ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. คาดว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและ
ธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงสถานการณ์ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในขณะนี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้น
เฉลี่ยอยู่ที่ 68-75 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และประเมินว่าผลกระทบจากราคาน้ำมันจะทำให้อัตราการเติบโตทาง
เศรษฐกิจปี 49 ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4-4.5 โดยปัจจัยหนุนมาจากเศรษฐกิจโลกยังมีการขยายตัวอยู่ รวมถึงการส่งออกที่ ก.พาณิชย์ตั้งเป้าหมาย
ไว้ว่าปี 49 นี้จะขยายตัวร้อยละ 15-17.5 เป็นไปได้สูง แต่ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ร้อยละ 4-4.5
เป็นร้อยละ 4.5-5 (โลกวันนี้, ข่าวสด)
2. ธปท.ยังไม่ได้รับรายละเอียดการเข้าซื้อหุ้น ธ.กรุงศรีอยุธยาของบริษัท จีอี นายทนง พิทยะ รักษาการ รมว.คลัง เปิดเผยว่า
การที่บริษัท จีอี แคปปิตอล เอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นนักลงทุนจากต่างประเทศ เข้ามาซื้อหุ้นของ ธ.กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนกว่า
25% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งถือว่าเกินกว่าที่กำหนดไว้ให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นใน ธพ.ของไทยได้ไม่เกิน 25% นั้น เป็นเรื่องที่ ธปท.จะต้องดูแล
ขณะที่นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายละเอียดในกรณีดังกล่าว จึงยังไม่สามารถตอบได้ ทั้งนี้ หาก
พิจารณาโดยหลักการแล้ว ทั้ง ธ.กรุงศรีอยุธยา และบริษัทจีอีฯ เป็นสถาบันการเงิน จะต้องยึดตามหลักเกณฑ์สถาบันการเงิน 1 รูปแบบ
(one presence) คือ ไม่สามารถถือหุ้นสถาบันการเงินเกิน 2 แห่งได้ (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้เป็นไปตามภาวะตลาดภูมิภาคและตลาดโลก นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงนี้ เป็นการปรับตัวตามตลาดภูมิภาคและตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งไม่น่าเป็น
เรื่องที่ต้องกังวล ขณะที่การขายหุ้นทิ้งของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเพียงการปรับพอร์ตเท่านั้น ทั้งนี้ ภาวะการซื้อขายหุ้นวานนี้
(18 พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากวันก่อน โดยในระหว่างวันได้ปรับตัวลดลงมาต่ำสุดที่ระดับ 743.96 จุด ติดลบกว่า 18 จุด
ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาทำให้ดัชนีกระเตื้องขึ้นและมาปิดที่ 748.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 20,021.06 ล.บาท (ผู้จัดการรายวัน)
4. ก.พลังงานเชื่อมั่นแผนลดการนำเข้าน้ำมันปี 49 จะเป็นไปตามเป้าหมาย นายวิเศษ จูภิบาล รักษาการ รมว.พลังงาน เปิด
เผยถึงแผนลดการนำเข้าน้ำมันที่ลดลงเพียง 5% ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 10% ว่าเป็นปริมาณการนำเข้าเฉพาะในไตรมาส 1 ของปี
49 เท่านั้น แต่เป้าหมายที่วางไว้ 10% เป็นปริมาณการนำเข้าทั้งปี ซึ่งเชื่อมั่นว่าโรงกลั่นน้ำมันจะสามารถบริหารจัดการให้เป็นไปตามเป้าหมายได้
เพราะปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศเริ่มลดลงชัดเจนเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลลดลง 9% จาก 57 ล้านลิตรในเดือน
มี.ค. ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินลดลง 3% ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพียง 2-3% จากปกติที่จะเพิ่ม 6% (มติชน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดขายปลีกของอังกฤษในเดือน เม.ย.49 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ร้อยละ 0.6 เทียบต่อเดือน รายงานจากลอนดอน
เมื่อ 18 พ.ค.49 สำนักงานสถิติอังกฤษ เปิดเผยว่า ยอดขายปลีกอังกฤษในเดือน เม.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เทียบต่อเดือน และหากเทียบ
ต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดตั้งแต่เดือน ธ.ค.48 และเหนือกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และ 2.6
เมื่อเทียบต่อเดือนและต่อปี ตามลำดับ เนื่องจากยอดขายสินค้าในครัวเรือนขยายตัวอย่างมากโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 เทียบต่อเดือนและร้อยละ
7.1 เมื่อเทียบต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือน ธ.ค.48 นอกจากนี้ การให้ส่วนลดของผู้ค้าปลีกก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ยอดขาย
ในเดือน เม.ย.สูงขึ้น โดยส่วนลดสินค้าในเดือน เม.ย.49 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.49 ที่อยู่ที่ร้อยละ 1.1 สำหรับยอดขายปลีก
ในเดือน มี.ค.49 ภายหลังการทบทวนแล้วพบว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เทียบต่อเดือน และร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบต่อปี หลังจากที่รายงานเบื้องต้น
ก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 และ 2.6 เมื่อเทียบต่อเดือนและต่อปีตามลำดับ อนึ่ง การขยายตัวของยอดขายปลีกในเดือน เม.ย.49 เป็นการ
ขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกภาคยกเว้นยอดขายในร้านอาหารและยอดขายปลีกแบบไม่มีร้านและร้านซ่อมบำรุง (รอยเตอร์)
2. คาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีในไตรมาสที่ 2 ปี 49 จะขยายตัวดีกว่าในไตรมาสแรก รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ 18 พ.ค.49
สมาคมธนาคาร BDB ของเยอรมนีคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 ปี 49 หลังจากในไตรมาสแรกปี 49 ขยายตัวร้อยละ
0.4 ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.6 นอกจากนี้ยังคาดว่าเศรษฐกิจในปี 49 จะขยายตัวร้อยละ 1.75 ต่อปี สูงกว่าที่
รัฐบาลคาดไว้ที่ร้อยละ 1.6 ต่อปี ทั้งนี้โดยดูจากเศรษฐกิจโลกที่กำลังขยายตัว การลงทุนในประเทศที่กำลังเพิ่มขึ้นและสัญญาณที่แสดงถึงเสถียรภาพ
ในตลาดแรงงาน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังฟื้นตัว อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงจากค่าเงินยูโรที่แม้ว่าค่าเงินที่สูงขึ้นในขณะ
นี้จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่หากค่าเงินยูโรสูงขึ้นเร็วเกินไป จะส่งผลกระทบต่อการคำนวณราคาสินค้าและแผนลงทุนของภาคธุรกิจได้
(รอยเตอร์)
3. จีดีพีของญี่ปุ่นในไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 0.5 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่
19 พ.ค.49 สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นในไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวร้อยละ 0.5 สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์
ไว้ที่ร้อยละ 0.3 และเมื่อเทียบต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 1.9 เพิ่มขึ้นเป็นเกือบสองเท่าจากที่คาดการณ์กันไว้ที่ร้อยละ 1.1 อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้น
ดังกล่าวยังต่ำกว่าไตรมาสก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 รวมทั้งต่ำกว่าจีดีพีในไตรมาสแรกของ สรอ. ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก
การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีการคาดการณ์ว่า ธ.กลางญี่ปุ่นอาจจะยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ใน
เร็ว ๆ นี้ ประกอบกับผลตอบแทนของพันธบัตรและค่าเงินเยนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อาจทำให้ ธ.กลางญี่ปุ่นต้องปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า (รอยเตอร์)
4. การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนเพิ่มขึ้น รายงานจากปักกิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 49 สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า
ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 49 การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 29.6 ใกล้เคียงกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.8
ในไตรมาสแรก ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวถึงร้อยละ 10.2 อย่างไรก็ตามสำนักงานสถิติของจีนมิได้รายงานการลงทุนเฉพาะใน
เดือน เม.ย. แต่ประการใด โดย Tai Hui นักเศรษฐศาสตร์จากสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ในฮ่องกงเห็นว่าไม่มีสัญญานใดที่จะบ่งชี้ว่าการลงทุนใน
สินทรัพย์ถาวรของจีนจะชะลอตัวลง และคาดว่ารัฐบาลจะยังคงดำเนินมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจลดความร้อนแรงลง ทั้งนี้เมื่อปี 48 และปี 47 การ
ลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.7 และร้อยละ 26.6 ตามลำดับ ซึ่งการลงทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ราคาอลูมิเนียมและทองแดง
เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุด นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ ธ.กลางจีนต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระยะเวลา 1 ปีเมื่อวันที่ 27 เม.ย. จากร้อยละ
5.58 เป็นร้อยละ 5.85 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 19 พ.ค. 49 18 พ.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข้อม
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 38.194 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.0004/38.2818 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.84844 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 748.30/ 20.02 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 12,350/12,450 12,400/12,500 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 64.16 62.76 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 50 สตางค์ เมื่อ 5 พ.ค. 49 28.84*/26.19* 28.84*/26.19* 19.69/14.59 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. คาดว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและ
ธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงสถานการณ์ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในขณะนี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้น
เฉลี่ยอยู่ที่ 68-75 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และประเมินว่าผลกระทบจากราคาน้ำมันจะทำให้อัตราการเติบโตทาง
เศรษฐกิจปี 49 ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4-4.5 โดยปัจจัยหนุนมาจากเศรษฐกิจโลกยังมีการขยายตัวอยู่ รวมถึงการส่งออกที่ ก.พาณิชย์ตั้งเป้าหมาย
ไว้ว่าปี 49 นี้จะขยายตัวร้อยละ 15-17.5 เป็นไปได้สูง แต่ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ร้อยละ 4-4.5
เป็นร้อยละ 4.5-5 (โลกวันนี้, ข่าวสด)
2. ธปท.ยังไม่ได้รับรายละเอียดการเข้าซื้อหุ้น ธ.กรุงศรีอยุธยาของบริษัท จีอี นายทนง พิทยะ รักษาการ รมว.คลัง เปิดเผยว่า
การที่บริษัท จีอี แคปปิตอล เอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นนักลงทุนจากต่างประเทศ เข้ามาซื้อหุ้นของ ธ.กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนกว่า
25% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งถือว่าเกินกว่าที่กำหนดไว้ให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นใน ธพ.ของไทยได้ไม่เกิน 25% นั้น เป็นเรื่องที่ ธปท.จะต้องดูแล
ขณะที่นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายละเอียดในกรณีดังกล่าว จึงยังไม่สามารถตอบได้ ทั้งนี้ หาก
พิจารณาโดยหลักการแล้ว ทั้ง ธ.กรุงศรีอยุธยา และบริษัทจีอีฯ เป็นสถาบันการเงิน จะต้องยึดตามหลักเกณฑ์สถาบันการเงิน 1 รูปแบบ
(one presence) คือ ไม่สามารถถือหุ้นสถาบันการเงินเกิน 2 แห่งได้ (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้เป็นไปตามภาวะตลาดภูมิภาคและตลาดโลก นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงนี้ เป็นการปรับตัวตามตลาดภูมิภาคและตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งไม่น่าเป็น
เรื่องที่ต้องกังวล ขณะที่การขายหุ้นทิ้งของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเพียงการปรับพอร์ตเท่านั้น ทั้งนี้ ภาวะการซื้อขายหุ้นวานนี้
(18 พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากวันก่อน โดยในระหว่างวันได้ปรับตัวลดลงมาต่ำสุดที่ระดับ 743.96 จุด ติดลบกว่า 18 จุด
ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาทำให้ดัชนีกระเตื้องขึ้นและมาปิดที่ 748.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 20,021.06 ล.บาท (ผู้จัดการรายวัน)
4. ก.พลังงานเชื่อมั่นแผนลดการนำเข้าน้ำมันปี 49 จะเป็นไปตามเป้าหมาย นายวิเศษ จูภิบาล รักษาการ รมว.พลังงาน เปิด
เผยถึงแผนลดการนำเข้าน้ำมันที่ลดลงเพียง 5% ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 10% ว่าเป็นปริมาณการนำเข้าเฉพาะในไตรมาส 1 ของปี
49 เท่านั้น แต่เป้าหมายที่วางไว้ 10% เป็นปริมาณการนำเข้าทั้งปี ซึ่งเชื่อมั่นว่าโรงกลั่นน้ำมันจะสามารถบริหารจัดการให้เป็นไปตามเป้าหมายได้
เพราะปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศเริ่มลดลงชัดเจนเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลลดลง 9% จาก 57 ล้านลิตรในเดือน
มี.ค. ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินลดลง 3% ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพียง 2-3% จากปกติที่จะเพิ่ม 6% (มติชน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดขายปลีกของอังกฤษในเดือน เม.ย.49 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ร้อยละ 0.6 เทียบต่อเดือน รายงานจากลอนดอน
เมื่อ 18 พ.ค.49 สำนักงานสถิติอังกฤษ เปิดเผยว่า ยอดขายปลีกอังกฤษในเดือน เม.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เทียบต่อเดือน และหากเทียบ
ต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดตั้งแต่เดือน ธ.ค.48 และเหนือกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และ 2.6
เมื่อเทียบต่อเดือนและต่อปี ตามลำดับ เนื่องจากยอดขายสินค้าในครัวเรือนขยายตัวอย่างมากโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 เทียบต่อเดือนและร้อยละ
7.1 เมื่อเทียบต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือน ธ.ค.48 นอกจากนี้ การให้ส่วนลดของผู้ค้าปลีกก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ยอดขาย
ในเดือน เม.ย.สูงขึ้น โดยส่วนลดสินค้าในเดือน เม.ย.49 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.49 ที่อยู่ที่ร้อยละ 1.1 สำหรับยอดขายปลีก
ในเดือน มี.ค.49 ภายหลังการทบทวนแล้วพบว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เทียบต่อเดือน และร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบต่อปี หลังจากที่รายงานเบื้องต้น
ก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 และ 2.6 เมื่อเทียบต่อเดือนและต่อปีตามลำดับ อนึ่ง การขยายตัวของยอดขายปลีกในเดือน เม.ย.49 เป็นการ
ขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกภาคยกเว้นยอดขายในร้านอาหารและยอดขายปลีกแบบไม่มีร้านและร้านซ่อมบำรุง (รอยเตอร์)
2. คาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีในไตรมาสที่ 2 ปี 49 จะขยายตัวดีกว่าในไตรมาสแรก รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ 18 พ.ค.49
สมาคมธนาคาร BDB ของเยอรมนีคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 ปี 49 หลังจากในไตรมาสแรกปี 49 ขยายตัวร้อยละ
0.4 ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.6 นอกจากนี้ยังคาดว่าเศรษฐกิจในปี 49 จะขยายตัวร้อยละ 1.75 ต่อปี สูงกว่าที่
รัฐบาลคาดไว้ที่ร้อยละ 1.6 ต่อปี ทั้งนี้โดยดูจากเศรษฐกิจโลกที่กำลังขยายตัว การลงทุนในประเทศที่กำลังเพิ่มขึ้นและสัญญาณที่แสดงถึงเสถียรภาพ
ในตลาดแรงงาน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังฟื้นตัว อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงจากค่าเงินยูโรที่แม้ว่าค่าเงินที่สูงขึ้นในขณะ
นี้จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่หากค่าเงินยูโรสูงขึ้นเร็วเกินไป จะส่งผลกระทบต่อการคำนวณราคาสินค้าและแผนลงทุนของภาคธุรกิจได้
(รอยเตอร์)
3. จีดีพีของญี่ปุ่นในไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 0.5 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่
19 พ.ค.49 สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นในไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวร้อยละ 0.5 สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์
ไว้ที่ร้อยละ 0.3 และเมื่อเทียบต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 1.9 เพิ่มขึ้นเป็นเกือบสองเท่าจากที่คาดการณ์กันไว้ที่ร้อยละ 1.1 อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้น
ดังกล่าวยังต่ำกว่าไตรมาสก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 รวมทั้งต่ำกว่าจีดีพีในไตรมาสแรกของ สรอ. ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก
การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีการคาดการณ์ว่า ธ.กลางญี่ปุ่นอาจจะยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ใน
เร็ว ๆ นี้ ประกอบกับผลตอบแทนของพันธบัตรและค่าเงินเยนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อาจทำให้ ธ.กลางญี่ปุ่นต้องปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า (รอยเตอร์)
4. การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนเพิ่มขึ้น รายงานจากปักกิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 49 สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า
ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 49 การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 29.6 ใกล้เคียงกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.8
ในไตรมาสแรก ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวถึงร้อยละ 10.2 อย่างไรก็ตามสำนักงานสถิติของจีนมิได้รายงานการลงทุนเฉพาะใน
เดือน เม.ย. แต่ประการใด โดย Tai Hui นักเศรษฐศาสตร์จากสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ในฮ่องกงเห็นว่าไม่มีสัญญานใดที่จะบ่งชี้ว่าการลงทุนใน
สินทรัพย์ถาวรของจีนจะชะลอตัวลง และคาดว่ารัฐบาลจะยังคงดำเนินมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจลดความร้อนแรงลง ทั้งนี้เมื่อปี 48 และปี 47 การ
ลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.7 และร้อยละ 26.6 ตามลำดับ ซึ่งการลงทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ราคาอลูมิเนียมและทองแดง
เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุด นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ ธ.กลางจีนต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระยะเวลา 1 ปีเมื่อวันที่ 27 เม.ย. จากร้อยละ
5.58 เป็นร้อยละ 5.85 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 19 พ.ค. 49 18 พ.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข้อม
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 38.194 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.0004/38.2818 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.84844 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 748.30/ 20.02 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 12,350/12,450 12,400/12,500 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 64.16 62.76 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 50 สตางค์ เมื่อ 5 พ.ค. 49 28.84*/26.19* 28.84*/26.19* 19.69/14.59 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--