แท็ก
ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ
จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช
องอาจ คล้ามไพบูลย์
ประธานาธิบดีสหรัฐ
พรรคประชาธิปัตย์
นครราชสีมา
วันนี้ (9ก.ค.49) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงนายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รักษาการสว.นครราชสีมา ออกมาระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณทำหนังสือถึงนายจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยระบุว่าประชาธิปไตยของประเทศไทยถูกทำลายโดยผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้มีความสับสนว่าหนังสือดังกล่าวมีหรือไม่อย่างไร
เพราะเลขาธิการนายกรัฐมนตรีออกมายอมรับว่ามีหนังสือจริง แต่โฆษกรัฐบาลบอกว่าไม่ใช่จดหมายส่วนตัว และเป็นไปตามขั้นตอนของกระทรวงต่างประเทศ ขณะที่กระทรวงต่างประเทศอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนและไม่สามารถติดต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้ ซึ่งอยู่ในระหว่างเดินทางไปประเทศนิวซีแลนด์และสหรัฐ
นายองอาจกล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าท่ามกลางยุคข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพราะเหตุใดข้าราชการในกระทรวงไม่สามารถติดต่อรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงได้ ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลนำจดหมายถึงกล่าวมาเปิดเผยถึงเนื้อหาสาระ
"เชื่อว่าในจดหมายมีความสำคัญและลึกลับพอสมควร แม้แต่กรมสารนิเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ติดต่อกับประชาชน และทั่วโลกยังไม่รู้เนื้อหาสาระของจดหมายดังกล่าว จึงอยากให้นายกฯนำเรื่องนี้มาเปิดเผยเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนว่าในจดหมายดังกล่าวมีการเขียนว่าประชาธิปไตยของไทยถูกทำลายโดยผู้บารมีนอกรัฐธรรมนูญห รือไม่ เพราะหลายครั้งที่นายกฯเดินทางไปต่างประเทศมีข้อครหาถึงความเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ ซึ่งการพูดเชื่อมโยงไปถึงใครบางคนถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ดังนั้นต้องทำให้เกิดความกระจ่างโปร่งใส"นายองอาจ กล่าว
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการ นายกรัฐมนตรี ยังคงไม่ออกมาพูดถึงความชัดเจน ใครเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญเป็นใครว่า จากการวิเคราะห์ของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า การออกมาพูดของนายกฯ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าประชาชน เป็นการโยนความผิดให้กับบุคคลอื่น หรือคณะบุคคลว่าเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายในบ้านเมือง เป็นการสร้างภาพให้กับตัวเองว่า เป็นผู้ปกป้องประชาธิปไตยด้วยชีวิต
แต่ความจริง4-5 ปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้ใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจ แสวงหาประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ที่สำคัญเป็นการสร้างภาพให้เห็นว่าผู้มีบารมีมีอำนาจเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองได้ โดยมีช่วงหนึ่งที่นายกฯบอกว่ามีขบวนการแอบอ้างที่จะตั้งรัฐบาล แทนรัฐบาลปัจจุบันและคนมาเป็นรัฐมนตรี
"คำพูดของนายกฯเป็นการประกาศวัดบารมีให้เห็นกันชัดๆ เพราะนายกฯรู้ตัวดีว่าพูดอะไร และสามารถมองเห็นผลในอนาคตหลังจากพูด ซึ่งเป็นการประกาศบารมีของตัวเอง เป็นการประกาศศัตรูเพิ่มเติมของนายกฯ ที่สำคัญการพูดต่อหน้าข้าราชการและสาธารณชนได้รับรู้ สะท้อนให้เห็นว่าขณะนี้อำนาจของพ.ต.ท.ทักษิณสั่นคลอน และพยายามรักษาไว้ทุกรูปแบบ ทั้งใต้ดินและบนดิน ดดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง" นายองอาจ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงการประกาศชุมนุมใหญ่ของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อเรียกร้องให้นายกฯ เปิดเผยผู้มีบารมีนอกเหนือรัฐธรรมนูญว่า ถือเป็นการแสดงออกของประชาชนตามรัฐธรรมนูญและคงจะไม่ยืดเยื้อหากนายกฯยอมออกมาเปิดเผยว่าผู้มีบารมีคือใคร แต่ที่ประชาชนรับไม่ได้ที่นายกฯจะออกมาพูดจาจาบจ้วงใครก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และการออกมาชี้แจงไม่ใช่แค่ปัดสวะให้พ้นตัว แต่ต้องพูดเพื่อสร้างความเข้าใจและเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่รัฐบาลจะไปสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงขึ้น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 ก.ค. 2549--จบ--
เพราะเลขาธิการนายกรัฐมนตรีออกมายอมรับว่ามีหนังสือจริง แต่โฆษกรัฐบาลบอกว่าไม่ใช่จดหมายส่วนตัว และเป็นไปตามขั้นตอนของกระทรวงต่างประเทศ ขณะที่กระทรวงต่างประเทศอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนและไม่สามารถติดต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้ ซึ่งอยู่ในระหว่างเดินทางไปประเทศนิวซีแลนด์และสหรัฐ
นายองอาจกล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าท่ามกลางยุคข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพราะเหตุใดข้าราชการในกระทรวงไม่สามารถติดต่อรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงได้ ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลนำจดหมายถึงกล่าวมาเปิดเผยถึงเนื้อหาสาระ
"เชื่อว่าในจดหมายมีความสำคัญและลึกลับพอสมควร แม้แต่กรมสารนิเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ติดต่อกับประชาชน และทั่วโลกยังไม่รู้เนื้อหาสาระของจดหมายดังกล่าว จึงอยากให้นายกฯนำเรื่องนี้มาเปิดเผยเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนว่าในจดหมายดังกล่าวมีการเขียนว่าประชาธิปไตยของไทยถูกทำลายโดยผู้บารมีนอกรัฐธรรมนูญห รือไม่ เพราะหลายครั้งที่นายกฯเดินทางไปต่างประเทศมีข้อครหาถึงความเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ ซึ่งการพูดเชื่อมโยงไปถึงใครบางคนถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ดังนั้นต้องทำให้เกิดความกระจ่างโปร่งใส"นายองอาจ กล่าว
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการ นายกรัฐมนตรี ยังคงไม่ออกมาพูดถึงความชัดเจน ใครเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญเป็นใครว่า จากการวิเคราะห์ของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า การออกมาพูดของนายกฯ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าประชาชน เป็นการโยนความผิดให้กับบุคคลอื่น หรือคณะบุคคลว่าเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายในบ้านเมือง เป็นการสร้างภาพให้กับตัวเองว่า เป็นผู้ปกป้องประชาธิปไตยด้วยชีวิต
แต่ความจริง4-5 ปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้ใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจ แสวงหาประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ที่สำคัญเป็นการสร้างภาพให้เห็นว่าผู้มีบารมีมีอำนาจเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองได้ โดยมีช่วงหนึ่งที่นายกฯบอกว่ามีขบวนการแอบอ้างที่จะตั้งรัฐบาล แทนรัฐบาลปัจจุบันและคนมาเป็นรัฐมนตรี
"คำพูดของนายกฯเป็นการประกาศวัดบารมีให้เห็นกันชัดๆ เพราะนายกฯรู้ตัวดีว่าพูดอะไร และสามารถมองเห็นผลในอนาคตหลังจากพูด ซึ่งเป็นการประกาศบารมีของตัวเอง เป็นการประกาศศัตรูเพิ่มเติมของนายกฯ ที่สำคัญการพูดต่อหน้าข้าราชการและสาธารณชนได้รับรู้ สะท้อนให้เห็นว่าขณะนี้อำนาจของพ.ต.ท.ทักษิณสั่นคลอน และพยายามรักษาไว้ทุกรูปแบบ ทั้งใต้ดินและบนดิน ดดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง" นายองอาจ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงการประกาศชุมนุมใหญ่ของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อเรียกร้องให้นายกฯ เปิดเผยผู้มีบารมีนอกเหนือรัฐธรรมนูญว่า ถือเป็นการแสดงออกของประชาชนตามรัฐธรรมนูญและคงจะไม่ยืดเยื้อหากนายกฯยอมออกมาเปิดเผยว่าผู้มีบารมีคือใคร แต่ที่ประชาชนรับไม่ได้ที่นายกฯจะออกมาพูดจาจาบจ้วงใครก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และการออกมาชี้แจงไม่ใช่แค่ปัดสวะให้พ้นตัว แต่ต้องพูดเพื่อสร้างความเข้าใจและเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่รัฐบาลจะไปสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงขึ้น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 ก.ค. 2549--จบ--