แท็ก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
องอาจ คล้ามไพบูลย์
พรรคประชาธิปัตย์
กัลยา โสภณพนิช
เอกอัครราชทูต
สหรัฐอเมริกา
วันนี้(13 ม.ค. 49 ) เวลา 14.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายเกียรติ สิทธีอมร คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา โดยผ่านทางนายราล์ฟ บอยซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อขอให้มีการทบทวนการเจรจรเขตการค้าเสรีระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในเรื่องของกระบวนการที่ต้องมีความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล และผ่านการมีส่วนร่วมของรัฐสภา และภาคประชาชน โดยขอให้รัฐบาลยึดตามแบบแผนของทางสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเคารพต่อสิทธิของประชาชน ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ สัมภาษณ์ภายหลังยื่นหนังสือว่า แนวทางของพรรคชาติไทยที่จะมีการเสนอกฎหมายว่าด้วยการทำข้อตกลงใดๆ ต้องผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรนั้น เป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เคยร่างกฎหมายไว้อยู่แล้ว อาจจะมีการนำกฎหมายดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาได้อีกครั้ง
“เราเรียกร้องอยู่แล้วนะครับ ในเรื่องของการให้รัฐสภามีส่วนร่วมแต่ขณะนี้ยังไม่ทราบท่าทีที่ชัดเจนของรัฐบาล ว่าจะมีการให้สภาเข้าไปมีส่วนร่วมในขั้นตอนไหนอย่างไร แต่ว่าโดยบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ ข้อตกลงนี้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติแน่นอน หรือว่า จะนำไปสู่การแก้ไขพระราชบัญญัติแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องมีการขอความเห็นชอบจากสภา แต่ว่าก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะมีการไปตกลงกัน ผมคิดว่ารัฐบาลไทยน่าจะดูแบบอย่างของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มาอ้างว่าคนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมไม่ได้ จะไปกระทบเสียหาย แล้วทำไมสหรัฐฯ เขาทำได้ ทำไมสหรัฐฯ เขาถึงเปิดโอกาสให้สภาของเขาได้รับทราบขอบเขตของการเจรจา ได้เปิดโอกาสให้ทั้งสมาชิกรัฐสภาทั้งฝ่ายต่าง ๆ ได้ช่วยให้ข้อมูลช่วยแสดงความคิดเห็น เพราะฉะนั้นเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะว่าในเมื่อประเทศที่เขาเจรจากับเราเขายังทำได้ เราก็ย่อมทำได้ ถ้าจะอ้างว่าเป็นระบบกฎหมาย ผมก็บอกว่าไม่มีระบบกฎหมาย ไม่มีระบบกฎหมายตรงไหนที่ห้ามเลย และก็ถ้ารัฐบาลจะแสดงออกถึงการเคารพประชาชนด้วยการให้ผู้แทนของประชาชนก็ดี หรือประชาชนโดยตรงก็ดีมีส่วนร่วม ผมมองไม่เห็นเลยว่าจะไปสร้างปัญหาอะไร” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ม.ค. 2549--จบ--
“เราเรียกร้องอยู่แล้วนะครับ ในเรื่องของการให้รัฐสภามีส่วนร่วมแต่ขณะนี้ยังไม่ทราบท่าทีที่ชัดเจนของรัฐบาล ว่าจะมีการให้สภาเข้าไปมีส่วนร่วมในขั้นตอนไหนอย่างไร แต่ว่าโดยบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ ข้อตกลงนี้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติแน่นอน หรือว่า จะนำไปสู่การแก้ไขพระราชบัญญัติแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องมีการขอความเห็นชอบจากสภา แต่ว่าก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะมีการไปตกลงกัน ผมคิดว่ารัฐบาลไทยน่าจะดูแบบอย่างของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มาอ้างว่าคนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมไม่ได้ จะไปกระทบเสียหาย แล้วทำไมสหรัฐฯ เขาทำได้ ทำไมสหรัฐฯ เขาถึงเปิดโอกาสให้สภาของเขาได้รับทราบขอบเขตของการเจรจา ได้เปิดโอกาสให้ทั้งสมาชิกรัฐสภาทั้งฝ่ายต่าง ๆ ได้ช่วยให้ข้อมูลช่วยแสดงความคิดเห็น เพราะฉะนั้นเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะว่าในเมื่อประเทศที่เขาเจรจากับเราเขายังทำได้ เราก็ย่อมทำได้ ถ้าจะอ้างว่าเป็นระบบกฎหมาย ผมก็บอกว่าไม่มีระบบกฎหมาย ไม่มีระบบกฎหมายตรงไหนที่ห้ามเลย และก็ถ้ารัฐบาลจะแสดงออกถึงการเคารพประชาชนด้วยการให้ผู้แทนของประชาชนก็ดี หรือประชาชนโดยตรงก็ดีมีส่วนร่วม ผมมองไม่เห็นเลยว่าจะไปสร้างปัญหาอะไร” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ม.ค. 2549--จบ--