หากรัฐบาลไม่ทำตรงนี้เราก็คงจะปล่อยเรื่องจบไม่ได้ ซึ่งฝ่ายค้านจะเดินหน้าหาข้อเท็จจริงต่อไป
ส่วนจะมีการสาวไปถึงตัวผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราไม่มีเป้าหมายที่จะไปสาวถึงใคร แต่ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ รวมทั้งคำให้สัมภาษณ์ของผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งดูเหมือนจะยอมรับว่ามีความไม่ชอบมาพากลนั้น จะต้องหาข้อเท็จจริงว่าใครที่จะต้องรับผิดชอบ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องสาวไปถึงตัวนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี มันอยู่ที่ข้อเท็จจริง หากเราไม่สะสางก็จะสร้างความมั่นใจและแก้ภาพลักษณ์รวมทั้งชื่อเสียงอย่างที่นายกรัฐมนตรีพูดไม่ได้
สำหรับการเลือกผู้ว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินคนใหม่นั้นมองอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันของข้อกฎหมาย เพราะการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการจำกัดเฉพาะกระบวนการสรรหา ทำให้มีการโต้แย้งกันว่าคำตอบควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งกำลังรอฟังผลการพิจารณาของวุฒิสภาอยู่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 พ.ค. 2548--จบ--
-ดท-