สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
สัปดาห์นี้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณสุกรที่ออกสู่ตลาดมีมากเกินความต้องการบริโภค ส่งผลให้ราคาสุกรตกต่ำ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างกรมการค้าภายใน สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ รวมทั้งภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปในการแก้ปัญหาโดยให้แต่ละจังหวัดดำเนินการจัดจำหน่ายเนื้อสุกรราคาถูก 2 กิโลกรัม 100 บาท และแจ้งให้ตลาดสดต่างๆ จำหน่ายเนื้อแดงในราคาไม่เกิน กิโลกรัมละ 80-85 บาท ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความต้องการบริโภค รวมทั้งปรับลดปริมาณการผลิตสุกร โดยปรับลดแม่พันธุ์สุกรชะลอการผสมพันธุ์แม่สุกร และตัดวงจรลูกสุกรโดยนำลูกสุกรส่วนหนึ่งไปทำหมูหัน ส่วนข้อเสนอของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ ที่ขอเงินทุนหมุนเวียน 35 ล้านบาท เพื่อจัดจำหน่ายเนื้อสุกร 2 กิโลกรัม ในราคา 100 บาท และขอเงินชดเชย 20 ล้านบาท เพื่อตัดวงจรลูกสุกรไปทำหมูหัน 40,000 ตัว จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) ก่อน คาดว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวและความต้องการบริโภคที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจส่งผลให้ราคาสุกรเริ่มทรงตัว
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 40.34 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 41.21 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 2.11 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือกิโลกรัมละ 38.99 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกิโลกรัมละ 39.57 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 42.28 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 39.85 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 1,400 บาท (บวกลบ 41 บาท) ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 35.50 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 37.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 4.05 และราคาขายส่งสุกรชำแหละเฉลี่ยกิโลกรัมละ 43.50 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 46.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 6.45
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 50 ประจำวันที่ 18 - 24 ธันวาคม 2549--
-พห-
สัปดาห์นี้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณสุกรที่ออกสู่ตลาดมีมากเกินความต้องการบริโภค ส่งผลให้ราคาสุกรตกต่ำ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างกรมการค้าภายใน สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ รวมทั้งภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปในการแก้ปัญหาโดยให้แต่ละจังหวัดดำเนินการจัดจำหน่ายเนื้อสุกรราคาถูก 2 กิโลกรัม 100 บาท และแจ้งให้ตลาดสดต่างๆ จำหน่ายเนื้อแดงในราคาไม่เกิน กิโลกรัมละ 80-85 บาท ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความต้องการบริโภค รวมทั้งปรับลดปริมาณการผลิตสุกร โดยปรับลดแม่พันธุ์สุกรชะลอการผสมพันธุ์แม่สุกร และตัดวงจรลูกสุกรโดยนำลูกสุกรส่วนหนึ่งไปทำหมูหัน ส่วนข้อเสนอของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ ที่ขอเงินทุนหมุนเวียน 35 ล้านบาท เพื่อจัดจำหน่ายเนื้อสุกร 2 กิโลกรัม ในราคา 100 บาท และขอเงินชดเชย 20 ล้านบาท เพื่อตัดวงจรลูกสุกรไปทำหมูหัน 40,000 ตัว จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) ก่อน คาดว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวและความต้องการบริโภคที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจส่งผลให้ราคาสุกรเริ่มทรงตัว
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 40.34 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 41.21 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 2.11 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือกิโลกรัมละ 38.99 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกิโลกรัมละ 39.57 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 42.28 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 39.85 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 1,400 บาท (บวกลบ 41 บาท) ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 35.50 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 37.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 4.05 และราคาขายส่งสุกรชำแหละเฉลี่ยกิโลกรัมละ 43.50 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 46.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 6.45
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 50 ประจำวันที่ 18 - 24 ธันวาคม 2549--
-พห-