วันนี้(18 เม.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ใช้วิธีประชุมรับรองผลการเลือกตั้งโดยผ่านโทรศัพท์ว่า โดยปกติสังคมข้องใจบทบาทของกกต.มากอยู่แล้ว ดังนั้นวิธีการดำเนินการอะไรก็ตามควรจะดูระเบียบข้อบังคับว่าความเหมาะสมในการปฏิบัติ หากระเบียบไม่ชัดเจนก็ควรดูว่าวิธีไหนที่เป็นวิธีการที่ใกล้เคียงกับระเบียบกฎเกณฑ์ให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาขึ้นมา และแนวปฏิบัติอะไรก็ตามที่จะทำให้เกิดข้อสงสัย ก็ควรต้องระมัดระวังมากๆ อย่างไรก็ตามเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวของกกต.คงจะรีบจนกระทั่งมองข้ามความสำคัญของวิธีการไป
“หากเป็นการคุยโทรศัพท์โดยไม่ขัดต่อระเบียบ และสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีลับลมคมนัยอะไร ก็ไม่เป็นไร แต่หากสังคมข้องใจอยู่แล้วยิ่งไปเพิ่มความข้องใจให้มากขึ้น กกต.ก็จะมีปัญหาด้วยตัวเอง ผมเข้าใจว่า กกต.คงดูข้อระเบียบ เพราะคงเขาคงแม่นระเบียบมากกว่าคนอื่น แต่ปัญหาว่า สิ่งจูงใจที่ให้ทำอะไรก็ตามที่ผิดไปจากแนวทางที่เคยปฏิบัตินั้น กกต.ต้องระมัดระวังให้มาก”นายชวน กล่าว
ต่อข้อถามที่ว่ากกต.เปิดให้มีการสมัครใหม่ใน 7 เขตที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียวนั้นมีความผิดปกติหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความเห็นขัดแย้งกันอยู่ระหว่างกกต.กลางกับกกต.จังหวัด โดยบางจังหวัดไม่ยอมเปิดรับสมัคร ยังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ขณะที่มีรายงานว่าบางเขตยอมเปิด จึงเกิดเป็นคำถามว่าข้อสรุปจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้การดำเนินการของกกต.จะต้องเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหา
“และจะมี มือปืนรับจ้างที่ลงสมัครในเขตนี้ได้คะแนนนิดหน่อย แล้วข้ามเขตไปสมัครอีกเขตหนึ่ง เมื่อมีคนให้ค่าตอบแทน หรือจ้างไป ก็ไปสมัคร โดยไม่ได้หวังว่าจะได้รับเลือกตั้ง แต่ไปสมัครเพื่อให้ได้ชื่อว่ามีคู่แข่ง.” นายชวนกล่าว
นายชวน กล่าวต่อว่า ดังนั้นกกต.ไม่ควรจะยอมให้มีการสมัครใหม่ แต่หากเห็นว่าไม่ขัดต่อกฎหมายแล้วยอมให้สมัครใหม่ ก็ต้องมาคิดต่อไปว่าควรจะแก้ไขในอนาคต แต่ขณะนี้วิธีนี้ทำให้ชาวบ้านสับสน ฉะนั้นกกต.จะต้องมีกติกาที่ชัดเจน และต้องพยายามทำให้ได้ข้อยุติโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติต่อไป และจะได้ไม่ให้ใช้วิธีการเลือกตั้งเช่นนี้เป็นเครื่องมือหากิน
ทั้งนี้ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงการเลือกส.ว.ในวันพรุ่งนี้ (19 เม.ย.)ว่า หากประชาชนเข้าใจบทบาทของส.ว.จะเห็นว่ามีความหมายในการเลือกคนที่เป็นอิสระมาทำหน้าที่ ซึ่งจะเห็นว่าในช่วงการเลือก ส.ว.ชุดแรก เมื่อตอนเริ่มต้นมีคนสนใจไปสมัครไม่มากนัก ฉะนั้นคนที่ได้มาอาจจะมีคุณสมบัติที่วิพากษ์วิจารณ์กันได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าบทบาทของส.ว.ชุดที่แล้วในช่วง 2 ปีแรกไม่ได้มีปัญหา โดยมีอิสระในการแสดงความคิดเห็น และลงมติ ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะขณะนั้นไม่ได้มีการแทรกแซง และไม่มีพรรคการเมืองเข้าไปยุ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล แต่บทบาทของส.ว.ชุดที่ผ่านมาเริ่มมีปัญหาเมื่อตอนที่พรรคไทยรักไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล เริ่มมีการกล่าวหาเรื่องการซื้อเสียงของส.ว.และในที่สุด ส.ว.บางคนก็ปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะที่ทำตามโพย หรือใบสั่ง ทำให้ให้เกิดความเสื่อมเสีย ทำให้ส.ว.ดี ๆ พลอยเสียชื่อเสียงไปด้วย ดังนั้นประชาชนจะต้องติดตามเรื่องนี้ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นรุนแรงมาก เพราะทำให้หลักการของบ้านเมืองพังได้
“ประชาชนจะต้องตามเรื่องนี้ว่าความเสียหายรุนแรงมาก เมื่อส.ว.ส่วนหนึ่งขายตัว และเลือกองค์กรอิสระตามที่เขาสั่งมา จะได้คนที่ไม่มีความเหมาะสม คนเหล่านี้ก็เข้าไปปกป้องคนที่ทำให้เขาได้เป็น ตรงนี้ที่ประชาชนไม่เข้าใจ มองไม่เห็น มองไม่ถึงจุดนี้ ซึ่งเสียหาต่อหลักการของบ้านเมืองอย่างยิ่ง ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พี่น้องมีเวลาสั้น ๆ ขอให้คิดเรื่องนี้ด้วย เลือกใครก็เป็นสิทธิของประชาชน แต่ประสบการณ์ 6 ปีที่เราเห็นมันอย่างนี้”นายชวน กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 เม.ย. 2549--จบ--
“หากเป็นการคุยโทรศัพท์โดยไม่ขัดต่อระเบียบ และสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีลับลมคมนัยอะไร ก็ไม่เป็นไร แต่หากสังคมข้องใจอยู่แล้วยิ่งไปเพิ่มความข้องใจให้มากขึ้น กกต.ก็จะมีปัญหาด้วยตัวเอง ผมเข้าใจว่า กกต.คงดูข้อระเบียบ เพราะคงเขาคงแม่นระเบียบมากกว่าคนอื่น แต่ปัญหาว่า สิ่งจูงใจที่ให้ทำอะไรก็ตามที่ผิดไปจากแนวทางที่เคยปฏิบัตินั้น กกต.ต้องระมัดระวังให้มาก”นายชวน กล่าว
ต่อข้อถามที่ว่ากกต.เปิดให้มีการสมัครใหม่ใน 7 เขตที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียวนั้นมีความผิดปกติหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความเห็นขัดแย้งกันอยู่ระหว่างกกต.กลางกับกกต.จังหวัด โดยบางจังหวัดไม่ยอมเปิดรับสมัคร ยังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ขณะที่มีรายงานว่าบางเขตยอมเปิด จึงเกิดเป็นคำถามว่าข้อสรุปจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้การดำเนินการของกกต.จะต้องเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหา
“และจะมี มือปืนรับจ้างที่ลงสมัครในเขตนี้ได้คะแนนนิดหน่อย แล้วข้ามเขตไปสมัครอีกเขตหนึ่ง เมื่อมีคนให้ค่าตอบแทน หรือจ้างไป ก็ไปสมัคร โดยไม่ได้หวังว่าจะได้รับเลือกตั้ง แต่ไปสมัครเพื่อให้ได้ชื่อว่ามีคู่แข่ง.” นายชวนกล่าว
นายชวน กล่าวต่อว่า ดังนั้นกกต.ไม่ควรจะยอมให้มีการสมัครใหม่ แต่หากเห็นว่าไม่ขัดต่อกฎหมายแล้วยอมให้สมัครใหม่ ก็ต้องมาคิดต่อไปว่าควรจะแก้ไขในอนาคต แต่ขณะนี้วิธีนี้ทำให้ชาวบ้านสับสน ฉะนั้นกกต.จะต้องมีกติกาที่ชัดเจน และต้องพยายามทำให้ได้ข้อยุติโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติต่อไป และจะได้ไม่ให้ใช้วิธีการเลือกตั้งเช่นนี้เป็นเครื่องมือหากิน
ทั้งนี้ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงการเลือกส.ว.ในวันพรุ่งนี้ (19 เม.ย.)ว่า หากประชาชนเข้าใจบทบาทของส.ว.จะเห็นว่ามีความหมายในการเลือกคนที่เป็นอิสระมาทำหน้าที่ ซึ่งจะเห็นว่าในช่วงการเลือก ส.ว.ชุดแรก เมื่อตอนเริ่มต้นมีคนสนใจไปสมัครไม่มากนัก ฉะนั้นคนที่ได้มาอาจจะมีคุณสมบัติที่วิพากษ์วิจารณ์กันได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าบทบาทของส.ว.ชุดที่แล้วในช่วง 2 ปีแรกไม่ได้มีปัญหา โดยมีอิสระในการแสดงความคิดเห็น และลงมติ ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะขณะนั้นไม่ได้มีการแทรกแซง และไม่มีพรรคการเมืองเข้าไปยุ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล แต่บทบาทของส.ว.ชุดที่ผ่านมาเริ่มมีปัญหาเมื่อตอนที่พรรคไทยรักไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล เริ่มมีการกล่าวหาเรื่องการซื้อเสียงของส.ว.และในที่สุด ส.ว.บางคนก็ปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะที่ทำตามโพย หรือใบสั่ง ทำให้ให้เกิดความเสื่อมเสีย ทำให้ส.ว.ดี ๆ พลอยเสียชื่อเสียงไปด้วย ดังนั้นประชาชนจะต้องติดตามเรื่องนี้ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นรุนแรงมาก เพราะทำให้หลักการของบ้านเมืองพังได้
“ประชาชนจะต้องตามเรื่องนี้ว่าความเสียหายรุนแรงมาก เมื่อส.ว.ส่วนหนึ่งขายตัว และเลือกองค์กรอิสระตามที่เขาสั่งมา จะได้คนที่ไม่มีความเหมาะสม คนเหล่านี้ก็เข้าไปปกป้องคนที่ทำให้เขาได้เป็น ตรงนี้ที่ประชาชนไม่เข้าใจ มองไม่เห็น มองไม่ถึงจุดนี้ ซึ่งเสียหาต่อหลักการของบ้านเมืองอย่างยิ่ง ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พี่น้องมีเวลาสั้น ๆ ขอให้คิดเรื่องนี้ด้วย เลือกใครก็เป็นสิทธิของประชาชน แต่ประสบการณ์ 6 ปีที่เราเห็นมันอย่างนี้”นายชวน กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 เม.ย. 2549--จบ--