กรุงเทพ--15 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
ออสเตรีย ……..โครงการความช่วยเหลือของสภาหอการค้าและนักธุรกิจออสเตรียนับว่าตรงกับความต้องการพื้นฐานของประชาชนที่ประสบภัยในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการรวบรวมปัจจัยจากสมาชิกหอการค้ากว่า 30,000 บริษัท เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือใน 3 ด้าน ได้แก่ การก่อสร้างโรงเรียนหรือโรงพยาบาล การจัดหาน้ำสะอาดหรือบริการด้านสุขอนามัย และการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการย่อยในท้องถิ่นของไทย เนื่องจากยังมีคนป่วยอีกมากต้องการโรงพยาบาลเพื่อดูแลรักษาสุขภาพ เด็กๆ ต้องการโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือแทนโรงเรียนเดิมที่ได้รับความเสียหาย ชาวบ้านต้องการบ้านพักอาศัยและทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ และชาวประมงต้องการเรือ แห อวน เพื่อกลับไปประกอบอาชีพเช่นเดิม
เวียดนาม………เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2548 ออท. ณ กรุงฮานอยเป็นตัวแทนรัฐบาลไทยมอบวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยจำนวน 600,000 โด๊สให้แก่ฝ่ายเวียดนาม นาย เกา ดุ๊ก ฝัด รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้มอบหมายให้กองทัพอากาศของไทยจัดส่งวัคซีนไปให้แก่เวียดนามในยามที่เวียดนามมีความต้องการอย่างยิ่ง นับเป็นการช่วยเหลือของเพื่อนให้แก่เพื่อนในยามยากและเป็นที่ประทับใจอย่างมาก ซึ่งฝ่ายเวียดนามให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการที่ไทยให้ความช่วยเหลือเวียดนามในครั้งนี้ โดยกระทรวงเกษตรฯ เวียดนามจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-
เวียดนามให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
สวิตเซอร์แลนด์ ……….สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์นได้รวบรวมเงินบริจาคจากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในสวิตเซอร์แลนด์เป็นเงิน 3,150,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้ได้รับบริจาคจากพระราชกิตติโมลี เจ้าอาวาสววัดศรีนครินทรวรารามจำนวน 1,471,311 บาท และได้เจริญพรว่า เหตุภัยพิบัติได้กระตุ้นสำนึกของคนไทยในทุกประเทศให้ช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่ได้รับความเดือดร้อน แสดงว่าคนไทยไม่เคยทอดทิ้งกัน นอกจากนี้ สิ่งที่สร้างความประทับใจที่สุด คือ คณะเด็กนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาจากเมืองเกรทเซ่นบาค ที่วัดศรีนครินทรวรารามตั้งอยู่ นำโดยเด็กหญิงวิคตอเรีย สตัดกี้ และเด็กหญิงเบียงก้า กัลเลอร์ ซึ่งมีอายุเพียงแค่ 9 ปี ได้ชักชวนเพื่อนนักเรียนร่วมชั้น คณะครู อาจารย์ และผู้ปกครองร่วมบริจาคเงินจำนวน 287,616 บาทให้แก่วัดศรีฯ เพราะต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศไทยที่พวกตนรู้สึกผูกพันมาช้านาน
สาธารณรัฐประชาชนจีน ……..สมาคมกาชาด มณฑลไหหลำได้บริจาคเงินจำนวน 2,500,000 บาทให้จังหวัดภูเก็ตโดยผ่านทางสมาคมกาชาดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กรุงปักกิ่ง และบริษัทท่องเที่ยวจีน GZL Travel ได้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวขึ้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2548 เพื่อนำเงินรายได้จำนวน 1,500,000 บาท มอบให้แก่ผู้ประสบภัยในไทย ส่วนโรงงานยาเซิ่นเจิ้นประสงค์จะบริจาคยาและเวชภัณฑ์มูลค่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐโดยจะส่งตรงไปยังจังหวัดภูเก็ตในโอกาสแรก
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ออสเตรีย ……..โครงการความช่วยเหลือของสภาหอการค้าและนักธุรกิจออสเตรียนับว่าตรงกับความต้องการพื้นฐานของประชาชนที่ประสบภัยในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการรวบรวมปัจจัยจากสมาชิกหอการค้ากว่า 30,000 บริษัท เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือใน 3 ด้าน ได้แก่ การก่อสร้างโรงเรียนหรือโรงพยาบาล การจัดหาน้ำสะอาดหรือบริการด้านสุขอนามัย และการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการย่อยในท้องถิ่นของไทย เนื่องจากยังมีคนป่วยอีกมากต้องการโรงพยาบาลเพื่อดูแลรักษาสุขภาพ เด็กๆ ต้องการโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือแทนโรงเรียนเดิมที่ได้รับความเสียหาย ชาวบ้านต้องการบ้านพักอาศัยและทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ และชาวประมงต้องการเรือ แห อวน เพื่อกลับไปประกอบอาชีพเช่นเดิม
เวียดนาม………เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2548 ออท. ณ กรุงฮานอยเป็นตัวแทนรัฐบาลไทยมอบวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยจำนวน 600,000 โด๊สให้แก่ฝ่ายเวียดนาม นาย เกา ดุ๊ก ฝัด รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้มอบหมายให้กองทัพอากาศของไทยจัดส่งวัคซีนไปให้แก่เวียดนามในยามที่เวียดนามมีความต้องการอย่างยิ่ง นับเป็นการช่วยเหลือของเพื่อนให้แก่เพื่อนในยามยากและเป็นที่ประทับใจอย่างมาก ซึ่งฝ่ายเวียดนามให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการที่ไทยให้ความช่วยเหลือเวียดนามในครั้งนี้ โดยกระทรวงเกษตรฯ เวียดนามจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-
เวียดนามให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
สวิตเซอร์แลนด์ ……….สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์นได้รวบรวมเงินบริจาคจากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในสวิตเซอร์แลนด์เป็นเงิน 3,150,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้ได้รับบริจาคจากพระราชกิตติโมลี เจ้าอาวาสววัดศรีนครินทรวรารามจำนวน 1,471,311 บาท และได้เจริญพรว่า เหตุภัยพิบัติได้กระตุ้นสำนึกของคนไทยในทุกประเทศให้ช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่ได้รับความเดือดร้อน แสดงว่าคนไทยไม่เคยทอดทิ้งกัน นอกจากนี้ สิ่งที่สร้างความประทับใจที่สุด คือ คณะเด็กนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาจากเมืองเกรทเซ่นบาค ที่วัดศรีนครินทรวรารามตั้งอยู่ นำโดยเด็กหญิงวิคตอเรีย สตัดกี้ และเด็กหญิงเบียงก้า กัลเลอร์ ซึ่งมีอายุเพียงแค่ 9 ปี ได้ชักชวนเพื่อนนักเรียนร่วมชั้น คณะครู อาจารย์ และผู้ปกครองร่วมบริจาคเงินจำนวน 287,616 บาทให้แก่วัดศรีฯ เพราะต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศไทยที่พวกตนรู้สึกผูกพันมาช้านาน
สาธารณรัฐประชาชนจีน ……..สมาคมกาชาด มณฑลไหหลำได้บริจาคเงินจำนวน 2,500,000 บาทให้จังหวัดภูเก็ตโดยผ่านทางสมาคมกาชาดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กรุงปักกิ่ง และบริษัทท่องเที่ยวจีน GZL Travel ได้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวขึ้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2548 เพื่อนำเงินรายได้จำนวน 1,500,000 บาท มอบให้แก่ผู้ประสบภัยในไทย ส่วนโรงงานยาเซิ่นเจิ้นประสงค์จะบริจาคยาและเวชภัณฑ์มูลค่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐโดยจะส่งตรงไปยังจังหวัดภูเก็ตในโอกาสแรก
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-