รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไปร่วมลงนามกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง กัมพูชา ในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมเงินกู้โครงการปรับปรุงและลาดยางผิวจราจรเส้นทางสายตราด-เกาะกง-สะแรอัมเปิล (R48) ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2547 ได้เห็นชอบในหลักการให้เพิ่มวงเงินกู้อีกจำนวน 300 ล้านบาท สำหรับโครงการ R48 ที่ได้มีการลงนามในสัญญาเงินกู้ไปแล้ว จำนวน 567.8 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เป็นวงเงินกู้ใหม่ จำนวน 867.8 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้การปรับปรุงเส้นทาง R48 นี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
เส้นทาง R48 นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงเส้นทางชายฝั่งทะเลไทย-กัมพูชา-เวียดนาม (South Coastal Corridor) ซึ่งเริ่มจากตราด-เกาะกง-กัมปอต-ยาเมียน-กามู-นัมซู นอกจากนี้ โครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โยง ระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย Economic Cooperation Strategy (ECS) ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคที่จัดตั้งขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งและความหลากหลายของทั้งสี่ประเทศเพื่อส่งเสริมนโยบายอย่างสมดุลด้วย และเมื่อก่อสร้างเส้นทางเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะใช้เวลาในการเดินทางจากตราดไปกรุงพนมเปญราว 4 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. เส้นทางดังกล่าวจะก่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ตามแนวชายแดนให้สามารถเชื่อมโยงทั้งด้านการค้า
การลงทุน การพัฒนาแรงงาน การท่องเที่ยวและการคมนาคมขนส่งให้แก่ประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม
2. ช่วยกระตุ้นการค้าและการลงทุนในแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจตลอดจนเพิ่มอำนาจการซื้อของกัมพูชาในอนาคต โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่จังหวัดเกาะกงซึ่งติดชายแดนไทย โดยเป็นความร่วมมือระหว่างไทยและกัมพูชา
3. ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการก่อสร้างในประเทศไทย เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวมีเงื่อนไขที่จะใช้ผู้รับเหมาไทย และใช้วัสดุก่อสร้างจากประเทศไทยอย่างน้อยร้อยละ 50 ของมูลค่าโครงการทั้งหมด
4. ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ไทยและกัมพูชา และช่วยเสริมสร้างบทบาทของไทยในภูมิภาค
5. ช่วยให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดน เพื่อกระจายความเจริญจากส่วนกลางไปยังเมืองชายแดน ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน การสร้างอาชีพ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจในพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชายแดนในภาคตะวันออก
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 33/2548 10 พฤษภาคม 48--
เส้นทาง R48 นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงเส้นทางชายฝั่งทะเลไทย-กัมพูชา-เวียดนาม (South Coastal Corridor) ซึ่งเริ่มจากตราด-เกาะกง-กัมปอต-ยาเมียน-กามู-นัมซู นอกจากนี้ โครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โยง ระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย Economic Cooperation Strategy (ECS) ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคที่จัดตั้งขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งและความหลากหลายของทั้งสี่ประเทศเพื่อส่งเสริมนโยบายอย่างสมดุลด้วย และเมื่อก่อสร้างเส้นทางเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะใช้เวลาในการเดินทางจากตราดไปกรุงพนมเปญราว 4 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. เส้นทางดังกล่าวจะก่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ตามแนวชายแดนให้สามารถเชื่อมโยงทั้งด้านการค้า
การลงทุน การพัฒนาแรงงาน การท่องเที่ยวและการคมนาคมขนส่งให้แก่ประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม
2. ช่วยกระตุ้นการค้าและการลงทุนในแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจตลอดจนเพิ่มอำนาจการซื้อของกัมพูชาในอนาคต โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่จังหวัดเกาะกงซึ่งติดชายแดนไทย โดยเป็นความร่วมมือระหว่างไทยและกัมพูชา
3. ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการก่อสร้างในประเทศไทย เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวมีเงื่อนไขที่จะใช้ผู้รับเหมาไทย และใช้วัสดุก่อสร้างจากประเทศไทยอย่างน้อยร้อยละ 50 ของมูลค่าโครงการทั้งหมด
4. ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ไทยและกัมพูชา และช่วยเสริมสร้างบทบาทของไทยในภูมิภาค
5. ช่วยให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดน เพื่อกระจายความเจริญจากส่วนกลางไปยังเมืองชายแดน ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน การสร้างอาชีพ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจในพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชายแดนในภาคตะวันออก
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 33/2548 10 พฤษภาคม 48--