กรุงเทพ--11 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
แอฟริกาใต้...........กระทรวงการต่างประเทศตระหนักดีว่าการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ข้ามชาติจะต้องดำเนินการทั้งภายในและนอกประเทศ จึงได้ส่งคณะข้าราชการระดับสูงนำโดยนายปิยวัชร นิยมฤกษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด กรมสุขภาพจิต กองบังคับการตรวคนเข้าเมือง กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี และกรมการกงสุล ไปให้คำแนะนำและช่วยเหลือด้านกฎหมาย และการเตรียมพร้อมด้านร่างกายและจิตใจแก่เหยื่อการค้ามนุษย์คนไทย ที่เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2549 โดยมีหญิงไทย แรงงานไทย และชุมชนไทยเข้าร่วมสัมมนาประมาณ 60 คน นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2549 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย ยังได้จัดให้คณะฯ หารือกับหน่วยงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ องค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องด้านการค้ามนุษย์ในแอฟริกาใต้ และหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายของแอฟริกาใต้ อาทิ กรมตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อแสดงให้ฝ่ายแอฟริกาใต้เห็นว่าฝ่ายไทยพยายามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และตั้งใจที่จะร่วมมือกับทางการแอฟริกาใต้ในการป้องกันและปราบปรามปัญหานี้อย่างจริงจัง
สิงคโปร์...........ด้วยแรงผลักดันของสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ทำให้สินค้าโอทอปจากจังหวัดต่างๆ อาทิ สงขลา นครราชสีมา เพชรบุรี เชียงใหม่ ปัตตานี สตูล ฯลฯ มีทั้งช่องทางและโอกาสเปิดตัวในตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทั้งยังได้รับการตอบรับจากชาวสิงคโปร์เป็นอย่างดี ในงานเทศกาลไทย 2006 ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน — 3 กรกฎาคม 2549 ที่สิงคโปร์ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชมงาน เกือบ 100,000 คน ตลอดเวลา 5 วันของการจัดงาน มีร้านจำหน่ายสินค้าเข้าร่วม 120 ร้าน และร้านอาหารไทยจำนวน 20 ร้าน จุดประสงค์ของการจัดงานดังกล่าวเพื่อมุ่งเน้นความหลากหลายของภาคอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะสินค้าโอทอป สินค้าประเภทอาหารสด-แห้ง ผลไม้ เครื่องอุปโภคภายในครัวเรือน ผ้าทอพื้นบ้าน เครื่องใช้สุขภัณฑ์ ในส่วนของการจัดมุมอาหารไทยนั้น ร้านอาหารไทยในสิงคโปร์ได้จำหน่ายอาหารไทยและวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร เพื่อเป็นการส่งเสริมโครงการครัวไทยสู่โลก โดยสถานทูตได้คัดเลือกร้านอาหารไทยในสิงคโปร์ เพื่อร่วมเผยแพร่วัฒนธรรมการบริโภคอาหารไทยแก่ผู้เข้าร่วมงาน และยังได้จัดมุมสปาและนวดแผนไทยซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในสิงคโปร์ไว้บริการแก่ผู้เข้าชมงานอีกด้วย
เซเนกัล............น่าจะเป็นข่าวดีของผู้ผลิตมุ้งอาบน้ำยากันยุงของไทย ที่ฝ่ายเซเนกัลเห็นว่าประเทศไทยผลิตมุ้งอาบน้ำยากันยุงที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แพง ราคาหลังละประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐ จึงได้ขอให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์ ช่วยติดต่อกับบริษัทไทยที่ผลิตมุ้งดังกล่าว โดยแจ้งว่าฝ่ายเซเนกัลมีความประสงค์ที่จะสั่งซื้อมุ้งอาบน้ำยากันยุงจำนวน 200,000 หลัง ก่อนที่จะเริ่มเข้าหน้าฝนและจะประสบปัญหาจำนวนผู้ป่วยโรคมาลาเรียเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เซเนกัลได้รับเงินช่วยเหลือจาก Global Fund จำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นเวลา 5 ปี ในการป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย โดยจะจัดสรรเงินจำนวนร้อยละ 30 เพื่อการป้องกันโรคมาลาเรียโดยเฉพาะ สถานทูตจึงได้ติดต่อกับบริษัท SiamDutch Mosquito Netting แจ้งความประสงค์ของฝ่ายเซเนกัลให้ทราบแล้ว และยังได้ฝากข่าวมายังบริษัทยาของไทยด้วยว่า ยาไทยมีโอกาสที่จะเข้าไปแข่งขันกับยาของอินเดียและจีนได้ เนื่องจากมีคุณภาพดีและราคาไม่แพง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
แอฟริกาใต้...........กระทรวงการต่างประเทศตระหนักดีว่าการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ข้ามชาติจะต้องดำเนินการทั้งภายในและนอกประเทศ จึงได้ส่งคณะข้าราชการระดับสูงนำโดยนายปิยวัชร นิยมฤกษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด กรมสุขภาพจิต กองบังคับการตรวคนเข้าเมือง กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี และกรมการกงสุล ไปให้คำแนะนำและช่วยเหลือด้านกฎหมาย และการเตรียมพร้อมด้านร่างกายและจิตใจแก่เหยื่อการค้ามนุษย์คนไทย ที่เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2549 โดยมีหญิงไทย แรงงานไทย และชุมชนไทยเข้าร่วมสัมมนาประมาณ 60 คน นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2549 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย ยังได้จัดให้คณะฯ หารือกับหน่วยงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ องค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องด้านการค้ามนุษย์ในแอฟริกาใต้ และหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายของแอฟริกาใต้ อาทิ กรมตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อแสดงให้ฝ่ายแอฟริกาใต้เห็นว่าฝ่ายไทยพยายามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และตั้งใจที่จะร่วมมือกับทางการแอฟริกาใต้ในการป้องกันและปราบปรามปัญหานี้อย่างจริงจัง
สิงคโปร์...........ด้วยแรงผลักดันของสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ทำให้สินค้าโอทอปจากจังหวัดต่างๆ อาทิ สงขลา นครราชสีมา เพชรบุรี เชียงใหม่ ปัตตานี สตูล ฯลฯ มีทั้งช่องทางและโอกาสเปิดตัวในตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทั้งยังได้รับการตอบรับจากชาวสิงคโปร์เป็นอย่างดี ในงานเทศกาลไทย 2006 ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน — 3 กรกฎาคม 2549 ที่สิงคโปร์ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชมงาน เกือบ 100,000 คน ตลอดเวลา 5 วันของการจัดงาน มีร้านจำหน่ายสินค้าเข้าร่วม 120 ร้าน และร้านอาหารไทยจำนวน 20 ร้าน จุดประสงค์ของการจัดงานดังกล่าวเพื่อมุ่งเน้นความหลากหลายของภาคอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะสินค้าโอทอป สินค้าประเภทอาหารสด-แห้ง ผลไม้ เครื่องอุปโภคภายในครัวเรือน ผ้าทอพื้นบ้าน เครื่องใช้สุขภัณฑ์ ในส่วนของการจัดมุมอาหารไทยนั้น ร้านอาหารไทยในสิงคโปร์ได้จำหน่ายอาหารไทยและวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร เพื่อเป็นการส่งเสริมโครงการครัวไทยสู่โลก โดยสถานทูตได้คัดเลือกร้านอาหารไทยในสิงคโปร์ เพื่อร่วมเผยแพร่วัฒนธรรมการบริโภคอาหารไทยแก่ผู้เข้าร่วมงาน และยังได้จัดมุมสปาและนวดแผนไทยซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในสิงคโปร์ไว้บริการแก่ผู้เข้าชมงานอีกด้วย
เซเนกัล............น่าจะเป็นข่าวดีของผู้ผลิตมุ้งอาบน้ำยากันยุงของไทย ที่ฝ่ายเซเนกัลเห็นว่าประเทศไทยผลิตมุ้งอาบน้ำยากันยุงที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แพง ราคาหลังละประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐ จึงได้ขอให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์ ช่วยติดต่อกับบริษัทไทยที่ผลิตมุ้งดังกล่าว โดยแจ้งว่าฝ่ายเซเนกัลมีความประสงค์ที่จะสั่งซื้อมุ้งอาบน้ำยากันยุงจำนวน 200,000 หลัง ก่อนที่จะเริ่มเข้าหน้าฝนและจะประสบปัญหาจำนวนผู้ป่วยโรคมาลาเรียเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เซเนกัลได้รับเงินช่วยเหลือจาก Global Fund จำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นเวลา 5 ปี ในการป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย โดยจะจัดสรรเงินจำนวนร้อยละ 30 เพื่อการป้องกันโรคมาลาเรียโดยเฉพาะ สถานทูตจึงได้ติดต่อกับบริษัท SiamDutch Mosquito Netting แจ้งความประสงค์ของฝ่ายเซเนกัลให้ทราบแล้ว และยังได้ฝากข่าวมายังบริษัทยาของไทยด้วยว่า ยาไทยมีโอกาสที่จะเข้าไปแข่งขันกับยาของอินเดียและจีนได้ เนื่องจากมีคุณภาพดีและราคาไม่แพง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-