กรุงเทพ--25 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการจะเดินทางเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ (Official Visit) ในวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2549 ตามคำเชิญของ ดร. ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และหลังจากนั้นจะเดินทางเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม 2549 ตามคำเชิญของนางกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์
การเยือนอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อแนะนำตัว และสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกันในระดับผู้นำ อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศทั้งสองให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป ทั้งในระดับทวิภาคีและในกรอบอาเซียน
ในระหว่างการเยือนอินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีจะได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รวมทั้งจะมีการหารือเต็มคณะระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยและอินโดนีเซีย โดยมีนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอินโดนีเซียเป็นประธาน นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย อะกุง ลักโซโน ประธานสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียด้วย
ส่วนในช่วงการเยือนฟิลิปปินส์ นายกรัฐมนตรีจะได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ และจะมีการหารือเต็มคณะระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองฝ่ายโดยนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ร่วมกันเป็นประธานด้วย
สำหรับประเด็นที่จะหารือกันระหว่างการเยือนสองประเทศครั้งนี้ จะเป็นเรื่องการขยายความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศทั้งสอง รวมทั้งการชี้แจงภารกิจการปฏิรูปการเมืองไทยในช่วงระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า สถานการณ์ในภาคใต้ของไทย และสถานการณ์ต่างๆ ในภูมิภาค เป็นต้น ทั้งนี้ โดยที่ฟิลิปปินส์เป็นประธานอาเซียนในขณะนี้ ก็จะมีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียน เช่น การเตรียมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 12 การยกร่างกฎบัตรอาเซียน ความร่วมมือเรื่องพลังงานและการต่อต้านการก่อการร้ายในกรอบอาเซียน และเรื่องอื่นๆ
นอกจากนั้น ฝ่ายฟิลิปปินส์ยังสนใจที่จะหารือกับฝ่ายไทยในเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจทวิภาคี การพัฒนาพลังงาน รวมทั้งพลังงานทดแทน (Bio-fuel) การขยายการลงทุนระหว่างกัน การใช้แนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในนโยบายเศรษฐกิจไทย เป็นต้น สำหรับกับอินโดนีเซียนั้น จะมีการหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการประมงและพลังงาน การขยายการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และเรื่องอื่นๆ ที่เป็นที่สนใจร่วมกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการจะเดินทางเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ (Official Visit) ในวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2549 ตามคำเชิญของ ดร. ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และหลังจากนั้นจะเดินทางเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม 2549 ตามคำเชิญของนางกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์
การเยือนอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อแนะนำตัว และสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกันในระดับผู้นำ อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศทั้งสองให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป ทั้งในระดับทวิภาคีและในกรอบอาเซียน
ในระหว่างการเยือนอินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีจะได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รวมทั้งจะมีการหารือเต็มคณะระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยและอินโดนีเซีย โดยมีนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอินโดนีเซียเป็นประธาน นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย อะกุง ลักโซโน ประธานสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียด้วย
ส่วนในช่วงการเยือนฟิลิปปินส์ นายกรัฐมนตรีจะได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ และจะมีการหารือเต็มคณะระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองฝ่ายโดยนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ร่วมกันเป็นประธานด้วย
สำหรับประเด็นที่จะหารือกันระหว่างการเยือนสองประเทศครั้งนี้ จะเป็นเรื่องการขยายความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศทั้งสอง รวมทั้งการชี้แจงภารกิจการปฏิรูปการเมืองไทยในช่วงระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า สถานการณ์ในภาคใต้ของไทย และสถานการณ์ต่างๆ ในภูมิภาค เป็นต้น ทั้งนี้ โดยที่ฟิลิปปินส์เป็นประธานอาเซียนในขณะนี้ ก็จะมีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียน เช่น การเตรียมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 12 การยกร่างกฎบัตรอาเซียน ความร่วมมือเรื่องพลังงานและการต่อต้านการก่อการร้ายในกรอบอาเซียน และเรื่องอื่นๆ
นอกจากนั้น ฝ่ายฟิลิปปินส์ยังสนใจที่จะหารือกับฝ่ายไทยในเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจทวิภาคี การพัฒนาพลังงาน รวมทั้งพลังงานทดแทน (Bio-fuel) การขยายการลงทุนระหว่างกัน การใช้แนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในนโยบายเศรษฐกิจไทย เป็นต้น สำหรับกับอินโดนีเซียนั้น จะมีการหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการประมงและพลังงาน การขยายการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และเรื่องอื่นๆ ที่เป็นที่สนใจร่วมกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-