รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในพัฒนาการของอาเซียน และสนับสนุนการจัดทำกฎบัตรอาเซียนเพื่อเสริมสถานะอาเซียน และเป็นพื้นฐานของประชาคมอาเซียนในอนาคต
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2549 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนภายหลังเข้าร่วมการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับคณะผู้ทรงคุณวุฒิในเรื่องกฎบัตรอาเซียน โดยประเด็นหารือสำคัญ คือเรื่องความคืบหน้าเกี่ยวกับการหารือของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ในเรื่องแนวทางการจัดทำกฎบัตรอาเซียน ซึ่งได้ประชุมร่วมกันเป็นครั้งที่ 3 และเป็นโอกาสที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและคณะผู้ทรงคุณวุฒิจะได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในเบื้องต้นด้วย โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่า กฎบัตรอาเซียนจะต้องมีเนื้อหาสาระที่ส่งเสริมสถานะของอาเซียน เพื่อรับมือกับปัญหาท้าทายใหม่ ๆ และเป็นการนำอาเซียนไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนอย่างแท้จริง รวมทั้งมีความยืดหยุ่นและเปิดกว้างให้มีการแก้ไขในอนาคตได้
สำหรับประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่ง คือเรื่องการให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทในพัฒนาการของอาเซียนมากขึ้น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศเห็นว่าปัจจุบันการมีส่วนร่วมของประชาชนในอาเซียนยังมีน้อย จึงควรส่งเสริมและผลักดันให้เกิดขึ้น ซึ่งคณะผู้ทรงคุณวุฒิฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว และจะศึกษาดูว่า กฎบัตรอาเซียนจะเป็นกลไกขับเคลื่อนเพื่อผลักดันให้เรื่องนี้มีความก้าวหน้าได้เพียงใด นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและคณะผู้ทรงคุณวุฒิฯ ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเรื่องอนาคตของอาเซียน การบริหารจัดการด้านการเงิน ซึ่งรวมถึงเรื่องการแบ่งภาระทางการเงินเพื่อให้องค์กรอาเซียนดำเนินต่อไปได้อย่างมีความก้าวหน้า
อนึ่ง คณะผู้ทรงคุณวุฒิฯ จะนำเสนอข้อเสนอเรื่องกฎบัตรอาเซียนเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และจะแต่งตั้งคณะทำงานระดับสูงของอาเซียนที่จะจัดทำกฎบัตรเพื่อเสนอต่อผู้นำอาเซียนในการประชุมสุดยอดปี 2549
ในวันเดียวกันนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศได้พบและหารือทวิภาคีกับดาโต๊ะ ซรี ไซด์ ฮามิด บิน ไซด์ จาฟาร์ อัลบาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีที่สำคัญ ได้แก่ กรณีคนไทย 130 คน ซึ่ง ดร. กันตธีร์ฯ ได้แสดงความพอใจที่ฝ่ายมาเลเซียช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่หน่วยราชการไทยได้เข้าไปพบและพูดคุยกับคนไทยจำนวน 99 คน โดยทั้งสองฝ่ายได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในทุกระดับเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งฝ่ายไทยได้ย้ำว่า พร้อมดูแลและให้ความปลอดภัยแก่คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือเพื่อต่อสู้และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในภูมิภาค ยุทธศาสตร์การพัฒนารร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย (Joint Development Strategy for border areas : JDS) ซึ่งจะมีการประชุมระดับคณะทำงานและระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ในวันที่ 4-5 พฤษภาคม 2549 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และเรื่องการสนับสนุนการลงสมัครตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้สมัครของอาเซียน ซึ่ง ดร. กันตธีร์ฯ ได้เน้นในความสำคัญของการแสวงหาแนวทางยุทธศาสตร์การหาเสียงสนับสนุนของอาเซียนร่วมกันต่อไป
หลังจากนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศได้พบและหารือข้อราชการกับนายญาณ วิน รัฐมนตรีต่างประเทศพม่า โดย ดร. กันตธีร์ฯ ได้แสดงความห่วงใยในเรื่องกระบวนการปรองดองแห่งชาติของพม่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ไทยและอาเซียนให้ความสำคัญ และต้องการที่จะเห็นความก้าวหน้าเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และย้ำว่าไทย พร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมกระบวนการปรองดองแห่งชาติของพม่าโดยเร็ว นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก โดยไทยพร้อมที่จะจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีในเรื่องสถานการณ์ไข้หวัดนก ซึ่งอาจจะอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือ ACMECS ซึ่งอาจจัดในช่วงเดือนพฤษภาคม ศกนี้ และฝ่ายพม่าเห็นชอบในหลักการ ทั้งนี้ ไทยได้ขอให้ฝ่ายพม่าอธิบายถึงสถานการณ์ของโรคไข้หวัดในพม่าให้แก่ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการด้วย
ต่อข้อซักถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพม่า รัฐมนตรีต่างประเทศได้กล่าวว่า จะต้องรอรับฟังข้อสรุปเกี่ยวกับผลการเยือนพม่าของดาโต๊ะ ซรี ไซด์ ฮามิด บิน ไซด์ จาฟาร์ อัลบาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน
ในตอนค่ำของวันที่ 19 เมษายน 2549 ดร. ฮัสซัน วิรายูดา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ (Working Dinner) ซึ่งจะเป็นโอกาสที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะเริ่มหารือประเด็นต่าง ๆ ที่อยู่ในความสนใจ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2549 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนภายหลังเข้าร่วมการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับคณะผู้ทรงคุณวุฒิในเรื่องกฎบัตรอาเซียน โดยประเด็นหารือสำคัญ คือเรื่องความคืบหน้าเกี่ยวกับการหารือของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ในเรื่องแนวทางการจัดทำกฎบัตรอาเซียน ซึ่งได้ประชุมร่วมกันเป็นครั้งที่ 3 และเป็นโอกาสที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและคณะผู้ทรงคุณวุฒิจะได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในเบื้องต้นด้วย โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่า กฎบัตรอาเซียนจะต้องมีเนื้อหาสาระที่ส่งเสริมสถานะของอาเซียน เพื่อรับมือกับปัญหาท้าทายใหม่ ๆ และเป็นการนำอาเซียนไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนอย่างแท้จริง รวมทั้งมีความยืดหยุ่นและเปิดกว้างให้มีการแก้ไขในอนาคตได้
สำหรับประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่ง คือเรื่องการให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทในพัฒนาการของอาเซียนมากขึ้น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศเห็นว่าปัจจุบันการมีส่วนร่วมของประชาชนในอาเซียนยังมีน้อย จึงควรส่งเสริมและผลักดันให้เกิดขึ้น ซึ่งคณะผู้ทรงคุณวุฒิฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว และจะศึกษาดูว่า กฎบัตรอาเซียนจะเป็นกลไกขับเคลื่อนเพื่อผลักดันให้เรื่องนี้มีความก้าวหน้าได้เพียงใด นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและคณะผู้ทรงคุณวุฒิฯ ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเรื่องอนาคตของอาเซียน การบริหารจัดการด้านการเงิน ซึ่งรวมถึงเรื่องการแบ่งภาระทางการเงินเพื่อให้องค์กรอาเซียนดำเนินต่อไปได้อย่างมีความก้าวหน้า
อนึ่ง คณะผู้ทรงคุณวุฒิฯ จะนำเสนอข้อเสนอเรื่องกฎบัตรอาเซียนเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และจะแต่งตั้งคณะทำงานระดับสูงของอาเซียนที่จะจัดทำกฎบัตรเพื่อเสนอต่อผู้นำอาเซียนในการประชุมสุดยอดปี 2549
ในวันเดียวกันนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศได้พบและหารือทวิภาคีกับดาโต๊ะ ซรี ไซด์ ฮามิด บิน ไซด์ จาฟาร์ อัลบาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีที่สำคัญ ได้แก่ กรณีคนไทย 130 คน ซึ่ง ดร. กันตธีร์ฯ ได้แสดงความพอใจที่ฝ่ายมาเลเซียช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่หน่วยราชการไทยได้เข้าไปพบและพูดคุยกับคนไทยจำนวน 99 คน โดยทั้งสองฝ่ายได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในทุกระดับเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งฝ่ายไทยได้ย้ำว่า พร้อมดูแลและให้ความปลอดภัยแก่คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือเพื่อต่อสู้และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในภูมิภาค ยุทธศาสตร์การพัฒนารร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย (Joint Development Strategy for border areas : JDS) ซึ่งจะมีการประชุมระดับคณะทำงานและระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ในวันที่ 4-5 พฤษภาคม 2549 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และเรื่องการสนับสนุนการลงสมัครตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้สมัครของอาเซียน ซึ่ง ดร. กันตธีร์ฯ ได้เน้นในความสำคัญของการแสวงหาแนวทางยุทธศาสตร์การหาเสียงสนับสนุนของอาเซียนร่วมกันต่อไป
หลังจากนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศได้พบและหารือข้อราชการกับนายญาณ วิน รัฐมนตรีต่างประเทศพม่า โดย ดร. กันตธีร์ฯ ได้แสดงความห่วงใยในเรื่องกระบวนการปรองดองแห่งชาติของพม่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ไทยและอาเซียนให้ความสำคัญ และต้องการที่จะเห็นความก้าวหน้าเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และย้ำว่าไทย พร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมกระบวนการปรองดองแห่งชาติของพม่าโดยเร็ว นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก โดยไทยพร้อมที่จะจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีในเรื่องสถานการณ์ไข้หวัดนก ซึ่งอาจจะอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือ ACMECS ซึ่งอาจจัดในช่วงเดือนพฤษภาคม ศกนี้ และฝ่ายพม่าเห็นชอบในหลักการ ทั้งนี้ ไทยได้ขอให้ฝ่ายพม่าอธิบายถึงสถานการณ์ของโรคไข้หวัดในพม่าให้แก่ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการด้วย
ต่อข้อซักถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพม่า รัฐมนตรีต่างประเทศได้กล่าวว่า จะต้องรอรับฟังข้อสรุปเกี่ยวกับผลการเยือนพม่าของดาโต๊ะ ซรี ไซด์ ฮามิด บิน ไซด์ จาฟาร์ อัลบาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน
ในตอนค่ำของวันที่ 19 เมษายน 2549 ดร. ฮัสซัน วิรายูดา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ (Working Dinner) ซึ่งจะเป็นโอกาสที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะเริ่มหารือประเด็นต่าง ๆ ที่อยู่ในความสนใจ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-