วันนี้ (4ส.ค. 49) เวลา 09.30 น. นายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค น.พ.บูรณัช สมุทรรักษณ์ นายยุพ นานา นายนราพัฒน์ แก้วทอง อดีตส.ส.พรรค ลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่ และร่วมเสวนาโต๊ะกลม เรื่อง "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รูปธรรมในการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน" ที่บริเวณเขตหนองจอก โดยได้ย้ำถึงแนวทางของพรรคในการที่จะส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพรรคมีนโยบายที่จะจัดตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสนับสนุนชุมชนต่างๆ โดยจะมีการสนับสนุนเงินให้เปล่าสำหรับโครงการพื้นฐานในชุมชน และจะมีการจัดตั้งกองทุนกู้ยืม ภายใต้เงื่อนไขร่วมกัน รวมถึงจะสร้างค่านิยมในการออมให้กับประชาชนด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีแนวคิดตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง ขณะนี้กำลังคำนวณรายละเอียดว่า จะตั้งต้นที่ตัวเลขเท่าไร แต่ลักษณะของกองทุนจะต้องลงไปในชุมชน จะให้เปล่าเฉพาะสิ่งที่เป็นโครงการเศรษฐกิจพอเพียง หรือหากจะกู้ยืมก็ต้องเป็นวิสาหกิจชุมชน ที่มีความสอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง จะไม่เน้นเรื่องการมีเงินจำนวนมากลงไปในพื้นที่เร็ว ๆ หรือออกไปจากกองทุนเร็ว ๆ เพราะนั่นคือความผิดพลาดในอดีตเงินส่วนหนึ่งจะมาจากรากหญ้า และจะมาเชื่อมโยงกำกับทุนอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้ว ถ้าทำได้ ทุกกองทุน หรือเงินทุนที่มีอยู่ หรือหมุนเวียนในชุมชน ก็จะดึงมาเพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียงมากที่สุด จะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรม จะไปลดสภาพปัญหาที่เป็นมา โดยการนำพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาแก้ไข นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ผลักดันเฉพาะช่วงเลือกตั้ง แต่เป็นสิ่งที่เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้ว ประชาชนจะต้องมาทำร่วมกับรัฐบาลขณะนี้มีกฎหมายอยู่ในใจ 2 ฉบับ ที่เห็นว่าควรจะออกมาเพื่อดูแลประชาชน เพราะเป็นแนวคิดสำคัญของเศรษฐกิจ ฉบับแรกคือ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ที่จะต้องมีองค์กรอิสระมาดูแล และอีกฉบับมีอยู่แล้ว แต่รัฐบาลไม่ค่อยนำมาใช้ คือ กฎหมายแข่งขันทางการค้า
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 ส.ค. 2549--จบ--
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีแนวคิดตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง ขณะนี้กำลังคำนวณรายละเอียดว่า จะตั้งต้นที่ตัวเลขเท่าไร แต่ลักษณะของกองทุนจะต้องลงไปในชุมชน จะให้เปล่าเฉพาะสิ่งที่เป็นโครงการเศรษฐกิจพอเพียง หรือหากจะกู้ยืมก็ต้องเป็นวิสาหกิจชุมชน ที่มีความสอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง จะไม่เน้นเรื่องการมีเงินจำนวนมากลงไปในพื้นที่เร็ว ๆ หรือออกไปจากกองทุนเร็ว ๆ เพราะนั่นคือความผิดพลาดในอดีตเงินส่วนหนึ่งจะมาจากรากหญ้า และจะมาเชื่อมโยงกำกับทุนอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้ว ถ้าทำได้ ทุกกองทุน หรือเงินทุนที่มีอยู่ หรือหมุนเวียนในชุมชน ก็จะดึงมาเพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียงมากที่สุด จะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรม จะไปลดสภาพปัญหาที่เป็นมา โดยการนำพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาแก้ไข นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ผลักดันเฉพาะช่วงเลือกตั้ง แต่เป็นสิ่งที่เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้ว ประชาชนจะต้องมาทำร่วมกับรัฐบาลขณะนี้มีกฎหมายอยู่ในใจ 2 ฉบับ ที่เห็นว่าควรจะออกมาเพื่อดูแลประชาชน เพราะเป็นแนวคิดสำคัญของเศรษฐกิจ ฉบับแรกคือ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ที่จะต้องมีองค์กรอิสระมาดูแล และอีกฉบับมีอยู่แล้ว แต่รัฐบาลไม่ค่อยนำมาใช้ คือ กฎหมายแข่งขันทางการค้า
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 ส.ค. 2549--จบ--