กรุงเทพ--12 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันที่ 8 ธันวาคม 2549 นายกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา อธิบดีกรมยุโรป แถลงข่าวผลการเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีขององค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป ครั้งที่ 14 (14th Organization for Security and Co-operation in Europe — OSCE Ministerial Council Meeting) ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม 2549 ณ ประเทศเบลเยียม โดยนายสวนิต คงสิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม และเป็นประธานการประชุมระหว่างประเทศหุ้นส่วนเพื่อความร่วมมือฝ่ายเอเชีย (Asian Partners for Co-operation) เพื่อประสานท่าทีฝ่ายเอเชียก่อนที่จะพบกับ OSCE Troika และที่ประชุมได้เห็นชอบร่างเอกสารที่จะนำเสนอต่อ OSCE Troika ที่เสนอแนะแนวทางที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน ดังนี้
- ความร่วมมือทางด้านความมั่นคงมนุษย์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการนำไปสู่ comprehensive security โดยกิจกรรมที่สำคัญในปีนี้ ได้แก่ การประชุม 2006 OSCE-Thailand Conference on Challenges to Global Security: From Poverty to Pandemic ระหว่างวันที่ 25-26 เม.ย. 2549 ที่กรุงเทพฯ และการประชุม Human Dimension Implementation Meeting (HDIM) ระหว่างวันที่ 2-13 ต.ค. 2549 ณ กรุงวอร์ซอ ซึ่งรองอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ (นายพีรศักย จันทวรินทร์) เข้าร่วมด้วย
- การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง OSCE และประเทศหุ้นส่วนฯ ฝ่ายเอเชีย
โดยการให้ประเทศหุ้นส่วนฯ ฝ่ายเอเชียสามารถเข้าร่วมการประชุมต่างๆ ได้เช่นเดียวกับประเทศสมาชิก (permanent basis) แทนที่จะเป็นแบบ “ad hoc invitation basis” การร่วมมือระหว่างกันและการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น ด้านการควบคุมและจัดการชายแดน การฝึกอบรมตำรวจ เป็นต้น รวมทั้งเสนอให้มีการจัดตั้ง OSCE Partnership Fund นอกจากนี้ ควรมีการเชื่อมโยงและส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่าง OSCE และ ARF เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านความมั่นคง
นายกุลกุมุทฯ กล่าวว่ารัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ได้นำเสนอร่างเอกสารที่ที่ประชุมประเทศหุ้นส่วนฯ ฝ่ายเอเชียเห็นชอบ และหยิบยกข้อเสนอแนะของไทยที่ต้องการให้มีความร่วมมือกันมากขึ้นทางด้านการจัดการชายแดน (border control) รวมทั้ง การเชื่อมโยงการหารือและกิจกรรมระหว่าง OSCE และ ARF (ASEAN Regional Forum) รวมทั้งได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมถึงกิจกรรมที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีที่ผ่านมา เสนอแนะให้รัฐต่างๆ ให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมต่างๆ และได้ชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทย และความมุ่งมั่นของไทยในการเสริมสร้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง และจะจัดการเลือกตั้งที่โปร่งใสและเป็นกลางภายในปี 2550 ด้วย
หลังการประชุมฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ได้เข้าร่วมการสัมมนากับภาครัฐ ธุรกิจ และนักวิชาการ ที่ European Institute for Asian Studies ณ กรุงบรัสเซลสส์ และการสัมมนาร่วมกับภาครัฐและธุรกิจ ณ กรุงเฮก โดยกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย และตอบคำถามนักธุรกิจเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว การถือสิทธิ์ครอบครองที่ดินโดยคนต่างด้าว รวมถึงได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาในภาคใต้ ความสมานฉันท์ในประเทศ และชี้แจงเกี่ยวกับโครงการที่รัฐบาลจะสืบสานต่อเนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมา เช่น OTOP
นายกุลกุมุทฯ กล่าวว่าการเดินทางไปร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคเอกชน ซึ่งได้แสดงความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
วันที่ 8 ธันวาคม 2549 นายกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา อธิบดีกรมยุโรป แถลงข่าวผลการเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีขององค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป ครั้งที่ 14 (14th Organization for Security and Co-operation in Europe — OSCE Ministerial Council Meeting) ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม 2549 ณ ประเทศเบลเยียม โดยนายสวนิต คงสิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม และเป็นประธานการประชุมระหว่างประเทศหุ้นส่วนเพื่อความร่วมมือฝ่ายเอเชีย (Asian Partners for Co-operation) เพื่อประสานท่าทีฝ่ายเอเชียก่อนที่จะพบกับ OSCE Troika และที่ประชุมได้เห็นชอบร่างเอกสารที่จะนำเสนอต่อ OSCE Troika ที่เสนอแนะแนวทางที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน ดังนี้
- ความร่วมมือทางด้านความมั่นคงมนุษย์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการนำไปสู่ comprehensive security โดยกิจกรรมที่สำคัญในปีนี้ ได้แก่ การประชุม 2006 OSCE-Thailand Conference on Challenges to Global Security: From Poverty to Pandemic ระหว่างวันที่ 25-26 เม.ย. 2549 ที่กรุงเทพฯ และการประชุม Human Dimension Implementation Meeting (HDIM) ระหว่างวันที่ 2-13 ต.ค. 2549 ณ กรุงวอร์ซอ ซึ่งรองอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ (นายพีรศักย จันทวรินทร์) เข้าร่วมด้วย
- การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง OSCE และประเทศหุ้นส่วนฯ ฝ่ายเอเชีย
โดยการให้ประเทศหุ้นส่วนฯ ฝ่ายเอเชียสามารถเข้าร่วมการประชุมต่างๆ ได้เช่นเดียวกับประเทศสมาชิก (permanent basis) แทนที่จะเป็นแบบ “ad hoc invitation basis” การร่วมมือระหว่างกันและการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น ด้านการควบคุมและจัดการชายแดน การฝึกอบรมตำรวจ เป็นต้น รวมทั้งเสนอให้มีการจัดตั้ง OSCE Partnership Fund นอกจากนี้ ควรมีการเชื่อมโยงและส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่าง OSCE และ ARF เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านความมั่นคง
นายกุลกุมุทฯ กล่าวว่ารัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ได้นำเสนอร่างเอกสารที่ที่ประชุมประเทศหุ้นส่วนฯ ฝ่ายเอเชียเห็นชอบ และหยิบยกข้อเสนอแนะของไทยที่ต้องการให้มีความร่วมมือกันมากขึ้นทางด้านการจัดการชายแดน (border control) รวมทั้ง การเชื่อมโยงการหารือและกิจกรรมระหว่าง OSCE และ ARF (ASEAN Regional Forum) รวมทั้งได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมถึงกิจกรรมที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีที่ผ่านมา เสนอแนะให้รัฐต่างๆ ให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมต่างๆ และได้ชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทย และความมุ่งมั่นของไทยในการเสริมสร้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง และจะจัดการเลือกตั้งที่โปร่งใสและเป็นกลางภายในปี 2550 ด้วย
หลังการประชุมฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ได้เข้าร่วมการสัมมนากับภาครัฐ ธุรกิจ และนักวิชาการ ที่ European Institute for Asian Studies ณ กรุงบรัสเซลสส์ และการสัมมนาร่วมกับภาครัฐและธุรกิจ ณ กรุงเฮก โดยกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย และตอบคำถามนักธุรกิจเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว การถือสิทธิ์ครอบครองที่ดินโดยคนต่างด้าว รวมถึงได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาในภาคใต้ ความสมานฉันท์ในประเทศ และชี้แจงเกี่ยวกับโครงการที่รัฐบาลจะสืบสานต่อเนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมา เช่น OTOP
นายกุลกุมุทฯ กล่าวว่าการเดินทางไปร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคเอกชน ซึ่งได้แสดงความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-