กรุงเทพ--27 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
1. นาย ออสการ์ มาอูรตุอา เด โรมาญา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรู และคณะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2549 ตามคำเชิญของนายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยในระหว่างเยือนเปรูอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2548 การเยือนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และความร่วมมือระหว่างไทยและเปรู และเพื่อฉลองการครบรอบ 40 ปีของสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตของ ทั้งสองประเทศ
2. ในระหว่างการเยือน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูได้เข้าเยี่ยมคารวะนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นต่างๆ เกี่ยวข้องกับสหประชาชาติ
3. ในการหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งไทยและเปรู ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ของความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยได้แสดงความยินดีที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ซึ่งสะท้อนจากกิจกรรมความร่วมมือต่างๆ และการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองได้ชื่นชมผลการเยือนไทยของนาง Eliane Karp de Toledo ภริยาประธานาธิบดีเปรู ซึ่งนำมาซึ่งความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมที่แน่นแฟ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์และกิจกรรมวัฒนธรรมต่างๆ ระหว่างกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายตระหนักร่วมกันว่า การเยือนเปรูอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยในเดือนตุลาคม 2548 ได้นำมาซึ่งผลการดำเนินกิจกรรมทวิภาคีในเชิงรูปธรรมหลายประการ
4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองเห็นร่วมกันว่า การลงนามในพิธีสารเพื่อเร่งเปิด เสรีและอำนวยความสะดวกทางการค้าภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีไทย-เปรู (Early Harvest) ในระหว่างการประชุมสุดยอดเอเปคในเดือนพฤศจิกายน 2548 เป็นก้าวสำคัญในการนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และได้แสดงความหวังว่า รัฐบาลของทั้งสองประเทศจะสามารถให้สัตยาบันในพิธีสารดังกล่าวได้ภายในเดือนมิถุนายน 2549 ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำที่จะดำเนินการร่วมกันเพื่อให้บรรลุความตกลงการค้าเสรีภายในปี 2549 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองยังได้เน้นถึงความสำคัญที่ประเทศทั้งสองจะสามารถเป็นประตูไปสู่ภูมิภาคของกันและกัน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำความสำคัญที่จะดำเนินการร่วมกันเพื่อพัฒนาแนวคิดและข้อเสนอต่างๆ ที่จะนำไปสู่การเป็น“ศูนย์กลาง” ของกันและกัน เพื่อเป็นกลไกในการเข้าถึงตลาดใหม่ในอเมริกาใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
5. เพื่อย้ำถึงพันธะในการส่งเสริมการค้าทวิภาคี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองเห็นชอบที่จะผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างภาคเอกชนและคณะผู้แทนการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น เพื่อติดตามและอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ย้ำคำเชิญให้คณะนักธุรกิจเปรูเดินทางเยือนไทยเพื่อกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพ ได้แก่ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมเกษตร การผลิตอาหาร แฟชั่น อาหารประจำชาติ สินค้าเพื่อการบริโภค และพลังงาน ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือในด้านพลังงานทางเลือก โดยคำนึงถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ในการนี้ ฝ่ายไทยได้เชิญเปรูเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในกรอบเวทีความร่วมมือระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา ครั้งที่ 4 และการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านพลังงานทางเลือกในเดือนมิถุนายน 2549 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ภูมิภาคทั้งสองแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ และพัฒนาความร่วมมือในด้านพลังงานทางเลือกให้มีความแน่นแฟ้นต่อไป
6. เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกข้าวไทยไปเปรู รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศเปรูแจ้งว่า เปรูจะเร่งการแก้ไขการประกาศมาตรการสุขอนามัยในการนำเข้าข้าวของตนต่อองค์การการค้าโลก
7. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองพอใจในการลงนามในการจัดทำความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการติดต่อระหว่างประชาชน และขยายการค้าระหว่างกัน
8. ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง Peruvian International Cooperation Agency (APCI) และสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ (สพร.) และตกลงที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือทางวิชาการผ่านการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ และทุนการศึกษา รวมทั้งการจัดการสัมมนาในสาขาที่สนใจร่วมกัน ทั้งนี้ ฝ่ายเปรูได้ขอบคุณที่ สพร. ได้เสนอให้ทุนฝึกอบรมระยะสั้นจำนวน 2 ทุนแก่เปรูในสาขาการท่องเที่ยว และการจัดการด้านโรงแรมในไทย
9. ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างวิทยาลัยดุสิตธานีกับสถาบัน “Le Cordon Bleu” ของเปรู เพื่อเผยแพร่อาหารประจำชาติของประเทศทั้งสอง สำหรับประเทศไทยนั้น การจัดทำบันทึกความเข้าใจดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น “ครัวของโลก” ซึ่งจะทำให้อาหารทั้งของไทยและเปรูเป็นที่รู้จักของประชาชนในทั้งสองประเทศมากขึ้น ซึ่งจะส่วนช่วยให้มีการขยายกิจการร้านอาหารของกันและกันในประเทศทั้งสองในอนาคต
10. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองตกลงที่จะเร่งให้มีการเจรจาในการจัดทำความตกลงและบันทึกความเข้าใจต่างๆ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา เพื่อให้บรรลุข้อตกลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
11. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูชื่นชมการตัดสินใจของไทยในการเปิดสถานเอกอัครราชทูตในกรุงลิมาในปีหน้า ซึ่งฝ่ายไทยแจ้งว่า จะเริ่มขั้นตอนทางราชการในช่วงต้นปีงบประมาณ 2550
12. ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นพหุภาคี และแสดงเจตนารมย์ที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เช่น การประชุม FEALAC เอเปค และสหประชาชาติ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำพันธะที่จะปฏิรูปสหประชาชาติในประเด็นที่สำคัญและสร้างสรรค์ และเห็นพ้องกันว่า การปฏิรูปสหประชาชาติควรมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งในด้านสันติภาพ ความมั่นคง การพัฒนา และการขจัดปัญหาความยกจน ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้แสดงความยินดีที่เปรูได้รับเลือกตั้งเป็นให้สมาชิกประเภทไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระหว่างปี 2549-2550 และเชื่อว่าเปรูจะสามารถแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ในช่วงรับตำแหน่ง ฝ่ายไทยยังได้แจ้งให้ฝ่ายเปรูทราบถึงความคืบหน้าของการรณรงค์ของประชาคมอาเซียนต่อการสมัครชิงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของไทย และหวังว่าเปรูจะให้ความสนับสนุนผู้สมัครของไทยในตำแหน่งดังกล่าว
13. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยเข้าร่วมในการสัมมนานานาชาติระดับรัฐมนตรีในหัวข้อ “Special International Conference of Developing Countries with Substantial International Migrant Flow” ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงลิมาในเดือนพฤษภาคม 2549
14. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูแจ้งด้วยว่า ขณะนี้เปรูกำลังประสานกับประชาคมแอนเดียนเพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยเข้าร่วมประชุมคณะมนตรีต่างประเทศของประชาคมแอนเดียนในปี 2549 ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า จะเป็นโอกาสดีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยจะพบและหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิกแอนเดียน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับประชาคมแอนเดียน รัฐมนตรีทั้งสองยังได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมให้มีการหารือและการกระชับความร่วมมือระหว่างประชาคมแอนเดียนในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองภูมิภาคทั้งสอง
15. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองเพื่อฉลองการครบรอบ 40 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ซึ่งได้มีการแสดงดนตรีพื้นเมืองของเปรูในงานด้วย นอกจากนั้น ได้เห็นพ้องให้มีการแลกเปลี่ยนด้านศิลปะและการแสดงทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมความเข้าใจของกันและกันและการติดต่อระหว่างประชาชนต่อประชาชนให้มากขึ้น พร้อมทั้งแสดงความยินดีที่ทั้งสองจะจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกร่วมกันทั้งภาษาไทยและภาษสเปน ตามข้อเสนอของไทย ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยาวนานระหว่างประเทศไทยและเปรู
16. รัฐมนนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูได้ขอบคุณรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยที่ให้การต้อนรับตนและคณะอย่างอบอุ่น พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองยินดีที่การเยือนประสบผลสำเร็จ และย้ำถึงพันธะที่จะรักษาระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทยและเปรู
นายกันตธีร์ ศุภมงคล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
แห่งราชอาณาจักรไทย
เอกอัครราชทูตออสการ์ มาอูรตุอา เด โรมาญา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
แห่งสาธารณรัฐเปรู
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
1. นาย ออสการ์ มาอูรตุอา เด โรมาญา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรู และคณะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2549 ตามคำเชิญของนายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยในระหว่างเยือนเปรูอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2548 การเยือนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และความร่วมมือระหว่างไทยและเปรู และเพื่อฉลองการครบรอบ 40 ปีของสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตของ ทั้งสองประเทศ
2. ในระหว่างการเยือน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูได้เข้าเยี่ยมคารวะนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นต่างๆ เกี่ยวข้องกับสหประชาชาติ
3. ในการหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งไทยและเปรู ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ของความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยได้แสดงความยินดีที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ซึ่งสะท้อนจากกิจกรรมความร่วมมือต่างๆ และการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองได้ชื่นชมผลการเยือนไทยของนาง Eliane Karp de Toledo ภริยาประธานาธิบดีเปรู ซึ่งนำมาซึ่งความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมที่แน่นแฟ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์และกิจกรรมวัฒนธรรมต่างๆ ระหว่างกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายตระหนักร่วมกันว่า การเยือนเปรูอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยในเดือนตุลาคม 2548 ได้นำมาซึ่งผลการดำเนินกิจกรรมทวิภาคีในเชิงรูปธรรมหลายประการ
4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองเห็นร่วมกันว่า การลงนามในพิธีสารเพื่อเร่งเปิด เสรีและอำนวยความสะดวกทางการค้าภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีไทย-เปรู (Early Harvest) ในระหว่างการประชุมสุดยอดเอเปคในเดือนพฤศจิกายน 2548 เป็นก้าวสำคัญในการนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และได้แสดงความหวังว่า รัฐบาลของทั้งสองประเทศจะสามารถให้สัตยาบันในพิธีสารดังกล่าวได้ภายในเดือนมิถุนายน 2549 ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำที่จะดำเนินการร่วมกันเพื่อให้บรรลุความตกลงการค้าเสรีภายในปี 2549 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองยังได้เน้นถึงความสำคัญที่ประเทศทั้งสองจะสามารถเป็นประตูไปสู่ภูมิภาคของกันและกัน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำความสำคัญที่จะดำเนินการร่วมกันเพื่อพัฒนาแนวคิดและข้อเสนอต่างๆ ที่จะนำไปสู่การเป็น“ศูนย์กลาง” ของกันและกัน เพื่อเป็นกลไกในการเข้าถึงตลาดใหม่ในอเมริกาใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
5. เพื่อย้ำถึงพันธะในการส่งเสริมการค้าทวิภาคี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองเห็นชอบที่จะผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างภาคเอกชนและคณะผู้แทนการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น เพื่อติดตามและอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ย้ำคำเชิญให้คณะนักธุรกิจเปรูเดินทางเยือนไทยเพื่อกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพ ได้แก่ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมเกษตร การผลิตอาหาร แฟชั่น อาหารประจำชาติ สินค้าเพื่อการบริโภค และพลังงาน ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือในด้านพลังงานทางเลือก โดยคำนึงถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ในการนี้ ฝ่ายไทยได้เชิญเปรูเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในกรอบเวทีความร่วมมือระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา ครั้งที่ 4 และการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านพลังงานทางเลือกในเดือนมิถุนายน 2549 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ภูมิภาคทั้งสองแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ และพัฒนาความร่วมมือในด้านพลังงานทางเลือกให้มีความแน่นแฟ้นต่อไป
6. เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกข้าวไทยไปเปรู รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศเปรูแจ้งว่า เปรูจะเร่งการแก้ไขการประกาศมาตรการสุขอนามัยในการนำเข้าข้าวของตนต่อองค์การการค้าโลก
7. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองพอใจในการลงนามในการจัดทำความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการติดต่อระหว่างประชาชน และขยายการค้าระหว่างกัน
8. ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง Peruvian International Cooperation Agency (APCI) และสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ (สพร.) และตกลงที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือทางวิชาการผ่านการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ และทุนการศึกษา รวมทั้งการจัดการสัมมนาในสาขาที่สนใจร่วมกัน ทั้งนี้ ฝ่ายเปรูได้ขอบคุณที่ สพร. ได้เสนอให้ทุนฝึกอบรมระยะสั้นจำนวน 2 ทุนแก่เปรูในสาขาการท่องเที่ยว และการจัดการด้านโรงแรมในไทย
9. ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างวิทยาลัยดุสิตธานีกับสถาบัน “Le Cordon Bleu” ของเปรู เพื่อเผยแพร่อาหารประจำชาติของประเทศทั้งสอง สำหรับประเทศไทยนั้น การจัดทำบันทึกความเข้าใจดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น “ครัวของโลก” ซึ่งจะทำให้อาหารทั้งของไทยและเปรูเป็นที่รู้จักของประชาชนในทั้งสองประเทศมากขึ้น ซึ่งจะส่วนช่วยให้มีการขยายกิจการร้านอาหารของกันและกันในประเทศทั้งสองในอนาคต
10. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองตกลงที่จะเร่งให้มีการเจรจาในการจัดทำความตกลงและบันทึกความเข้าใจต่างๆ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา เพื่อให้บรรลุข้อตกลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
11. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูชื่นชมการตัดสินใจของไทยในการเปิดสถานเอกอัครราชทูตในกรุงลิมาในปีหน้า ซึ่งฝ่ายไทยแจ้งว่า จะเริ่มขั้นตอนทางราชการในช่วงต้นปีงบประมาณ 2550
12. ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นพหุภาคี และแสดงเจตนารมย์ที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เช่น การประชุม FEALAC เอเปค และสหประชาชาติ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำพันธะที่จะปฏิรูปสหประชาชาติในประเด็นที่สำคัญและสร้างสรรค์ และเห็นพ้องกันว่า การปฏิรูปสหประชาชาติควรมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งในด้านสันติภาพ ความมั่นคง การพัฒนา และการขจัดปัญหาความยกจน ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้แสดงความยินดีที่เปรูได้รับเลือกตั้งเป็นให้สมาชิกประเภทไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระหว่างปี 2549-2550 และเชื่อว่าเปรูจะสามารถแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ในช่วงรับตำแหน่ง ฝ่ายไทยยังได้แจ้งให้ฝ่ายเปรูทราบถึงความคืบหน้าของการรณรงค์ของประชาคมอาเซียนต่อการสมัครชิงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของไทย และหวังว่าเปรูจะให้ความสนับสนุนผู้สมัครของไทยในตำแหน่งดังกล่าว
13. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยเข้าร่วมในการสัมมนานานาชาติระดับรัฐมนตรีในหัวข้อ “Special International Conference of Developing Countries with Substantial International Migrant Flow” ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงลิมาในเดือนพฤษภาคม 2549
14. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูแจ้งด้วยว่า ขณะนี้เปรูกำลังประสานกับประชาคมแอนเดียนเพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยเข้าร่วมประชุมคณะมนตรีต่างประเทศของประชาคมแอนเดียนในปี 2549 ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า จะเป็นโอกาสดีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยจะพบและหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิกแอนเดียน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับประชาคมแอนเดียน รัฐมนตรีทั้งสองยังได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมให้มีการหารือและการกระชับความร่วมมือระหว่างประชาคมแอนเดียนในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองภูมิภาคทั้งสอง
15. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองเพื่อฉลองการครบรอบ 40 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ซึ่งได้มีการแสดงดนตรีพื้นเมืองของเปรูในงานด้วย นอกจากนั้น ได้เห็นพ้องให้มีการแลกเปลี่ยนด้านศิลปะและการแสดงทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมความเข้าใจของกันและกันและการติดต่อระหว่างประชาชนต่อประชาชนให้มากขึ้น พร้อมทั้งแสดงความยินดีที่ทั้งสองจะจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกร่วมกันทั้งภาษาไทยและภาษสเปน ตามข้อเสนอของไทย ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยาวนานระหว่างประเทศไทยและเปรู
16. รัฐมนนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูได้ขอบคุณรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยที่ให้การต้อนรับตนและคณะอย่างอบอุ่น พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองยินดีที่การเยือนประสบผลสำเร็จ และย้ำถึงพันธะที่จะรักษาระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทยและเปรู
นายกันตธีร์ ศุภมงคล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
แห่งราชอาณาจักรไทย
เอกอัครราชทูตออสการ์ มาอูรตุอา เด โรมาญา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
แห่งสาธารณรัฐเปรู
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-