‘อภิสิทธิ์’ ไม่หวั่นรัฐบาลตั้ง ‘วอร์รูม’ รับมือซักฟอก ‘สุริยะ’ เชื่อ ไม่มีใครหนีความจริงได้ ยันไม่หนักใจหากถูกหยิบยกเรื่องในอดีตขึ้นมาพาดพิง พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ จริงจังกับเรื่องการเมืองที่สร้างสรรค์
วันนี้ ( 20 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทยตั้งวอร์รูมเตรียมรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยให้นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ดูแลและสนับสนุนข้อมูลว่า ฝ่ายค้านไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะถือว่ายังไงก็ไม่มีใครหนีความจริงได้ เพราะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด และสายพานลำเลียงซีทีเอ็กซ์ 9000 ของสนามบินสุวรรณภูมิได้มีการบันทึกเป็นเอกสารหลักฐานหลายอย่างที่ชี้ชัดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาเตรียมข้อมูลอะไรให้ หรือใครจะมาแนะนำว่าจะต้องตอบชี้แจงอย่างไรก็หนีข้อเท็จจริงไม่ได้
“ผมอยากเรียกร้องให้รัฐบาล ทั้ง ส.ส.และรัฐมนตรีได้ช่วยกันทำให้กระบวนการในการตรวจสอบของสภาฯ เป็นกระบวนการที่สร้างสรรค์ ซึ่งฝ่ายค้านจะนำเสนอข้อเท็จจริงต่างๆ รัฐบาลก็ชี้แจงตามข้อเท็จจริง และอย่าได้พยายามทำให้กระบวนการนี้เป็นเรื่องของความวุ่นวาย หรือความเบื่อหน่ายเหมือนการเมืองแบบเก่าๆ ที่ประชาชนไม่ต้องการแล้ว เพราะเท่ากับเป็นการทำลายทุกคนด้วยกันเอง ก็ขอเรียกร้องให้ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาจะเป็นเรื่องดีที่สุด ท่านรัฐมนตรีเนวินเองความจริงผมคิดว่าท่านน่าจะไปเตรียมเรื่องกล้ายางมากกว่า เรื่องนี้ควรให้ผู้รับผิดชอบชี้แจง ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ฟ้องว่าเวลาที่ท่านนายกฯ ชอบพูดว่าเล่นการเมืองนั้น ฝ่ายใดที่เป็นฝ่ายทำ เพราะในส่วนของฝ่ายค้านเดินหน้าตรงไปตรงมา รวบรวมข้อเท็จจริง และนำเสนอ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะมีการเตรียมทีมงานไว้คอยชี้แจงกรณีที่ถูกพาดพิงถึงการทำงานในอดีตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของ ส.ส.คงจะช่วยทำหน้าที่ให้ประธานในที่ประชุมสภาฯ รักษาข้อบังคับอย่างเคร่งครัด โดยส่วนใดที่อยู่นอกประเด็นไม่ควรที่จะอนุญาตให้มีการนำมาพูดกัน แต่หากใครถูกพาดพิง และมีความเสียหายก็สามารถใช้สิทธิตามข้อบังคับในการชี้แจงได้อยู่แล้ว จึงไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร และในส่วนของใครที่ถูกพาดพิงก็ต้องพร้อมที่จะชี้แจง เพราะต้องรู้ว่าข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องคืออะไร
เมื่อถามต่อว่า เป็นห่วงการประท้วงของ ส.ส.รัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านสมาธิดีพอสมควร จึงไม่เป็นห่วงว่าการประท้วงจะมาทำลายสมาธิ แต่ห่วงว่าการประท้วงจะทำให้ประชาชนที่ดู หรือฟังการถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสียอารมณ์ และจะเบื่อหน่าย ซึ่งความจริงไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น จึงอยากเรียกร้องว่าหากนายกฯ จริงจังกับเรื่องการเมืองที่สร้างสรรค์ ก็จะต้องห้ามปราม ส.ส.ไม่ให้ใช้วิธีการเพื่อสร้างความเบื่อหน่ายให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายกัน
“สำหรับการเตรียมข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านนั้น หากให้อภิปรายในตอนนี้ก็พร้อม แต่จะต้องดูว่าในช่วงก่อนการอภิปราย 5-6 วันข้างหน้านี้จะมีความเคลื่อนไหวอะไรอีกหรือไม่ ดังนั้นตอนนี้จะถือว่าสรุปสุดท้ายคงไม่ได้ โดยทุกคนที่เตรียมอภิปรายก็ทราบดีว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้อีก ขึ้นอยู่กับว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้ผมจะเป็นคนเปิด ส่วนคนที่จะอภิปรายสรุปยังไม่ได้ข้อยุติว่าเป็นใคร อย่างไรก็ตามหลักฐานที่มีอยู่จะชี้ให้เห็นชัดเจนว่าเกิดการทุจริตขึ้นในโครงการนี้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนการอภิปรายในครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการนำเสนอของฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งที่ฝ่ายค้านหวังคือความชัดเจนในข้อเท็จจริง และหวังว่ารัฐบาลซึ่งไม่ว่าจะเป็น ส.ส. รัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี เมื่อเห็นความชัดเจนตรงนี้แล้วจะมีสำนึกเพียงพอที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยอะไรจำเป็นจะต้องทำก็ควรทำ ไม่ใช่พยายามที่จะปิดบัง หรือกลบเกลื่อน หรืออุ้มกันไป
เมื่อถามอีกว่า ฝ่ายค้านหวังที่จะเห็น ส.ส.รัฐบาลใช้เอกสิทธิ์ของ ส.ส.ในการลงมติครั้งนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลว่าในที่สุดการลงมติจะเป็นอย่างไร เพียงแต่อยากเรียกร้องในฐานะที่ ส.ส.ทุกคนเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยว่า ก่อนจะตัดสินใจลงคะแนน ขอให้ฟังข้อเท็จจริง และเปรียบเทียบน้ำหนักต่างๆ ให้มากกว่าจะให้เป็นเรื่องของการเมือง ดังนั้นจึงไม่เรียกร้องให้คนมายกมือให้ฝ่ายค้านเพื่อต้องการสร้างปัญหาให้รัฐบาล แต่อยากให้ยกมือให้ฝ่ายค้าน หรือไม่สนับสนุนรัฐบาล เพราะเห็นว่าข้อมูลของฝ่ายค้านชัดเจน
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ออกมาระบุว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในหลายโครงการนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านก็ติดตามเรื่องการทุจริตโครงการอื่นอยู่ทุกโครงการ และบางเรื่องยังไม่ได้มีการเปิดเผย เพียงแต่ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ได้มีการเสนอประเด็นที่ชัดเจนว่าจะอภิปรายในเรื่องซีทีเอ็กซ์ จึงไม่อยากให้เกิดความสับสน เพราะคนอยากได้คำตอบที่แท้จริงของเรื่องนี้อยู่ ส่วนความเคลื่อนไหวของ ส.ว.ที่พยายามจะรวบรวมรายชื่อให้ครบ 120 คน เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่มีการลงมตินั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ ซึ่งหาก ส.ว.เห็นว่ามีความจำเป็น มีความเหมาะสมที่จะขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ ก็สามารถเข้าชื่อกันได้ และหาก ส.ว.คนใดเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ไม่ลงชื่อ
“แต่ไม่ใช่ธุระอะไรของฝ่ายบริหารที่จะไปแทรกแซงก้าวก่ายว่าอยากจะชี้แจง ให้ช่วยกันลงชื่อหน่อย หรือกลัวจะถูกอภิปรายแล้วไปขอ ส.ว.ไม่ให้ลงชื่อ ซึ่งการทำเช่นนี้จะผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ส่วนข่าวการล็อบบี้ ส.ว.ไม่ให้ลงชื่อขอเปิดอภิปรายฯ นั้น ผมไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ผู้ที่ถูกพาดพิงควรจะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง และสิ่งที่อยากย้ำคือรัฐบาลควรทำหน้าที่ของตัวเอง โดยให้ ส.ส. และ ส.ว.ทำหน้าที่ของตัวเองเช่นกัน จะทำให้การเมืองได้ประโยชน์ แต่หากรัฐบาลพยายามไปแทรกแซงก้าวก่ายทุกเรื่อง และคิดแต่ผลประโยชน์การเมืองของตัวเอง ก็จะก่อให้เกิดปัญหาได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 มิ.ย. 2548--จบ--
วันนี้ ( 20 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทยตั้งวอร์รูมเตรียมรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยให้นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ดูแลและสนับสนุนข้อมูลว่า ฝ่ายค้านไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะถือว่ายังไงก็ไม่มีใครหนีความจริงได้ เพราะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด และสายพานลำเลียงซีทีเอ็กซ์ 9000 ของสนามบินสุวรรณภูมิได้มีการบันทึกเป็นเอกสารหลักฐานหลายอย่างที่ชี้ชัดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาเตรียมข้อมูลอะไรให้ หรือใครจะมาแนะนำว่าจะต้องตอบชี้แจงอย่างไรก็หนีข้อเท็จจริงไม่ได้
“ผมอยากเรียกร้องให้รัฐบาล ทั้ง ส.ส.และรัฐมนตรีได้ช่วยกันทำให้กระบวนการในการตรวจสอบของสภาฯ เป็นกระบวนการที่สร้างสรรค์ ซึ่งฝ่ายค้านจะนำเสนอข้อเท็จจริงต่างๆ รัฐบาลก็ชี้แจงตามข้อเท็จจริง และอย่าได้พยายามทำให้กระบวนการนี้เป็นเรื่องของความวุ่นวาย หรือความเบื่อหน่ายเหมือนการเมืองแบบเก่าๆ ที่ประชาชนไม่ต้องการแล้ว เพราะเท่ากับเป็นการทำลายทุกคนด้วยกันเอง ก็ขอเรียกร้องให้ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาจะเป็นเรื่องดีที่สุด ท่านรัฐมนตรีเนวินเองความจริงผมคิดว่าท่านน่าจะไปเตรียมเรื่องกล้ายางมากกว่า เรื่องนี้ควรให้ผู้รับผิดชอบชี้แจง ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ฟ้องว่าเวลาที่ท่านนายกฯ ชอบพูดว่าเล่นการเมืองนั้น ฝ่ายใดที่เป็นฝ่ายทำ เพราะในส่วนของฝ่ายค้านเดินหน้าตรงไปตรงมา รวบรวมข้อเท็จจริง และนำเสนอ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะมีการเตรียมทีมงานไว้คอยชี้แจงกรณีที่ถูกพาดพิงถึงการทำงานในอดีตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของ ส.ส.คงจะช่วยทำหน้าที่ให้ประธานในที่ประชุมสภาฯ รักษาข้อบังคับอย่างเคร่งครัด โดยส่วนใดที่อยู่นอกประเด็นไม่ควรที่จะอนุญาตให้มีการนำมาพูดกัน แต่หากใครถูกพาดพิง และมีความเสียหายก็สามารถใช้สิทธิตามข้อบังคับในการชี้แจงได้อยู่แล้ว จึงไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร และในส่วนของใครที่ถูกพาดพิงก็ต้องพร้อมที่จะชี้แจง เพราะต้องรู้ว่าข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องคืออะไร
เมื่อถามต่อว่า เป็นห่วงการประท้วงของ ส.ส.รัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านสมาธิดีพอสมควร จึงไม่เป็นห่วงว่าการประท้วงจะมาทำลายสมาธิ แต่ห่วงว่าการประท้วงจะทำให้ประชาชนที่ดู หรือฟังการถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสียอารมณ์ และจะเบื่อหน่าย ซึ่งความจริงไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น จึงอยากเรียกร้องว่าหากนายกฯ จริงจังกับเรื่องการเมืองที่สร้างสรรค์ ก็จะต้องห้ามปราม ส.ส.ไม่ให้ใช้วิธีการเพื่อสร้างความเบื่อหน่ายให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายกัน
“สำหรับการเตรียมข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านนั้น หากให้อภิปรายในตอนนี้ก็พร้อม แต่จะต้องดูว่าในช่วงก่อนการอภิปราย 5-6 วันข้างหน้านี้จะมีความเคลื่อนไหวอะไรอีกหรือไม่ ดังนั้นตอนนี้จะถือว่าสรุปสุดท้ายคงไม่ได้ โดยทุกคนที่เตรียมอภิปรายก็ทราบดีว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้อีก ขึ้นอยู่กับว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้ผมจะเป็นคนเปิด ส่วนคนที่จะอภิปรายสรุปยังไม่ได้ข้อยุติว่าเป็นใคร อย่างไรก็ตามหลักฐานที่มีอยู่จะชี้ให้เห็นชัดเจนว่าเกิดการทุจริตขึ้นในโครงการนี้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนการอภิปรายในครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการนำเสนอของฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งที่ฝ่ายค้านหวังคือความชัดเจนในข้อเท็จจริง และหวังว่ารัฐบาลซึ่งไม่ว่าจะเป็น ส.ส. รัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี เมื่อเห็นความชัดเจนตรงนี้แล้วจะมีสำนึกเพียงพอที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยอะไรจำเป็นจะต้องทำก็ควรทำ ไม่ใช่พยายามที่จะปิดบัง หรือกลบเกลื่อน หรืออุ้มกันไป
เมื่อถามอีกว่า ฝ่ายค้านหวังที่จะเห็น ส.ส.รัฐบาลใช้เอกสิทธิ์ของ ส.ส.ในการลงมติครั้งนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลว่าในที่สุดการลงมติจะเป็นอย่างไร เพียงแต่อยากเรียกร้องในฐานะที่ ส.ส.ทุกคนเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยว่า ก่อนจะตัดสินใจลงคะแนน ขอให้ฟังข้อเท็จจริง และเปรียบเทียบน้ำหนักต่างๆ ให้มากกว่าจะให้เป็นเรื่องของการเมือง ดังนั้นจึงไม่เรียกร้องให้คนมายกมือให้ฝ่ายค้านเพื่อต้องการสร้างปัญหาให้รัฐบาล แต่อยากให้ยกมือให้ฝ่ายค้าน หรือไม่สนับสนุนรัฐบาล เพราะเห็นว่าข้อมูลของฝ่ายค้านชัดเจน
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ออกมาระบุว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในหลายโครงการนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านก็ติดตามเรื่องการทุจริตโครงการอื่นอยู่ทุกโครงการ และบางเรื่องยังไม่ได้มีการเปิดเผย เพียงแต่ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ได้มีการเสนอประเด็นที่ชัดเจนว่าจะอภิปรายในเรื่องซีทีเอ็กซ์ จึงไม่อยากให้เกิดความสับสน เพราะคนอยากได้คำตอบที่แท้จริงของเรื่องนี้อยู่ ส่วนความเคลื่อนไหวของ ส.ว.ที่พยายามจะรวบรวมรายชื่อให้ครบ 120 คน เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่มีการลงมตินั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ ซึ่งหาก ส.ว.เห็นว่ามีความจำเป็น มีความเหมาะสมที่จะขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ ก็สามารถเข้าชื่อกันได้ และหาก ส.ว.คนใดเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ไม่ลงชื่อ
“แต่ไม่ใช่ธุระอะไรของฝ่ายบริหารที่จะไปแทรกแซงก้าวก่ายว่าอยากจะชี้แจง ให้ช่วยกันลงชื่อหน่อย หรือกลัวจะถูกอภิปรายแล้วไปขอ ส.ว.ไม่ให้ลงชื่อ ซึ่งการทำเช่นนี้จะผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ส่วนข่าวการล็อบบี้ ส.ว.ไม่ให้ลงชื่อขอเปิดอภิปรายฯ นั้น ผมไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ผู้ที่ถูกพาดพิงควรจะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง และสิ่งที่อยากย้ำคือรัฐบาลควรทำหน้าที่ของตัวเอง โดยให้ ส.ส. และ ส.ว.ทำหน้าที่ของตัวเองเช่นกัน จะทำให้การเมืองได้ประโยชน์ แต่หากรัฐบาลพยายามไปแทรกแซงก้าวก่ายทุกเรื่อง และคิดแต่ผลประโยชน์การเมืองของตัวเอง ก็จะก่อให้เกิดปัญหาได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 มิ.ย. 2548--จบ--