พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 27 ม.ค. - 2 ก.พ. 2549

ข่าวทั่วไป Friday January 27, 2006 17:10 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 12/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. - 2 ก.พ. 2549
ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกเพิ่มมากขึ้นในตอนเช้า และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ.จะมีความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้มีอุณหภูมิลดลงและอากาศหนาวเย็น ได้อีก
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันอก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้นหลายพื้นที่ในตอนเช้า ขอให้ผู้เดินทางและผู้ขับขี่ยานพาหนะระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณ ดังกล่าว
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
มีหมอกหลายพื้นที่ และอากาศหนาวในตอนเช้าทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-7 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม.
มีหมอกหลายพื้นที่ และอากาศหนาวในตอนเช้าทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-7 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. เนื่องจากอุณหภูมิอากาศที่แตกต่างกันมากระหว่างกลางคืนและกลางวัน ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ระยะนี้มีหมอกหลายพื้นที่ เกษตรกรควรระวังความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตรที่ตากไว้กลางแจ้งข้ามคืนเนื่องจากหมอกและน้ำค้าง
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. อุณหภูมิสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส และในตอนเช้ามีหมอกกับอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด17-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม/ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. อุณหภูมิลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีฝนบางแห่ง 10 %ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. อุณหภูมิสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส และในตอนเช้ามีหมอกกับอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด17-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม/ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. อุณหภูมิลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีฝนบางแห่ง 10 %ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้อากาศแห้งดังนั้นจึงควรระวังการเกิดอัคคีภัยและไฟป่า นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ ในพืชไร่ ไม้ผลและพืชผัก
กลาง
ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียสและในตอนเช้ามีหมอกหลายพื้นที่กับอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนบางแห่งอุณหภูมิจะลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. # ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียสและในตอนเช้ามีหมอกหลายพื้นที่กับอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนบางแห่งอุณหภูมิจะลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศค่อนข้างเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ดังนั้นผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรหมั่นสังเกตสัตว์เลี้ยง หากพบตัวที่ป่วยควรแยกออกจากกลุ่มและรีบรักษา เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ไปยัง ตัวอื่นๆ ส่วนผู้ที่ปลูกกล้วยไม้ควรให้น้ำอย่างเพียงพอ หรือเพิ่มความชื้นในโรงเรือน รวมทั้งระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดด้วย
ตะวันออก
ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส และในตอนเช้ามีหมอกหลายพื้นที่กับอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝน บางแห่งและอุณหภูมิจะลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส และในตอนเช้ามีหมอกหลายพื้นที่กับอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝน บางแห่งและอุณหภูมิจะลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้อากาศแห้ง ไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน ชาวสวนควรให้น้ำอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ควรทำร่มเงาให้แก่พืชที่ปลูกใหม่ด้วย
ใต้
ทางฝั่งตะวันออกอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไปในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 10% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30% ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. มีเมฆบางส่วน ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝน บางแห่ง 10% ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทางฝั่งตะวันออกอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไปในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 10% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30% ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. มีเมฆบางส่วน ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝน บางแห่ง 10% ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้มีฝนตกน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างพอเพียงโดยเฉพาะพืชที่กำลังปลูกใหม่ เพื่อป้องกันการชะงักเจริญเติบโต ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ