วันนี้ (3 ก.ย.49) จากกรณีที่นักวิชาการ แพทย์รวม 90 กว่าคน จาก 40 กว่ากลุ่มออกแถลงการณ์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรียุติบทบาททางการเมืองเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.49) นั้น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่บุคคลระดับมันสมองของประเทศซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยหรือคนในแวดวงวิชาการออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองในประเทศประชาธิปไตยถือว่าเป็นเรื่องของการส่งสัญญาณไปถึงผู้นำประเทศอย่างมีคุณภาพ ซึ่งถ้าผู้นำประเทศนั้นเป็นผู้นำที่มีคุณภาพจะต้องรับฟังเสียงต่างๆเหล่านี้ด้วยใจเป็นธรรม เพราะเสียงเหล่านี้เป็นเสียงที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเป็นเสียงของคนที่คิดถึงประโยชน์ของประชาชนประเทศชาติเป็นสำคัญ
“ผมคิดว่า นี่คือสัญญาณอันตรายอีกสัญญาณหนึ่ง ไปถึงผู้นำประเทศและแน่นอนที่สุดผู้นำประเทศในระบอบประชาธิปไตยนอกจากจะต้องฟังเสียงเหล่านี้จะต้องไปใคร่ครวญ ตรึกตรองและเพื่อต้องการให้ประเทศชาติอยู่รอด ควรที่จะปฏิบัติตามคนที่เป็นระดับมันสมองของอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายองอาจกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลควรที่จะเลิกเอาจำนวนปริมาณเสียงการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในการที่จะกล่าวอ้างหาความชอบธรรมที่จะอยู่ในตำแหน่งเพราะการมีเสียงจำนวนมากจากการเลือกตั้งซึ่งชอบด้วยกฎหมายนั้นถือว่าชอบด้วยกฎหมายแล้วต้องอยู่ด้วยความชอบธรรมด้วย เมื่อใดก็ตามที่ผู้นำขาดความชอบธรรมก็ยากที่จะบริหารประเทศชาติบ้านเมืองได้อย่างตลอดรอดฝั่ง ดังนั้นจึงอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณรับฟังเสียงเหล่านี้ด้วย
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหาที่เกิดจากรักษาการนายกฯ 2 ปัญหาใหญ่ๆ ดังนี้ 1.คนในประเทศไม่มีความเชื่อมั่นในตัวผู้นำประเทศ ยกตัวอย่างกรณีคาร์บอม สมมติว่าหากเป็นเรื่องจริงแล้ว จะกลายเป็นเรื่องที่น่าวิตกว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น และเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดำเนินการติดตามหาข้อเท็จจริง และจะแสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่มีความเชื่อในใจตัวรักษาการนายกฯ
2.มีความแตกแยกไปทั่วทุกที่ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวงการข้าราชการ ประชาชน และทหารทำให้ปัญหาทั้ง 2 เรื่องเป็นปัญหาของผู้นำ ผมอยากเรียกร้องว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศด้วย พ.ต.ท.ทักษิณ ควรตรึกตรองและคิดให้รอบคอบว่า ควรที่จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ประเทศมีวิกฤต 2 ด้านใหญ่ๆ” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนความคืบหน้าที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งทำป้ายโฆษณาบัตรเครดิต โดยใช้ตัวอักษรคล้ายป้ายหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า 2 — 3 วันที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากส่งข้อมูลมาว่า มีบริษัทเอกชนดำเนินการติดแผนปลิวใช้ข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเป็นการใช้สีฟ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และใช้ชื่อนายอภิสิทธิ์ ตามด้วยข้อความที่คล้ายกับข้อความทางการเมืองซึ่งอาจทำให้ประชาชนทั่วไปมีความเข้าใจผิดว่า แผ่นปลิวเกิดจากการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งป้ายนี้ถูกนำไปติดในสถานที่ที่ดูไม่สะอาดตาเช่น ป้ายรถเมล์ บ้านคนทั่วไป สถานที่ติดก็ดูเป็นการไม่สมควร นั้น
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสาธิต กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอชี้แจงว่าแผ่นปลิวใบปลิวต่างๆไม่ใช่ของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นผู้จัดทำขึ้น และในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จัดทำและหากผู้ที่จัดทำใบปลิวนี้แป็นเอกชนรายเดียวกับที่เป็นข่าวทำบิลบอร์ดไปก่อนหน้านี้คือบริษัทสยามธุรกิจก็ขอให้บริษัทดังกล่าวติดต่อมาที่พรรคประชาธิปัตย์โดยเร็วเพื่อที่จะได้มีการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว
“หากพบว่าผู้ใดกระทำสิ่งเหล่านี้ทางพรคประชาธิปัตย์ก็ขอให้ยุติการกระทำเหล่านี้เสีย ที่สำคัญที่สุดก็คือว่า วิธีการและสัญลักษณ์นั้นไปตรงกับพรรคประชาธิปัตย์ และขอให้ยุติการดำเนินการต่างๆเหล่านี้” นายสาธิตกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ก.ย. 2549--จบ--
“ผมคิดว่า นี่คือสัญญาณอันตรายอีกสัญญาณหนึ่ง ไปถึงผู้นำประเทศและแน่นอนที่สุดผู้นำประเทศในระบอบประชาธิปไตยนอกจากจะต้องฟังเสียงเหล่านี้จะต้องไปใคร่ครวญ ตรึกตรองและเพื่อต้องการให้ประเทศชาติอยู่รอด ควรที่จะปฏิบัติตามคนที่เป็นระดับมันสมองของอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายองอาจกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลควรที่จะเลิกเอาจำนวนปริมาณเสียงการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในการที่จะกล่าวอ้างหาความชอบธรรมที่จะอยู่ในตำแหน่งเพราะการมีเสียงจำนวนมากจากการเลือกตั้งซึ่งชอบด้วยกฎหมายนั้นถือว่าชอบด้วยกฎหมายแล้วต้องอยู่ด้วยความชอบธรรมด้วย เมื่อใดก็ตามที่ผู้นำขาดความชอบธรรมก็ยากที่จะบริหารประเทศชาติบ้านเมืองได้อย่างตลอดรอดฝั่ง ดังนั้นจึงอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณรับฟังเสียงเหล่านี้ด้วย
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหาที่เกิดจากรักษาการนายกฯ 2 ปัญหาใหญ่ๆ ดังนี้ 1.คนในประเทศไม่มีความเชื่อมั่นในตัวผู้นำประเทศ ยกตัวอย่างกรณีคาร์บอม สมมติว่าหากเป็นเรื่องจริงแล้ว จะกลายเป็นเรื่องที่น่าวิตกว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น และเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดำเนินการติดตามหาข้อเท็จจริง และจะแสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่มีความเชื่อในใจตัวรักษาการนายกฯ
2.มีความแตกแยกไปทั่วทุกที่ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวงการข้าราชการ ประชาชน และทหารทำให้ปัญหาทั้ง 2 เรื่องเป็นปัญหาของผู้นำ ผมอยากเรียกร้องว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศด้วย พ.ต.ท.ทักษิณ ควรตรึกตรองและคิดให้รอบคอบว่า ควรที่จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ประเทศมีวิกฤต 2 ด้านใหญ่ๆ” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนความคืบหน้าที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งทำป้ายโฆษณาบัตรเครดิต โดยใช้ตัวอักษรคล้ายป้ายหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า 2 — 3 วันที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากส่งข้อมูลมาว่า มีบริษัทเอกชนดำเนินการติดแผนปลิวใช้ข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเป็นการใช้สีฟ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และใช้ชื่อนายอภิสิทธิ์ ตามด้วยข้อความที่คล้ายกับข้อความทางการเมืองซึ่งอาจทำให้ประชาชนทั่วไปมีความเข้าใจผิดว่า แผ่นปลิวเกิดจากการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งป้ายนี้ถูกนำไปติดในสถานที่ที่ดูไม่สะอาดตาเช่น ป้ายรถเมล์ บ้านคนทั่วไป สถานที่ติดก็ดูเป็นการไม่สมควร นั้น
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสาธิต กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอชี้แจงว่าแผ่นปลิวใบปลิวต่างๆไม่ใช่ของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นผู้จัดทำขึ้น และในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จัดทำและหากผู้ที่จัดทำใบปลิวนี้แป็นเอกชนรายเดียวกับที่เป็นข่าวทำบิลบอร์ดไปก่อนหน้านี้คือบริษัทสยามธุรกิจก็ขอให้บริษัทดังกล่าวติดต่อมาที่พรรคประชาธิปัตย์โดยเร็วเพื่อที่จะได้มีการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว
“หากพบว่าผู้ใดกระทำสิ่งเหล่านี้ทางพรคประชาธิปัตย์ก็ขอให้ยุติการกระทำเหล่านี้เสีย ที่สำคัญที่สุดก็คือว่า วิธีการและสัญลักษณ์นั้นไปตรงกับพรรคประชาธิปัตย์ และขอให้ยุติการดำเนินการต่างๆเหล่านี้” นายสาธิตกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ก.ย. 2549--จบ--