เศรษฐกิจโดยรวมเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยด้านอุปสงค์ ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนและมูลค่าการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านปริมาณส่งออกเร่งตัวขึ้นมาก ขณะที่มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราที่ ต่ำกว่า ทำให้ดุลการค้าขาดดุลลดลง อย่างไรก็ตาม ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย
ด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งด้านราคาพืชผลที่ยังคงขยายตัวสูง และ ผลผลิตพืชผลหลักก็เพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก ตามอุปสงค์จาก ต่างประเทศเป็นสำคัญ สำหรับภาคบริการ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยรวมขยายตัวในเกณฑ์ดีจากระยะเดียวกัน ปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานปีก่อนที่อยู่ในระดับต่ำเพราะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
เสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี โดยด้านฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ฐานะดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อน ตามการชะลอลงของราคาในหมวดอาหารสด อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน จากผลของการปรับขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 มีดังนี้
1. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 12.8 เร่งขึ้นมากจากเดือนก่อน โดยเฉพาะในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ หมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง ตามการส่งออกที่ขยายตัวดีและ การออกรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ ขณะที่หมวดเครื่องดื่มขยายตัวดีต่อเนื่องจากเดือนก่อน และหมวดสิ่งทอขยายตัวตามการส่งออก เสื้อผ้าสำเร็จรูป ส่วนหมวดปิโตรเลียมขยายตัวสูง โดยเป็นผลจากฐานปีก่อนอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากการปิดซ่อมบำรุง โรงกลั่นและมีปัญหาการนำเข้าน้ำมันดิบล่าช้า สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 72.3 ลดลงจากร้อยละ 73.4 ในเดือนก่อน ตามปัจจัยฤดูกาลที่เดือนนี้มีจำนวนวันทำการน้อย แต่เมื่อหักผลของปัจจัยทาง ฤดูกาลออกแล้ว อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน
2. ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนลดลงร้อยละ 0.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน เทียบกับเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 0.9 เป็นผลจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์และปริมาณการจำหน่าย รถจักรยานยนต์ ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคสินค้าไม่คงทนอื่นยังขยายตัวในเกณฑ์ดี สำหรับดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (เบื้องต้น) ขยายตัวร้อยละ 5.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการขยายตัวของการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร เป็นสำคัญ โดยมูลค่าการนำเข้าสินค้าทุน ณ ราคาคงที่ และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกัน ปีก่อน ส่วนการลงทุนในหมวดก่อสร้างลดลงต่อเนื่องตามภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลง
3. ภาคการคลังเดือนกุมภาพันธ์ 2549 รัฐบาลมีรายได้จัดเก็บ 113.7 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.9 จาก ระยะเดียวกันปีก่อน รายได้ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าโดยเฉพาะภาษีที่จัดเก็บจากฐานรายได้ ซึ่งขยายตัวร้อยละ 15.5 ตามการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 33.9 เนื่องจากการปรับเงินเดือนและจ่ายโบนัสของภาคเอกชน นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ภาษีก็ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน เนื่องจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) นำส่งรายได้มากขึ้น และโรงงานยาสูบนำส่งรายได้ต่อเนื่องจากเดือนมกราคม สำหรับดุลเงินสดของรัฐบาลในเดือนนี้ขาดดุล 13.1 พันล้านบาท
4. ภาคต่างประเทศเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ดุลการค้าขาดดุล 24 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงเมื่อเทียบกับการขาดดุล 388 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือนก่อน ทั้งนี้ การส่งออกขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 23.3 คิดเป็นมูลค่า 9,425 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยเป็นการขยายตัวจากทั้งด้านราคาและปริมาณ จากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมซึ่งยังคงขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ยานพาหนะและชิ้นส่วน ตลอดจนเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม นอกจากนี้ ปริมาณ การส่งออกสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้นจากยางพาราและมันสำปะหลัง สำหรับการนำเข้ามีมูลค่า 9,449 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 15.3 โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาเป็นสำคัญ ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุล 690 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงจากเดือนก่อนที่เกินดุล 893 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายผลประโยชน์การลงทุนโดยเฉพาะการส่งกลับกำไรและเงินปันผล ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 666 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากที่เกินดุล 504 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือนก่อน ดุลการชำระเงินเกินดุล 1,610 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับที่เกินดุล 624 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือนก่อน เงินสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 อยู่ที่ระดับ 54.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยมียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิจำนวน 4.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
5. อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 อยู่ที่ร้อยละ 5.6 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 5.9 ในเดือนก่อน เป็นผลจากการชะลอลงของราคาในหมวดอาหารสดโดยรวมเนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ซึ่งส่งผลให้ราคาผักและผลไม้ชะลอลง และราคาไข่ไก่ปรับลดลง สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่มีอัตราร้อยละ 2.5 ซึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นค่าโดยสารสาธารณะ ตามการปรับอัตราค่าโดยสารรถร่วมบริการในเขตกรุงเทพฯ และ บขส.
ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.0 ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 9.5 ตามราคาหมวดผลผลิตเกษตรกรรม และหมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ชะลอลงจากเดือนก่อน
6. ภาวะการเงินเดือนกุมภาพันธ์ 2549 เงินฝากธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 27.5 พันล้านบาท และขยายตัวถึงร้อยละ 10.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลของการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่ ซึ่งเมื่อหักผล ดังกล่าวออกแล้ว เงินฝากธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 6.1 และอยู่ในแนวโน้มเร่งตัวต่อเนื่องจากช่วงกลางปี 2548 สำหรับสินเชื่อภาคเอกชนของธนาคารพาณิชย์ (รวมการถือครองหลักทรัพย์ของภาคเอกชน) ขยายตัวร้อยละ 7.6 จาก ระยะเดียวกันปีก่อน เมื่อหักผลของการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่และบวกกลับผลของการตัดหนี้สูญสินเชื่อออกจาก บัญชีและการโอนทางบัญชีกับ AMC แล้วขยายตัวร้อยละ 7.5 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำกว่าในเดือนมกราคมเล็กน้อย เนื่องจากการถือครองหลักทรัพย์ลดลง อย่างไรก็ดี ในส่วนของสินเชื่อยังขยายตัวดีใกล้เคียงกับเดือนก่อน
ฐานเงินขยายตัวร้อยละ 3.6 จากระยะเดียวกันปีก่อนแต่ลดลง 29.3 พันล้านบาทจากเดือนก่อน เนื่องจากในเดือนมกราคมมีการเพิ่มขึ้นของเงินสดในมือประชาชนจากความต้องการใช้เงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนปริมาณเงิน M2 M2a และ M3 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 10.1 6.9 และ 7.2 ตามลำดับ ใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวในเดือนมกราคม
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน ทั้งอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วันและอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะ 1 วันในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงปลายเดือนมกราคมภายหลังการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2549
7. ค่าเงินบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 เฉลี่ยอยู่ที่ 39.41 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นจากค่าเฉลี่ย 39.62 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ในเดือนมกราคม สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากการไหลเข้าอย่างต่อเนื่องของเงินทุน เพื่อมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค
ระหว่างวันที่ 1-23 มีนาคม 2549 ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 38.99 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นอีกสอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ สรอ. อ่อนลง ประกอบกับมีเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศในช่วงครึ่งแรกของเดือนเพื่อซื้อกิจการของบริษัทเอกชน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งด้านราคาพืชผลที่ยังคงขยายตัวสูง และ ผลผลิตพืชผลหลักก็เพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก ตามอุปสงค์จาก ต่างประเทศเป็นสำคัญ สำหรับภาคบริการ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยรวมขยายตัวในเกณฑ์ดีจากระยะเดียวกัน ปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานปีก่อนที่อยู่ในระดับต่ำเพราะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
เสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี โดยด้านฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ฐานะดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อน ตามการชะลอลงของราคาในหมวดอาหารสด อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน จากผลของการปรับขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 มีดังนี้
1. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 12.8 เร่งขึ้นมากจากเดือนก่อน โดยเฉพาะในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ หมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง ตามการส่งออกที่ขยายตัวดีและ การออกรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ ขณะที่หมวดเครื่องดื่มขยายตัวดีต่อเนื่องจากเดือนก่อน และหมวดสิ่งทอขยายตัวตามการส่งออก เสื้อผ้าสำเร็จรูป ส่วนหมวดปิโตรเลียมขยายตัวสูง โดยเป็นผลจากฐานปีก่อนอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากการปิดซ่อมบำรุง โรงกลั่นและมีปัญหาการนำเข้าน้ำมันดิบล่าช้า สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 72.3 ลดลงจากร้อยละ 73.4 ในเดือนก่อน ตามปัจจัยฤดูกาลที่เดือนนี้มีจำนวนวันทำการน้อย แต่เมื่อหักผลของปัจจัยทาง ฤดูกาลออกแล้ว อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน
2. ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนลดลงร้อยละ 0.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน เทียบกับเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 0.9 เป็นผลจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์และปริมาณการจำหน่าย รถจักรยานยนต์ ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคสินค้าไม่คงทนอื่นยังขยายตัวในเกณฑ์ดี สำหรับดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (เบื้องต้น) ขยายตัวร้อยละ 5.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการขยายตัวของการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร เป็นสำคัญ โดยมูลค่าการนำเข้าสินค้าทุน ณ ราคาคงที่ และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกัน ปีก่อน ส่วนการลงทุนในหมวดก่อสร้างลดลงต่อเนื่องตามภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลง
3. ภาคการคลังเดือนกุมภาพันธ์ 2549 รัฐบาลมีรายได้จัดเก็บ 113.7 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.9 จาก ระยะเดียวกันปีก่อน รายได้ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าโดยเฉพาะภาษีที่จัดเก็บจากฐานรายได้ ซึ่งขยายตัวร้อยละ 15.5 ตามการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 33.9 เนื่องจากการปรับเงินเดือนและจ่ายโบนัสของภาคเอกชน นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ภาษีก็ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน เนื่องจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) นำส่งรายได้มากขึ้น และโรงงานยาสูบนำส่งรายได้ต่อเนื่องจากเดือนมกราคม สำหรับดุลเงินสดของรัฐบาลในเดือนนี้ขาดดุล 13.1 พันล้านบาท
4. ภาคต่างประเทศเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ดุลการค้าขาดดุล 24 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงเมื่อเทียบกับการขาดดุล 388 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือนก่อน ทั้งนี้ การส่งออกขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 23.3 คิดเป็นมูลค่า 9,425 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยเป็นการขยายตัวจากทั้งด้านราคาและปริมาณ จากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมซึ่งยังคงขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ยานพาหนะและชิ้นส่วน ตลอดจนเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม นอกจากนี้ ปริมาณ การส่งออกสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้นจากยางพาราและมันสำปะหลัง สำหรับการนำเข้ามีมูลค่า 9,449 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 15.3 โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาเป็นสำคัญ ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุล 690 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงจากเดือนก่อนที่เกินดุล 893 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายผลประโยชน์การลงทุนโดยเฉพาะการส่งกลับกำไรและเงินปันผล ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 666 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากที่เกินดุล 504 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือนก่อน ดุลการชำระเงินเกินดุล 1,610 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับที่เกินดุล 624 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือนก่อน เงินสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 อยู่ที่ระดับ 54.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยมียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิจำนวน 4.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
5. อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 อยู่ที่ร้อยละ 5.6 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 5.9 ในเดือนก่อน เป็นผลจากการชะลอลงของราคาในหมวดอาหารสดโดยรวมเนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ซึ่งส่งผลให้ราคาผักและผลไม้ชะลอลง และราคาไข่ไก่ปรับลดลง สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่มีอัตราร้อยละ 2.5 ซึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นค่าโดยสารสาธารณะ ตามการปรับอัตราค่าโดยสารรถร่วมบริการในเขตกรุงเทพฯ และ บขส.
ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.0 ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 9.5 ตามราคาหมวดผลผลิตเกษตรกรรม และหมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ชะลอลงจากเดือนก่อน
6. ภาวะการเงินเดือนกุมภาพันธ์ 2549 เงินฝากธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 27.5 พันล้านบาท และขยายตัวถึงร้อยละ 10.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลของการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่ ซึ่งเมื่อหักผล ดังกล่าวออกแล้ว เงินฝากธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 6.1 และอยู่ในแนวโน้มเร่งตัวต่อเนื่องจากช่วงกลางปี 2548 สำหรับสินเชื่อภาคเอกชนของธนาคารพาณิชย์ (รวมการถือครองหลักทรัพย์ของภาคเอกชน) ขยายตัวร้อยละ 7.6 จาก ระยะเดียวกันปีก่อน เมื่อหักผลของการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่และบวกกลับผลของการตัดหนี้สูญสินเชื่อออกจาก บัญชีและการโอนทางบัญชีกับ AMC แล้วขยายตัวร้อยละ 7.5 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำกว่าในเดือนมกราคมเล็กน้อย เนื่องจากการถือครองหลักทรัพย์ลดลง อย่างไรก็ดี ในส่วนของสินเชื่อยังขยายตัวดีใกล้เคียงกับเดือนก่อน
ฐานเงินขยายตัวร้อยละ 3.6 จากระยะเดียวกันปีก่อนแต่ลดลง 29.3 พันล้านบาทจากเดือนก่อน เนื่องจากในเดือนมกราคมมีการเพิ่มขึ้นของเงินสดในมือประชาชนจากความต้องการใช้เงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนปริมาณเงิน M2 M2a และ M3 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 10.1 6.9 และ 7.2 ตามลำดับ ใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวในเดือนมกราคม
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน ทั้งอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วันและอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะ 1 วันในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงปลายเดือนมกราคมภายหลังการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2549
7. ค่าเงินบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 เฉลี่ยอยู่ที่ 39.41 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นจากค่าเฉลี่ย 39.62 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ในเดือนมกราคม สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากการไหลเข้าอย่างต่อเนื่องของเงินทุน เพื่อมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค
ระหว่างวันที่ 1-23 มีนาคม 2549 ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 38.99 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นอีกสอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ สรอ. อ่อนลง ประกอบกับมีเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศในช่วงครึ่งแรกของเดือนเพื่อซื้อกิจการของบริษัทเอกชน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--