‘อลงกรณ์’ ตำหนิ รัฐมนตรีคมนาคมและผู้บริหารบทม.ที่ปิดบังปัญหาผิวรันเวย์ฝั่งตะวันตก ชี้พฤติกรรมอุ้มผู้รับเหมากลุ่มไอโอที. เรียกร้องรัฐบาลแจงเหตุผลจ่ายเงินเกือบ100 เปอร์เซ็นต์ไปได้อย่างไรทั้งที่งานมีปัญหา
วันนี้(19 ม.ค.49) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลง ว่า การออกมายอมรับว่าผิวรันเวย์ฝั่งตะวันตกของสนามบินสุวรรณภูมิมีปัญหาของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องเพื่อจะได้แก้ไขปัญหามิให้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์และกำหนดเปิดสนามบินสุวรรณภูมิในเดือนมิถุนายน 2549 เพราะนอกจากจะต้องรื้อผิวเพื่อปูพื้นรันเวย์บางส่วนใหม่สำหรับรันเวย์ฝั่งตะวันตกแล้ว บทม.โดยผู้รับเหมากลุ่ม(ไอโอที.)ประกอบด้วยบริษัทอิตาเลียนไทย-โอบายาชิและทาเกนากะจะต้องทำการเซาะร่อง(GROOVING)ผิวรันเวย์ฝั่งตะวันออกให้แล้วเสร็จตามสัญญาซึ่งจะต้องให้บริษัทวิศวกรที่ปรึกษากลุ่มกิจการร่วมค้าเอพีซี.ตรวจสอบก่อนการตรวจรับและส่งมอบงาน
ส.ส.อลงกรณ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการออกมายอมรับปัญหาผิวรันเวย์ครั้งนี้ก็ยังให้ข้อมูลไม่ตรงกันและมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงส่อว่ามีความพยายามอุ้มผู้รับเหมากลุ่ม ไอโอที.เพราะปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเดือนสิงหาคม 2548 โดยบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาเอพีซี.ซึ่งบทม.จ้างให้ควบคุมงานก่อสร้างได้ตรวจพบปัญหาผิวรันเวย์ฝั่งตะวันตกที่มีการเซาะร่องว่าวัสดุและการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานเกิดการแตกร้าวและสะเก็ดอาจเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่ทะยานขึ้นหรือร่อนลงซึ่งทางกลุ่มผู้รับเหมาไอโอที.ได้ทำหนังสือชี้แจงแต่บริษัทวิศวกรที่ปรึกษายังยืนยันการตรวจสอบเช่นเดิมว่าตรวจรับไม่ได้ แทนที่รัฐมนตรีคมนาคมหรือผู้บริหารบทม.จะชี้ขาดแล้วสั่งให้บริษัทผู้รับเหมาทำการรื้อผิวปรับปรุงรันเวย์ตะวันตกเสียใหม่กลับดองเรื่องและเก็บเป็นความลับจนตนสืบสวนทราบเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วและแถลงข่าวต่อสาธารณชนเพื่อให้มีการชี้แจงและแก้ไขปัญหาแต่รัฐมนตรีคมนาคม ผู้บริหาร ทอท.และบทม.กลับปฏิเสธบุคคลที่สมควรถูกตำหนิในเรื่องนี้อย่างน้อย 2 คน คือนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายสมชัย สวัสดิผล ผู้บริหาร ทอท.และ บทม.ที่ออกมาปฎิเสธและร่วมกันปกปิดปัญหานี้เมื่อครั้งตนเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนปี 2548
ส.ส.อลงกรณ์กล่าวสรุปด้วยการเรียกร้องให้ รัฐบาลออกมาชี้แจงว่าทำไมจึงมีการจ่ายเงินโครงการก่อสร้างรันเวย์ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของสนามบินสุวรรณภูมิไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ทั้งที่ยังมีปัญหาคาราคาซังมาตั้งแต่กลางปี 2548
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ม.ค. 2549--จบ--
วันนี้(19 ม.ค.49) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลง ว่า การออกมายอมรับว่าผิวรันเวย์ฝั่งตะวันตกของสนามบินสุวรรณภูมิมีปัญหาของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องเพื่อจะได้แก้ไขปัญหามิให้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์และกำหนดเปิดสนามบินสุวรรณภูมิในเดือนมิถุนายน 2549 เพราะนอกจากจะต้องรื้อผิวเพื่อปูพื้นรันเวย์บางส่วนใหม่สำหรับรันเวย์ฝั่งตะวันตกแล้ว บทม.โดยผู้รับเหมากลุ่ม(ไอโอที.)ประกอบด้วยบริษัทอิตาเลียนไทย-โอบายาชิและทาเกนากะจะต้องทำการเซาะร่อง(GROOVING)ผิวรันเวย์ฝั่งตะวันออกให้แล้วเสร็จตามสัญญาซึ่งจะต้องให้บริษัทวิศวกรที่ปรึกษากลุ่มกิจการร่วมค้าเอพีซี.ตรวจสอบก่อนการตรวจรับและส่งมอบงาน
ส.ส.อลงกรณ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการออกมายอมรับปัญหาผิวรันเวย์ครั้งนี้ก็ยังให้ข้อมูลไม่ตรงกันและมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงส่อว่ามีความพยายามอุ้มผู้รับเหมากลุ่ม ไอโอที.เพราะปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเดือนสิงหาคม 2548 โดยบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาเอพีซี.ซึ่งบทม.จ้างให้ควบคุมงานก่อสร้างได้ตรวจพบปัญหาผิวรันเวย์ฝั่งตะวันตกที่มีการเซาะร่องว่าวัสดุและการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานเกิดการแตกร้าวและสะเก็ดอาจเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่ทะยานขึ้นหรือร่อนลงซึ่งทางกลุ่มผู้รับเหมาไอโอที.ได้ทำหนังสือชี้แจงแต่บริษัทวิศวกรที่ปรึกษายังยืนยันการตรวจสอบเช่นเดิมว่าตรวจรับไม่ได้ แทนที่รัฐมนตรีคมนาคมหรือผู้บริหารบทม.จะชี้ขาดแล้วสั่งให้บริษัทผู้รับเหมาทำการรื้อผิวปรับปรุงรันเวย์ตะวันตกเสียใหม่กลับดองเรื่องและเก็บเป็นความลับจนตนสืบสวนทราบเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วและแถลงข่าวต่อสาธารณชนเพื่อให้มีการชี้แจงและแก้ไขปัญหาแต่รัฐมนตรีคมนาคม ผู้บริหาร ทอท.และบทม.กลับปฏิเสธบุคคลที่สมควรถูกตำหนิในเรื่องนี้อย่างน้อย 2 คน คือนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายสมชัย สวัสดิผล ผู้บริหาร ทอท.และ บทม.ที่ออกมาปฎิเสธและร่วมกันปกปิดปัญหานี้เมื่อครั้งตนเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนปี 2548
ส.ส.อลงกรณ์กล่าวสรุปด้วยการเรียกร้องให้ รัฐบาลออกมาชี้แจงว่าทำไมจึงมีการจ่ายเงินโครงการก่อสร้างรันเวย์ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของสนามบินสุวรรณภูมิไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ทั้งที่ยังมีปัญหาคาราคาซังมาตั้งแต่กลางปี 2548
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ม.ค. 2549--จบ--