แท็ก
เกษตรกร
"ผักชีใบโตจัง เดี๋ยวจะให้คนมาเก็บไปตรวจนะ" คุณอรพินท์ ร้องบอกชาวสวนในเครือข่ายการผลิตของเธอด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นนัยน์ตาที่มองสำรวจสวนผักตรงหน้าฉายแววแห่งความสุขระคน ความภูมิใจในสิ่งที่เธอและสามีได้ลงแรงและเหนื่อยกรำมาตลอด 3 ปี
คุณอรพินท์ไม่ใช่นักวิชาการเกษตรหรือเกษตรกรโดยสายเลือด เธออยู่กับงานวิชาการในฐานะอาจารย์คณะศิลปศาสตร์และดำรงตำแหน่งคณบดีมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ก่อนจะผันตัวเองมาจับงานด้านเกษตรกรโดยการผลักดันของสามี(พันเอกจุลินท์ ธวัชโยธิน) ซึ่งได้มีโอกาสสัมผัสชีวิตเกษตรกรในระหว่างรับราชการทหารและเห็นว่าเกษตรกรไทยพึ่งพาสารเคมีและยาฆ่าแมลงมากเกินไปจนทำให้ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงและผลผลิตไม่ได้มาตรฐานการส่งออก พันเอกจุลินทร์จึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะออกจากราชการมาหาความท้าทายใหม่ๆโดยเริ่มจากธุรกิจผลิตปุ๋ยและผลิตภัณฑ์ชีวภาพภายใต้ชื่อ บริษัท ลินท์ พินท์ ภรณ์ จำกัด มีคุณอรพินท์ วิศิษฎโสภณ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท ผลิตและจำหน่ายผักปลอดสารพิษโดยใช้เครื่องหมายการค้า "อีคอลเฮาส์" ป้อนตรงให้กับตลาดในประเทศโดยการจำหน่ายผ่านซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ รวมทั้งส่งไปขายในต่างประเทศผ่านเทรดเดอร์อีกต่อหนึ่ง
"เราไม่ได้เริ่มธุรกิจจากความต้องการทำธุรกิจ เราเริ่มต้นจากความรักและความตั้งใจจริงที่จะปลูกผักที่ครอบครัวเราและผู้บริโภคทั่วโลกกินได้อย่างปลอดภัยซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้สำเร็จในประเทศไทย ผักในแปลงของเราเคยไม่ผ่านการตรวจสารตกค้างอยู่หลายครั้งเพราะสารเคมีจากไร่ข้างๆ ฟุ้งกระจายเข้ามา"คุณอรพินท์เริ่มเล่าถึงอุปสรรคทางธุรกิจที่เธอต้องฟันฝ่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา
กระบวนการผลิตผักปลอดสารพิษไม่ได้หมายความว่าห้ามใช้สารเคมีเลย หากแต่ปริมาณและระยะเวลาการใช้สารเคมีจะต้องอยู่ในความควบคุมของนักวิชาการเกษตรเพื่อให้ผักในระยะเก็บเกี่ยวปลอดจากสารพิษตกค้าง แต่ปัญหาที่ควบคุมได้ยากคือสารเคมีที่ฟุ้งกระจายมาจากไร่สวนข้างเคียงจนทำให้ผักของเธอมีสารตกค้างเกินกำหนด คุณอรพินท์จึงแก้ปัญหาโดยการโน้มน้าวให้เกษตรกรเหล่านั้นเข้าร่วมเครือข่ายการผลิตของเธอ หรือเจรจาตกลงให้มีการพ่นสารเคมีที่ไม่ตรงกับระยะเก็บเกี่ยวของเธอ ทั้งนี้เกษตรกรในเครือข่ายของเธอจะต้องเป็นหูเป็นตาให้มีการเลื่อนวันเก็บเกี่ยวออกไปหากไม่มั่นใจว่ายังมีสารเคมีตกค้างอยู่ในแปลงผัก
"เราพูดทุกวันให้เขาคิดถึงคุณภาพชีวิต บอกให้เข้าใจว่าทุกอาชีพต้องมีจรรยาบรรณ ธุรกิจปลูกผักก็ต้องมีจรรยาพืช ซึ่งหมายถึงการผลิตพืชผักที่ดีที่สุดป้อนสู่ผู้บริโภค เราทำทุกอย่างให้เขาเห็นความหวังดีของเราต่อครอบครัวของเขา ทำแม้กระทั่งสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ เพื่อจะเข้าไปนั่งกลางใจพ่อแม่เขา" คุณอรพินท์กล่าว
คุณอรพินท์กล่าวต่อไปว่า เธอโชคดีที่เริ่มธุรกิจนี้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศให้ 2547 เป็นปีแห่งความปลอดภัยทางด้านอาหารพร้อมผลักดันโครงการ "ครัวไทยสู่โลก" โดยมีเป้าหมายพัฒนามาตรฐานของการผลิตใจแปลงเกษตรขึ้นไปจนถึงอาหารที่เสิร์ฟบนโต๊ะ ผู้บริโภคและผู้ผลิตอาหารทั่วประเทศจึงเริ่มขานรับสินค้าผักปลอดสารพิษ และในปีนี้ ลินท์ พินท์ ภรณ์ ตั้งใจจะส่งออกเองเป็นครั้งแรกโดยเริ่มจากการส่งออกเครื่องเทศ เช่น ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูดไปยังตลาดสิงคโปร์ และฮ่องกง ซึ่งมีระยะทางไม่ไกลจากไทยนัก เพื่อทดสอบเรื่องต้นทุนการขนส่งและเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันบรรยากาศการแข่งขันของธุรกิจผักปลอดสารพิษในประเทศยังไม่คึกคักนักเพราะมีผู้ทำจริงจังเพียง 12 ราย และภายในปีนี้อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 22 ราย ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าห่วงเพราะเธอรู้ดีว่าการสร้างธุรกิจนี้ให้ประสบความสำเร็จจนสามารถส่งออกได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ขณะที่การแข่งขันในต่างประเทศดูจะมีเวียดนามและจีนเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว แต่ถือเป็นความโชคดีของไทยที่มีข้อได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์ พืชผักหลายอย่างของไทยจึงสวยงามมีรสชาติอร่อยและเป็นที่ต้องการมากกว่า
"สิ่งที่ลูกค้าอยากได้คือ ความปลอดภัย ความสวยงามและรสชาติ ซึ่งเรามั่นใจว่าสามารถผลิตผักที่มีคุณสมบัติครบทุกอย่างที่เขาต้องการได้ เท่านี้ลูกค้าก็จะไม่หนีเราไปไหน" คุณอรพินท์กล่าวด้วยมั่นใจและมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีและสมบูรณ์ที่สุดให้แก่ลูกค้าของเธอ
คุณอรพินท์กล่าวในตอนท้ายว่าขอให้ผู้เริ่มต้นทำธุรกิจตั้งใจจริง ในระยะแรกอย่าคิดถึงกำไร ให้คิดถึงคุณภาพสินค้าที่สามารถแข่งขันกับคนอื่นได้ก่อน ทุนเป็นปัจจัยรองลงมา แม้ไม่มีทุน ธสน. ยังยินดีสนับสนุน สิ่งสำคัญอยู่ที่ความพร้อมที่จะลงสนามและความพยายามที่จะต่อสู้กับอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นเพียงเท่านั้นธุรกิจก็จะอยู่รอดได้โดยมี ธสน. เป็นเพื่อนคอยให้คำแนะนำและสนับสนุนให้กิจการขยายตัวต่อไปได้ เหมือนกรณีของผู้ผลิตรายเล็กๆ อย่างลินท์ พินท์ ภรณ์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 3 ปี ในการก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตผักปลอดสารพิษชั้นนำของไทย โดยมีเครือข่ายการผลิตของบริษัทในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี ชัยนาท และเชียงใหม่ ทำงานอย่างแข็งขันตามประสาผู้ผลิตที่มีจรรยาพืชเพื่อผู้บริโภคที่มีจรรยาโภชน์ คือ เลือกกินตามหลักโภชนาเพื่อลดการสะสมพิษ โดยใช้กากอาหารจากเส้นใยพืชเป็นตัวนำ การขับถ่ายเป็นตัวตาม และคุณประโยชน์เป็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่--จบ--
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กุมภาพันธ์ 2548--
-พห-
คุณอรพินท์ไม่ใช่นักวิชาการเกษตรหรือเกษตรกรโดยสายเลือด เธออยู่กับงานวิชาการในฐานะอาจารย์คณะศิลปศาสตร์และดำรงตำแหน่งคณบดีมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ก่อนจะผันตัวเองมาจับงานด้านเกษตรกรโดยการผลักดันของสามี(พันเอกจุลินท์ ธวัชโยธิน) ซึ่งได้มีโอกาสสัมผัสชีวิตเกษตรกรในระหว่างรับราชการทหารและเห็นว่าเกษตรกรไทยพึ่งพาสารเคมีและยาฆ่าแมลงมากเกินไปจนทำให้ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงและผลผลิตไม่ได้มาตรฐานการส่งออก พันเอกจุลินทร์จึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะออกจากราชการมาหาความท้าทายใหม่ๆโดยเริ่มจากธุรกิจผลิตปุ๋ยและผลิตภัณฑ์ชีวภาพภายใต้ชื่อ บริษัท ลินท์ พินท์ ภรณ์ จำกัด มีคุณอรพินท์ วิศิษฎโสภณ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท ผลิตและจำหน่ายผักปลอดสารพิษโดยใช้เครื่องหมายการค้า "อีคอลเฮาส์" ป้อนตรงให้กับตลาดในประเทศโดยการจำหน่ายผ่านซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ รวมทั้งส่งไปขายในต่างประเทศผ่านเทรดเดอร์อีกต่อหนึ่ง
"เราไม่ได้เริ่มธุรกิจจากความต้องการทำธุรกิจ เราเริ่มต้นจากความรักและความตั้งใจจริงที่จะปลูกผักที่ครอบครัวเราและผู้บริโภคทั่วโลกกินได้อย่างปลอดภัยซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้สำเร็จในประเทศไทย ผักในแปลงของเราเคยไม่ผ่านการตรวจสารตกค้างอยู่หลายครั้งเพราะสารเคมีจากไร่ข้างๆ ฟุ้งกระจายเข้ามา"คุณอรพินท์เริ่มเล่าถึงอุปสรรคทางธุรกิจที่เธอต้องฟันฝ่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา
กระบวนการผลิตผักปลอดสารพิษไม่ได้หมายความว่าห้ามใช้สารเคมีเลย หากแต่ปริมาณและระยะเวลาการใช้สารเคมีจะต้องอยู่ในความควบคุมของนักวิชาการเกษตรเพื่อให้ผักในระยะเก็บเกี่ยวปลอดจากสารพิษตกค้าง แต่ปัญหาที่ควบคุมได้ยากคือสารเคมีที่ฟุ้งกระจายมาจากไร่สวนข้างเคียงจนทำให้ผักของเธอมีสารตกค้างเกินกำหนด คุณอรพินท์จึงแก้ปัญหาโดยการโน้มน้าวให้เกษตรกรเหล่านั้นเข้าร่วมเครือข่ายการผลิตของเธอ หรือเจรจาตกลงให้มีการพ่นสารเคมีที่ไม่ตรงกับระยะเก็บเกี่ยวของเธอ ทั้งนี้เกษตรกรในเครือข่ายของเธอจะต้องเป็นหูเป็นตาให้มีการเลื่อนวันเก็บเกี่ยวออกไปหากไม่มั่นใจว่ายังมีสารเคมีตกค้างอยู่ในแปลงผัก
"เราพูดทุกวันให้เขาคิดถึงคุณภาพชีวิต บอกให้เข้าใจว่าทุกอาชีพต้องมีจรรยาบรรณ ธุรกิจปลูกผักก็ต้องมีจรรยาพืช ซึ่งหมายถึงการผลิตพืชผักที่ดีที่สุดป้อนสู่ผู้บริโภค เราทำทุกอย่างให้เขาเห็นความหวังดีของเราต่อครอบครัวของเขา ทำแม้กระทั่งสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ เพื่อจะเข้าไปนั่งกลางใจพ่อแม่เขา" คุณอรพินท์กล่าว
คุณอรพินท์กล่าวต่อไปว่า เธอโชคดีที่เริ่มธุรกิจนี้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศให้ 2547 เป็นปีแห่งความปลอดภัยทางด้านอาหารพร้อมผลักดันโครงการ "ครัวไทยสู่โลก" โดยมีเป้าหมายพัฒนามาตรฐานของการผลิตใจแปลงเกษตรขึ้นไปจนถึงอาหารที่เสิร์ฟบนโต๊ะ ผู้บริโภคและผู้ผลิตอาหารทั่วประเทศจึงเริ่มขานรับสินค้าผักปลอดสารพิษ และในปีนี้ ลินท์ พินท์ ภรณ์ ตั้งใจจะส่งออกเองเป็นครั้งแรกโดยเริ่มจากการส่งออกเครื่องเทศ เช่น ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูดไปยังตลาดสิงคโปร์ และฮ่องกง ซึ่งมีระยะทางไม่ไกลจากไทยนัก เพื่อทดสอบเรื่องต้นทุนการขนส่งและเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันบรรยากาศการแข่งขันของธุรกิจผักปลอดสารพิษในประเทศยังไม่คึกคักนักเพราะมีผู้ทำจริงจังเพียง 12 ราย และภายในปีนี้อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 22 ราย ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าห่วงเพราะเธอรู้ดีว่าการสร้างธุรกิจนี้ให้ประสบความสำเร็จจนสามารถส่งออกได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ขณะที่การแข่งขันในต่างประเทศดูจะมีเวียดนามและจีนเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว แต่ถือเป็นความโชคดีของไทยที่มีข้อได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์ พืชผักหลายอย่างของไทยจึงสวยงามมีรสชาติอร่อยและเป็นที่ต้องการมากกว่า
"สิ่งที่ลูกค้าอยากได้คือ ความปลอดภัย ความสวยงามและรสชาติ ซึ่งเรามั่นใจว่าสามารถผลิตผักที่มีคุณสมบัติครบทุกอย่างที่เขาต้องการได้ เท่านี้ลูกค้าก็จะไม่หนีเราไปไหน" คุณอรพินท์กล่าวด้วยมั่นใจและมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีและสมบูรณ์ที่สุดให้แก่ลูกค้าของเธอ
คุณอรพินท์กล่าวในตอนท้ายว่าขอให้ผู้เริ่มต้นทำธุรกิจตั้งใจจริง ในระยะแรกอย่าคิดถึงกำไร ให้คิดถึงคุณภาพสินค้าที่สามารถแข่งขันกับคนอื่นได้ก่อน ทุนเป็นปัจจัยรองลงมา แม้ไม่มีทุน ธสน. ยังยินดีสนับสนุน สิ่งสำคัญอยู่ที่ความพร้อมที่จะลงสนามและความพยายามที่จะต่อสู้กับอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นเพียงเท่านั้นธุรกิจก็จะอยู่รอดได้โดยมี ธสน. เป็นเพื่อนคอยให้คำแนะนำและสนับสนุนให้กิจการขยายตัวต่อไปได้ เหมือนกรณีของผู้ผลิตรายเล็กๆ อย่างลินท์ พินท์ ภรณ์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 3 ปี ในการก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตผักปลอดสารพิษชั้นนำของไทย โดยมีเครือข่ายการผลิตของบริษัทในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี ชัยนาท และเชียงใหม่ ทำงานอย่างแข็งขันตามประสาผู้ผลิตที่มีจรรยาพืชเพื่อผู้บริโภคที่มีจรรยาโภชน์ คือ เลือกกินตามหลักโภชนาเพื่อลดการสะสมพิษ โดยใช้กากอาหารจากเส้นใยพืชเป็นตัวนำ การขับถ่ายเป็นตัวตาม และคุณประโยชน์เป็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่--จบ--
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กุมภาพันธ์ 2548--
-พห-