รายงานพิเศษ
บุญเตือน ทองอยู่
ธุรกิจบอกรัก ผ่านของขวัญ แทนใจ ให้กัน ในวันวาเลนไทน์
ของขวัญ ของที่ระลึก ยังคงเหมาะให้กับทุกเทศกาล และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทั่วโลกต่างยอมรับว่าเป็นวันแห่งความรัก หรือ วาเลนไทน์ นอกจากดอกกุหลาบ ซึ่งถือเป็นสินค้ายอดฮิต นิยมนำมามอบให้กัน หลายคนมองหาสินค้าประเภทของขวัญแทนความรัก แทนความปรารถนาดี และความรู้สึก ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ต่างลงทุนควักกระเป๋านำเงินซื้อสินค้าต่างๆ เหล่านี้ไว้จัดจำหน่ายกันมากราย
แหล่งใหญ่ หรือเรียกว่าตลาดค้าส่งสินค้าของขวัญ ของที่ระลึก เห็นอยู่ย่านโบ๊เบ๊ สำเพ็ง จตุจักร กิจการของเขาเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม หลังผ่านพ้นวันปีใหม่ หลายผู้ประกอบการตระเตรียมสินค้าเกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์ตั้งโชว์แทนที่ พร้อมกอบโกยเงินทองเข้ากระเป๋า บางร้านเลือกตกแต่งบริเวณด้านหน้า และภายในร้าน ด้วยลูกโป่ง ริบบิ้น กระดาษสีสันสดใส ซึ่งส่วนใหญ่เน้นโทนสีแดง ชมพู สลับขาว โดดเด่น จากนั้นนำป้ายต้อนรับวันวาเลนไทน์มาติดประดับให้ผู้ผ่านไปผ่านมาพบเห็นง่ายสะดุดตา
บุกตลาดค้าส่ง
การค้าเริ่มคึกคัก
ช่วงต้นเดือนมกราคมของปี 2548 นี้ "เส้นทางเศรษฐี" เดินทางไปสำรวจย่านตลาดสำเพ็ง พบเห็นผู้ประกอบการต่างตื่นตัว นำสินค้าต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์มาจำหน่ายกันอย่างคึกคัก บางร้านมุ่งเน้นขายสินค้าชนิดนี้โดยตรง บางผู้ประกอบการขายสินค้าอื่นอยู่ก่อน ต่างจัดสรรพื้นที่บริเวณหน้าร้านบางส่วน เพื่อตั้งวางของขวัญ ของที่ระลึก สร้างรายได้อีกทางหนึ่ง
จากการสอบถามพูดคุยกับผู้ขาย ทราบว่าตลาดเริ่มคึกคัก ผู้ซื้อทยอยเดินทางมาจับจ่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ รับซื้อสินค้าจำนวนมาก เพื่อนำไปจำหน่ายอีกต่อหนึ่ง โดยรูปแบบการจัดจำหน่ายเน้นขายส่ง จำนวน 6 ชิ้นหรือหนึ่งโหลขึ้นไป แล้วแต่ขนาดและราคาสินค้า แต่ถ้าเป็นสินค้าประเภทพวงกุญแจ ของที่ระลึกชิ้นเล็กๆ จำหน่ายยกห่อ (100 ชิ้น) ราคาประมาณ 250 บาท
สินค้านำมาจัดจำหน่าย ส่วนใหญ่ประดิษฐ์เพื่อเอาใจคุณผู้หญิง โดยเฉพาะวัยรุ่น ออกแบบเป็นรูปหัวใจ ดอกกุหลาบ โดยวัสดุสำคัญ ผ้า กระดาษ กำมะหยี่ เป็นต้น และสินค้าหนึ่งยังคงพบเห็นประจำได้แก่ คำกลอนซึ้งๆ อันมีเนื้อหาสื่อถึงความรัก ความห่วงใย โดยใช้ปากกาสีสันสดใส ถ่ายทอดความรู้สึกลงบนกระดาษ แล้วประดับประดาด้วยเม็ดโฟมสีต่างๆ บรรจุลงในห่อพลาสติก สำหรับสีสันของสินค้า เน้นโทนแดง ชมพู ซึ่งผู้ขายบอกว่าสองสีนี้ยังคงเป็นที่นิยมแพร่หลายทุกปี
ลูกโป่ง ยังคงนิยมนำมาจำหน่าย แบบแฟนซี และแบบธรรมดา ราคาห่อละประมาณ 45 บาท ผู้ซื้อสามารถนำมาเป่าแล้วตกแต่งร้านของตน เพื่อเพิ่มความสดใส อีกทั้งสามารถนำมาจำหน่าย ด้วยการเพิ่มมูลค่าโดยจัดเป็นช่อ หรือเสียบด้วยก้านพลาสติกได้เช่นกัน
ผ่านพ้นเทศกาล
สินค้ายังขายได้
ผู้ประกอบการรายหนึ่ง เปิดร้านเล็กๆ รูปแบบง่ายๆ นำโต๊ะมาตั้งติดริมถนน จากนั้นจัดวางสินค้าประเภทของชำร่วย เล่าให้ฟังว่า ปกติขายสินค้าประเภทนี้อยู่แล้ว สามารถขายได้ทุกเทศกาล และยังเหมาะเป็นของชำร่วยในพิธีต่างๆ ด้วย โดยเฉพาะงานมงคลสมรส จึงไม่ต้องกังวลว่าสินค้าจะขายไม่ได้ ถึงแม้ล่วงเลยเทศกาลวันปีใหม่ หรือวาเลนไทน์แล้วก็ตาม สำหรับราคาสินค้ายังคงปกติ จะมีบางชนิดเท่านั้นอาจขยับตัวสูงขึ้นแต่ไม่มาก
พิจารณาการตั้งราคาจำหน่าย คาดว่าสำหรับผู้ประกอบการใดคิดลงทุนประกอบกิจการนี้ ผลกำไรอยู่ประมาณ 30-50 เปอร์เซ็นต์ จากต้นทุนราคาสินค้า ยังไม่รวมค่าเช่าพื้นที่ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อันเกี่ยวข้อง สำหรับผู้ประกอบการเลือกนำสินค้าประเภทนี้ไปจัดจำหน่าย แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ
หนึ่ง คือผู้ประกอบการซึ่งปัจจุบันจำหน่ายสินค้าของขวัญ ของชำร่วย ของที่ระลึกอยู่แล้ว หรือเรียกติดปากว่า สินค้ากิ๊ฟต์ช็อป และเมื่อถึงช่วงใกล้เทศกาลสำคัญอันส่งผลให้สินค้าเหล่านี้ขายได้ ก็นำสินค้ามาเพิ่มมูลค่า ด้วยการบรรจุ หรือติดข้อความอันเกี่ยวข้องกับเทศกาลนั้นๆ เช่น "Happy valentine day" หรือซื้อหาสินค้าตามตลาดใหญ่ๆ ดังยกตัวอย่างข้างต้น เลือกสินค้าเหมาะกับช่วงวันวาเลนไทน์ จะให้ดีควรหลากหลายชนิด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า สำหรับจำนวนสั่งซื้อนั้นพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายเดิมเป็นหลัก แต่ถ้ากิจการเปิดใหม่ เริ่มต้นไม่ควรลงทุนมากนัก ยกเว้นสินค้าดังกล่าวสามารถขายได้ทุกเทศกาล หรือทุกโอกาส
ลักษณะที่สอง ผู้ประกอบการขายสินค้าอื่นอยู่ แต่เพื่อตอบสนอง และเพิ่มยอดขาย ในช่วงวันเทศกาลสามารถนำสินค้าเกี่ยวเนื่องมาจำหน่าย โดยแบ่งพื้นที่สักส่วนหนึ่ง จัดตั้งสินค้า ข้อแนะนำคือ ควรจัดส่วนนั้นให้ดูดี และดึงดูดใจลูกค้า อาจมีสินค้าหลากหลาย แต่จำนวนไม่มากนัก คละกันไป เพราะถ้าสั่งซื้อสินค้ามากโอกาสเสี่ยงต่อสภาวะขาดทุนสูง แต่ถ้าสินค้านั้นจำหน่ายไม่หมด สามารถเก็บไว้ได้ เมื่อถึงเทศกาลเหมาะๆ อย่างวันปีใหม่ รับปริญญา นำออกมาปัดฝุ่นจำหน่ายต่อ ข้อควรระวังควรเก็บสินค้าให้อยู่ในสภาพใหม่อยู่เสมอ ทั้งเรื่องของสี และคุณภาพ
ลักษณะสุดท้าย ผู้ประกอบการขายสินค้าอื่นอยู่แล้ว แต่ในช่วงใกล้ถึงเทศกาล เปลี่ยนรูปแบบนำสินค้าประเภทดังกล่าวมาจำหน่ายแทนที่ ลักษณะนี้ต้องแนะนำว่าควรดูตลาด นั่นหมายถึงกลุ่มเป้าหมาย ต้องชัดเจน เลือกสินค้าโดนใจ เพราะบางร้านเปลี่ยนแล้วขายสินค้าได้ดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่บางรายล้มพับ เพราะทุนหาย กำไรก็หด
ทำเลเลือกให้ดี
มีหลายช่องทาง
ต่อมาเรื่องของทำเลเหมาะ กล่าวถึงทำเลแรกกันก่อน ในศูนย์การค้า นั่นหมายถึงผู้ประกอบการต้องมีเงินทุนมากพออยู่ในมือ เลือกสถานที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน โดยอาจเปิดร้านประจำ ขายสินค้าประเภทกิ๊ฟต์ช็อป เมื่อถึงช่วงใกล้วันวาเลนไทน์ หรือเทศกาลอื่นๆ นำสินค้าเกี่ยวข้องมาจำหน่าย บางห้างจัดงานแสดงสินค้า เพื่อเอาอกเอาใจผู้ซื้อ เป็นการเพิ่มสีสันให้กับห้างของตนในช่วงเวลาใกล้ถึงเทศกาล ถ้าผู้ประกอบการรายใดสนใจสามารถติดต่อขอเช่าพื้นที่ไว้ล่วงหน้าได้
ทำเลเหมาะอีกแห่งในตลาดนัดใหญ่ หรือตลาดนัดเล็กๆ กระทั่งริมฟุตบาท ดังจะเห็นในช่วงวันวาเลนไทน์หลายๆ ปีที่ผ่านมา ทั้งพ่อค้า แม่ขาย ต่างนำสินค้าประเภทนี้มาตั้งวางสร้างผลกำไรเข้ากระเป๋า ให้ดีควรตั้งอยู่ใกล้สถาบันการศึกษา เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของวันแห่งความรักนี้ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น แต่ถ้าผู้ประกอบการท่านใดต้องการขายสินค้าชนิดนี้อย่างต่อเนื่อง โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะกับเทศกาล ควรพิจารณาทำเลให้เหมาะอีกครั้ง
การตั้งราคาสินค้า หลักพิจารณาขึ้นอยู่กับต้นทุนสินค้า ค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้อง และจำนวนผู้ซื้อเป็นสำคัญ จากนั้นควรสำรวจตลาดข้างเคียงประกอบการตัดสินใจเปิดร้าน และอย่าลืมเรื่องของการบริการ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ
*คุณจิตรา เลิศอนันตพิพัฒน์ ผู้จัดการร้าน FORYOU FLORIST ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า บริเวณชั้น 3 ติดบันไดเลื่อนฝั่งอาคารสำนักงาน โดยเปิดดำเนินการให้บริการจัดกระเช้า ช่อของขวัญในวันเทศกาลต่างๆ มารวมระยะเวลา 8 ปี โดยสินค้ามีทั้งดอกไม้สด แห้ง ตุ๊กตา ช็อกโกแลต
"ช่วงเทศกาลสินค้าขายดีมาก และวันวาเลนไทน์ใกล้ถึงนี้ ทางร้านต้องเตรียมสั่งซื้อวัตถุดิบไว้ล่วงหน้าประมาณ 2-3 สัปดาห์ จากนั้นนำมาจัดให้เหมาะ เขียนข้อความ หรือแผ่นข้อความติดไว้ ซึ่งการตกแต่งสินค้าเน้นเอาใจวัยรุ่น เหมาะกับผู้หญิง แต่ถ้าลูกค้าท่านใดไม่พอใจกับสินค้าจัดไว้แล้ว จะให้ทางร้านจัดใหม่ยินดีบริการค่ะ" ทั้งนี้ คุณจิตรา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องจัดเตรียมสินค้าไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ลูกค้าได้เห็น และรู้จักร้านมากขึ้น ราว 2 สัปดาห์ ก่อนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ แต่สินค้าขายดีสองวันเท่านั้น คือ 13-14 กุมภาพันธ์ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักวัยรุ่น นักเรียน และนักศึกษา ส่วนสนนราคาจำหน่ายสินค้าประมาณ 100 กว่าบาทขึ้นไป
"ในสองวันลูกค้าจะเข้าร้านต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการกระทั่งถึงช่วงเย็น ลูกค้าวัยรุ่นหลายคนนิยมนำช็อกโกแลตจำนวน 12 ชิ้น ลักษณะลูกกลมๆ มาให้ทางร้านจัดช่อให้ โดยอาจจัดสลับกับดอกกุหลาบ หรือจัดเดี่ยวๆ ซึ่งทางร้านคิดค่าบริการประมาณ 60 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายและวัสดุนำมาใช้ บางคนพอใจกับสินค้าจัดไว้แล้ว มาถึงก็ซื้อทันที แต่จะเลือกสี ที่นิยมคือ แดง ชมพู ขาว ถือว่าฮิตมาก" ผู้จัดการร้าน FORYOU FLORIST กล่าว
คุณจิตรา ว่าช่วงวันวาเลนไทน์ ยอดขายเพิ่มมากกว่าปกติถึง 20 เท่า แต่ทั้งนี้หลักการตั้งราคาสินค้ายังคงเดิม เนื่องเพราะแหล่งรับซื้อวัตถุดิบไม่ขึ้นราคาสินค้า แต่ถ้าเป็นดอกกุหลาบสด รับรองว่าราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉลี่ยผลกำไรประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์
แหล่งซื้อวัตถุดิบหลักอยู่ในตลาดนัดสวนจตุจักร อาทิ ตุ๊กตาหมี ดอกไม้สดอบแห้ง นำมาจัดช่อ ด้วยกระดาษสี ผูกโบ ริบบิ้น ให้สวยงาม เพียงเท่านี้ก็เพิ่มมูลค่าสินค้าได้แล้ว ขอเพียงผู้ประกอบการมีความคิดสร้างสรรค์ ปรับเปลี่ยนสินค้าให้เหมาะกับยุคสมัย และกลุ่มเป้าหมายของตน
สินค้าประเภทหมอนรูปหัวใจยังคงเป็นที่นิยมเช่นกัน โดยทางร้านรับเขียนข้อความลงบนหมอนให้พร้อมเสร็จ ในราคาใบละ 250 บาท สำหรับลูกค้าท่านใด ต้องการเซอร์ไพรส์ผู้รับ ด้วยการส่งสินค้าถึงบ้าน ร้าน FORYOU FLORIST ยินดีโดยคิดอัตราค่าบริการตามระยะทาง "ที่ผ่านมาเคยส่งสินค้าไปไกลถึงพระประแดง ย่านนนทบุรีก็ไปมาแล้ว โดยช่องทางการจัดส่งสินค้านั้นมีทั้งจ้างมอเตอร์ไซค์ให้จัดส่งให้ แต่ถ้าสินค้านั้นๆ เสี่ยงต่อความเสียหาย จะเดินทางไปส่งสินค้าด้วยตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลูกค้าต่อว่าภายหลัง"
ถือว่าการประกอบอาชีพนี้เป็นอาชีพหนึ่งส่งผลให้ประสบความสำเร็จ มีรายได้เลี้ยงตนเองอย่างพอเพียง แถมได้เห็นความสุขของคนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งไม่ต้องกลัวว่าสินค้าเหลือ เนื่องจากนำมาตกแต่ง ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับเทศกาล หรือวันแห่งความสุขอื่นๆ ได้ตามวาระโอกาส
สนใจต้องการสั่งซื้อสินค้า หรือสอบถามข้อมูลติดต่อร้าน FORYOU FLORIST ได้ดังที่อยู่ข้างต้น หรือหมายเลขโทรศัพท์ (09) 484-7747, (09) 135-9632, (02) 865-7291 ที่มา:เส้นทางเศรษฐี
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
บุญเตือน ทองอยู่
ธุรกิจบอกรัก ผ่านของขวัญ แทนใจ ให้กัน ในวันวาเลนไทน์
ของขวัญ ของที่ระลึก ยังคงเหมาะให้กับทุกเทศกาล และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทั่วโลกต่างยอมรับว่าเป็นวันแห่งความรัก หรือ วาเลนไทน์ นอกจากดอกกุหลาบ ซึ่งถือเป็นสินค้ายอดฮิต นิยมนำมามอบให้กัน หลายคนมองหาสินค้าประเภทของขวัญแทนความรัก แทนความปรารถนาดี และความรู้สึก ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ต่างลงทุนควักกระเป๋านำเงินซื้อสินค้าต่างๆ เหล่านี้ไว้จัดจำหน่ายกันมากราย
แหล่งใหญ่ หรือเรียกว่าตลาดค้าส่งสินค้าของขวัญ ของที่ระลึก เห็นอยู่ย่านโบ๊เบ๊ สำเพ็ง จตุจักร กิจการของเขาเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม หลังผ่านพ้นวันปีใหม่ หลายผู้ประกอบการตระเตรียมสินค้าเกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์ตั้งโชว์แทนที่ พร้อมกอบโกยเงินทองเข้ากระเป๋า บางร้านเลือกตกแต่งบริเวณด้านหน้า และภายในร้าน ด้วยลูกโป่ง ริบบิ้น กระดาษสีสันสดใส ซึ่งส่วนใหญ่เน้นโทนสีแดง ชมพู สลับขาว โดดเด่น จากนั้นนำป้ายต้อนรับวันวาเลนไทน์มาติดประดับให้ผู้ผ่านไปผ่านมาพบเห็นง่ายสะดุดตา
บุกตลาดค้าส่ง
การค้าเริ่มคึกคัก
ช่วงต้นเดือนมกราคมของปี 2548 นี้ "เส้นทางเศรษฐี" เดินทางไปสำรวจย่านตลาดสำเพ็ง พบเห็นผู้ประกอบการต่างตื่นตัว นำสินค้าต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์มาจำหน่ายกันอย่างคึกคัก บางร้านมุ่งเน้นขายสินค้าชนิดนี้โดยตรง บางผู้ประกอบการขายสินค้าอื่นอยู่ก่อน ต่างจัดสรรพื้นที่บริเวณหน้าร้านบางส่วน เพื่อตั้งวางของขวัญ ของที่ระลึก สร้างรายได้อีกทางหนึ่ง
จากการสอบถามพูดคุยกับผู้ขาย ทราบว่าตลาดเริ่มคึกคัก ผู้ซื้อทยอยเดินทางมาจับจ่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ รับซื้อสินค้าจำนวนมาก เพื่อนำไปจำหน่ายอีกต่อหนึ่ง โดยรูปแบบการจัดจำหน่ายเน้นขายส่ง จำนวน 6 ชิ้นหรือหนึ่งโหลขึ้นไป แล้วแต่ขนาดและราคาสินค้า แต่ถ้าเป็นสินค้าประเภทพวงกุญแจ ของที่ระลึกชิ้นเล็กๆ จำหน่ายยกห่อ (100 ชิ้น) ราคาประมาณ 250 บาท
สินค้านำมาจัดจำหน่าย ส่วนใหญ่ประดิษฐ์เพื่อเอาใจคุณผู้หญิง โดยเฉพาะวัยรุ่น ออกแบบเป็นรูปหัวใจ ดอกกุหลาบ โดยวัสดุสำคัญ ผ้า กระดาษ กำมะหยี่ เป็นต้น และสินค้าหนึ่งยังคงพบเห็นประจำได้แก่ คำกลอนซึ้งๆ อันมีเนื้อหาสื่อถึงความรัก ความห่วงใย โดยใช้ปากกาสีสันสดใส ถ่ายทอดความรู้สึกลงบนกระดาษ แล้วประดับประดาด้วยเม็ดโฟมสีต่างๆ บรรจุลงในห่อพลาสติก สำหรับสีสันของสินค้า เน้นโทนแดง ชมพู ซึ่งผู้ขายบอกว่าสองสีนี้ยังคงเป็นที่นิยมแพร่หลายทุกปี
ลูกโป่ง ยังคงนิยมนำมาจำหน่าย แบบแฟนซี และแบบธรรมดา ราคาห่อละประมาณ 45 บาท ผู้ซื้อสามารถนำมาเป่าแล้วตกแต่งร้านของตน เพื่อเพิ่มความสดใส อีกทั้งสามารถนำมาจำหน่าย ด้วยการเพิ่มมูลค่าโดยจัดเป็นช่อ หรือเสียบด้วยก้านพลาสติกได้เช่นกัน
ผ่านพ้นเทศกาล
สินค้ายังขายได้
ผู้ประกอบการรายหนึ่ง เปิดร้านเล็กๆ รูปแบบง่ายๆ นำโต๊ะมาตั้งติดริมถนน จากนั้นจัดวางสินค้าประเภทของชำร่วย เล่าให้ฟังว่า ปกติขายสินค้าประเภทนี้อยู่แล้ว สามารถขายได้ทุกเทศกาล และยังเหมาะเป็นของชำร่วยในพิธีต่างๆ ด้วย โดยเฉพาะงานมงคลสมรส จึงไม่ต้องกังวลว่าสินค้าจะขายไม่ได้ ถึงแม้ล่วงเลยเทศกาลวันปีใหม่ หรือวาเลนไทน์แล้วก็ตาม สำหรับราคาสินค้ายังคงปกติ จะมีบางชนิดเท่านั้นอาจขยับตัวสูงขึ้นแต่ไม่มาก
พิจารณาการตั้งราคาจำหน่าย คาดว่าสำหรับผู้ประกอบการใดคิดลงทุนประกอบกิจการนี้ ผลกำไรอยู่ประมาณ 30-50 เปอร์เซ็นต์ จากต้นทุนราคาสินค้า ยังไม่รวมค่าเช่าพื้นที่ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อันเกี่ยวข้อง สำหรับผู้ประกอบการเลือกนำสินค้าประเภทนี้ไปจัดจำหน่าย แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ
หนึ่ง คือผู้ประกอบการซึ่งปัจจุบันจำหน่ายสินค้าของขวัญ ของชำร่วย ของที่ระลึกอยู่แล้ว หรือเรียกติดปากว่า สินค้ากิ๊ฟต์ช็อป และเมื่อถึงช่วงใกล้เทศกาลสำคัญอันส่งผลให้สินค้าเหล่านี้ขายได้ ก็นำสินค้ามาเพิ่มมูลค่า ด้วยการบรรจุ หรือติดข้อความอันเกี่ยวข้องกับเทศกาลนั้นๆ เช่น "Happy valentine day" หรือซื้อหาสินค้าตามตลาดใหญ่ๆ ดังยกตัวอย่างข้างต้น เลือกสินค้าเหมาะกับช่วงวันวาเลนไทน์ จะให้ดีควรหลากหลายชนิด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า สำหรับจำนวนสั่งซื้อนั้นพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายเดิมเป็นหลัก แต่ถ้ากิจการเปิดใหม่ เริ่มต้นไม่ควรลงทุนมากนัก ยกเว้นสินค้าดังกล่าวสามารถขายได้ทุกเทศกาล หรือทุกโอกาส
ลักษณะที่สอง ผู้ประกอบการขายสินค้าอื่นอยู่ แต่เพื่อตอบสนอง และเพิ่มยอดขาย ในช่วงวันเทศกาลสามารถนำสินค้าเกี่ยวเนื่องมาจำหน่าย โดยแบ่งพื้นที่สักส่วนหนึ่ง จัดตั้งสินค้า ข้อแนะนำคือ ควรจัดส่วนนั้นให้ดูดี และดึงดูดใจลูกค้า อาจมีสินค้าหลากหลาย แต่จำนวนไม่มากนัก คละกันไป เพราะถ้าสั่งซื้อสินค้ามากโอกาสเสี่ยงต่อสภาวะขาดทุนสูง แต่ถ้าสินค้านั้นจำหน่ายไม่หมด สามารถเก็บไว้ได้ เมื่อถึงเทศกาลเหมาะๆ อย่างวันปีใหม่ รับปริญญา นำออกมาปัดฝุ่นจำหน่ายต่อ ข้อควรระวังควรเก็บสินค้าให้อยู่ในสภาพใหม่อยู่เสมอ ทั้งเรื่องของสี และคุณภาพ
ลักษณะสุดท้าย ผู้ประกอบการขายสินค้าอื่นอยู่แล้ว แต่ในช่วงใกล้ถึงเทศกาล เปลี่ยนรูปแบบนำสินค้าประเภทดังกล่าวมาจำหน่ายแทนที่ ลักษณะนี้ต้องแนะนำว่าควรดูตลาด นั่นหมายถึงกลุ่มเป้าหมาย ต้องชัดเจน เลือกสินค้าโดนใจ เพราะบางร้านเปลี่ยนแล้วขายสินค้าได้ดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่บางรายล้มพับ เพราะทุนหาย กำไรก็หด
ทำเลเลือกให้ดี
มีหลายช่องทาง
ต่อมาเรื่องของทำเลเหมาะ กล่าวถึงทำเลแรกกันก่อน ในศูนย์การค้า นั่นหมายถึงผู้ประกอบการต้องมีเงินทุนมากพออยู่ในมือ เลือกสถานที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน โดยอาจเปิดร้านประจำ ขายสินค้าประเภทกิ๊ฟต์ช็อป เมื่อถึงช่วงใกล้วันวาเลนไทน์ หรือเทศกาลอื่นๆ นำสินค้าเกี่ยวข้องมาจำหน่าย บางห้างจัดงานแสดงสินค้า เพื่อเอาอกเอาใจผู้ซื้อ เป็นการเพิ่มสีสันให้กับห้างของตนในช่วงเวลาใกล้ถึงเทศกาล ถ้าผู้ประกอบการรายใดสนใจสามารถติดต่อขอเช่าพื้นที่ไว้ล่วงหน้าได้
ทำเลเหมาะอีกแห่งในตลาดนัดใหญ่ หรือตลาดนัดเล็กๆ กระทั่งริมฟุตบาท ดังจะเห็นในช่วงวันวาเลนไทน์หลายๆ ปีที่ผ่านมา ทั้งพ่อค้า แม่ขาย ต่างนำสินค้าประเภทนี้มาตั้งวางสร้างผลกำไรเข้ากระเป๋า ให้ดีควรตั้งอยู่ใกล้สถาบันการศึกษา เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของวันแห่งความรักนี้ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น แต่ถ้าผู้ประกอบการท่านใดต้องการขายสินค้าชนิดนี้อย่างต่อเนื่อง โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะกับเทศกาล ควรพิจารณาทำเลให้เหมาะอีกครั้ง
การตั้งราคาสินค้า หลักพิจารณาขึ้นอยู่กับต้นทุนสินค้า ค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้อง และจำนวนผู้ซื้อเป็นสำคัญ จากนั้นควรสำรวจตลาดข้างเคียงประกอบการตัดสินใจเปิดร้าน และอย่าลืมเรื่องของการบริการ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ
*คุณจิตรา เลิศอนันตพิพัฒน์ ผู้จัดการร้าน FORYOU FLORIST ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า บริเวณชั้น 3 ติดบันไดเลื่อนฝั่งอาคารสำนักงาน โดยเปิดดำเนินการให้บริการจัดกระเช้า ช่อของขวัญในวันเทศกาลต่างๆ มารวมระยะเวลา 8 ปี โดยสินค้ามีทั้งดอกไม้สด แห้ง ตุ๊กตา ช็อกโกแลต
"ช่วงเทศกาลสินค้าขายดีมาก และวันวาเลนไทน์ใกล้ถึงนี้ ทางร้านต้องเตรียมสั่งซื้อวัตถุดิบไว้ล่วงหน้าประมาณ 2-3 สัปดาห์ จากนั้นนำมาจัดให้เหมาะ เขียนข้อความ หรือแผ่นข้อความติดไว้ ซึ่งการตกแต่งสินค้าเน้นเอาใจวัยรุ่น เหมาะกับผู้หญิง แต่ถ้าลูกค้าท่านใดไม่พอใจกับสินค้าจัดไว้แล้ว จะให้ทางร้านจัดใหม่ยินดีบริการค่ะ" ทั้งนี้ คุณจิตรา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องจัดเตรียมสินค้าไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ลูกค้าได้เห็น และรู้จักร้านมากขึ้น ราว 2 สัปดาห์ ก่อนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ แต่สินค้าขายดีสองวันเท่านั้น คือ 13-14 กุมภาพันธ์ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักวัยรุ่น นักเรียน และนักศึกษา ส่วนสนนราคาจำหน่ายสินค้าประมาณ 100 กว่าบาทขึ้นไป
"ในสองวันลูกค้าจะเข้าร้านต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการกระทั่งถึงช่วงเย็น ลูกค้าวัยรุ่นหลายคนนิยมนำช็อกโกแลตจำนวน 12 ชิ้น ลักษณะลูกกลมๆ มาให้ทางร้านจัดช่อให้ โดยอาจจัดสลับกับดอกกุหลาบ หรือจัดเดี่ยวๆ ซึ่งทางร้านคิดค่าบริการประมาณ 60 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายและวัสดุนำมาใช้ บางคนพอใจกับสินค้าจัดไว้แล้ว มาถึงก็ซื้อทันที แต่จะเลือกสี ที่นิยมคือ แดง ชมพู ขาว ถือว่าฮิตมาก" ผู้จัดการร้าน FORYOU FLORIST กล่าว
คุณจิตรา ว่าช่วงวันวาเลนไทน์ ยอดขายเพิ่มมากกว่าปกติถึง 20 เท่า แต่ทั้งนี้หลักการตั้งราคาสินค้ายังคงเดิม เนื่องเพราะแหล่งรับซื้อวัตถุดิบไม่ขึ้นราคาสินค้า แต่ถ้าเป็นดอกกุหลาบสด รับรองว่าราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉลี่ยผลกำไรประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์
แหล่งซื้อวัตถุดิบหลักอยู่ในตลาดนัดสวนจตุจักร อาทิ ตุ๊กตาหมี ดอกไม้สดอบแห้ง นำมาจัดช่อ ด้วยกระดาษสี ผูกโบ ริบบิ้น ให้สวยงาม เพียงเท่านี้ก็เพิ่มมูลค่าสินค้าได้แล้ว ขอเพียงผู้ประกอบการมีความคิดสร้างสรรค์ ปรับเปลี่ยนสินค้าให้เหมาะกับยุคสมัย และกลุ่มเป้าหมายของตน
สินค้าประเภทหมอนรูปหัวใจยังคงเป็นที่นิยมเช่นกัน โดยทางร้านรับเขียนข้อความลงบนหมอนให้พร้อมเสร็จ ในราคาใบละ 250 บาท สำหรับลูกค้าท่านใด ต้องการเซอร์ไพรส์ผู้รับ ด้วยการส่งสินค้าถึงบ้าน ร้าน FORYOU FLORIST ยินดีโดยคิดอัตราค่าบริการตามระยะทาง "ที่ผ่านมาเคยส่งสินค้าไปไกลถึงพระประแดง ย่านนนทบุรีก็ไปมาแล้ว โดยช่องทางการจัดส่งสินค้านั้นมีทั้งจ้างมอเตอร์ไซค์ให้จัดส่งให้ แต่ถ้าสินค้านั้นๆ เสี่ยงต่อความเสียหาย จะเดินทางไปส่งสินค้าด้วยตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลูกค้าต่อว่าภายหลัง"
ถือว่าการประกอบอาชีพนี้เป็นอาชีพหนึ่งส่งผลให้ประสบความสำเร็จ มีรายได้เลี้ยงตนเองอย่างพอเพียง แถมได้เห็นความสุขของคนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งไม่ต้องกลัวว่าสินค้าเหลือ เนื่องจากนำมาตกแต่ง ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับเทศกาล หรือวันแห่งความสุขอื่นๆ ได้ตามวาระโอกาส
สนใจต้องการสั่งซื้อสินค้า หรือสอบถามข้อมูลติดต่อร้าน FORYOU FLORIST ได้ดังที่อยู่ข้างต้น หรือหมายเลขโทรศัพท์ (09) 484-7747, (09) 135-9632, (02) 865-7291 ที่มา:เส้นทางเศรษฐี
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-