วันนี้ (19 ก.ค.49 ) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมอดีตส.ส.และแกนนำของพรรคว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการชี้แจงสถานการณ์ทางการเมือง โดยมีการตั้งคณะเตรียมการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ 4 ประเด็น คือ 1.กรณีพรรคได้เปิดเวทีปราศรัยตามสถานที่ต่างๆ ถึงระบอบทักษิณ โดยมอบหมายให้ นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล กรรมการบริหารพรรคเป็นหลักในการรวบรวมอดีตส.ส.ของพรรค พร้อมทั้งจัดทำคำชี้แจงข้องกล่าวหา 2.กรณีที่ผู้สมัครจากพรรคเล็กรับจ้างลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อหนีเกณฑ์ 20 % ซึ่งได้มอบหมายให้นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค และนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ กรรมการบริหารพรรค เป็นผู้รวบรวมข้อมูลพร้อมกับหาคณะทำงาน 3.กรณีถูกกล่าวหาว่าพรรคขัดขวางการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่จังหวัดสงขลา โดยมอบหมายให้นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรค เป็นผู้รวมบรวมข้อมูลพร้อมคณะทำงาน และ 4.กรณีพรรคถูกกล่าวว่ามีความสัมพันธ์กับบุลคคลบางคนที่มีความพยายามจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค เป็นผู้รวบรวม
นายองอาจ กล่าวว่า ทั้งนี้ที่ประชุมพรรคยังได้แต่งตั้งนาย คนึง ฤาชัย เจ้าของสำนักงานทนายคนึง ฤาชัย เป็นประธานคณะทำงานทนายความในชั้นศาล นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้อดีตส.ส.ของพรรคทุกคน หากมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้แจ้งข้อมูลผ่านคณะทำงานเพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป อย่างไรก็ตามแกนนำพรรคได้แจ้งที่ในที่ประชุมว่า เบื้องต้นจากการที่คณะทำงานได้ไปรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมด เชื่อว่าข้อกล่าวหาไม่สามารถเป็นเหตุให้พรรคถูกยุบได้ เพราะหลายประเด็นมีความพยายามให้เกิดความเชื่อมโยงกับบุคคลต่างๆ ซึ่งไม่น่าจะส่งผลต่อการพิจารณาคำร้อง อีกทั้งข้อเท็จจริงที่ถูกระบุไว้ยังคลาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริงและหลายกรณีก็เป็นเพียงคำบอกเล่าจากผู้กล่าวหา ซึ่งเป็นคู่กรณีกับพรรคโดยตรง ถือเป็นคำกล่าวหาที่มีอคติ มุ่งร้ายพรรคมากกว่า ที่จะเอาผิดกับพรรคได้ ดังนั้นที่ประชุมมั่นใจว่าข้อมูลทั้งหมดพรรคจะชี้แจงข้อกล่าวหาได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ก.ค. 2549--จบ--
นายองอาจ กล่าวว่า ทั้งนี้ที่ประชุมพรรคยังได้แต่งตั้งนาย คนึง ฤาชัย เจ้าของสำนักงานทนายคนึง ฤาชัย เป็นประธานคณะทำงานทนายความในชั้นศาล นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้อดีตส.ส.ของพรรคทุกคน หากมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้แจ้งข้อมูลผ่านคณะทำงานเพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป อย่างไรก็ตามแกนนำพรรคได้แจ้งที่ในที่ประชุมว่า เบื้องต้นจากการที่คณะทำงานได้ไปรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมด เชื่อว่าข้อกล่าวหาไม่สามารถเป็นเหตุให้พรรคถูกยุบได้ เพราะหลายประเด็นมีความพยายามให้เกิดความเชื่อมโยงกับบุคคลต่างๆ ซึ่งไม่น่าจะส่งผลต่อการพิจารณาคำร้อง อีกทั้งข้อเท็จจริงที่ถูกระบุไว้ยังคลาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริงและหลายกรณีก็เป็นเพียงคำบอกเล่าจากผู้กล่าวหา ซึ่งเป็นคู่กรณีกับพรรคโดยตรง ถือเป็นคำกล่าวหาที่มีอคติ มุ่งร้ายพรรคมากกว่า ที่จะเอาผิดกับพรรคได้ ดังนั้นที่ประชุมมั่นใจว่าข้อมูลทั้งหมดพรรคจะชี้แจงข้อกล่าวหาได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ก.ค. 2549--จบ--